เจ้าหน้าที่ซ้อนแผน จับแม่ยาย-เมีย ของผู้ต้องหา ซึ่งเป็นเอเย่นต์เฮโรอีน หลังหอบเงินล้านพยายามติดสินบน แลกปล่อยตัว
วันที่ 22 ธ.ค. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจปราบปรามยาเสพติดกาญจนบุรี ร่วมกับ ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 13 เจ้าหน้าที่ทหารรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร และทหารชุดการข่าวกองกำลังสุรสีห์ วางแผนสกัดจับขบวนการค้ายาเสพติด และขยายผลได้ผู้ต้องหาและของกลางเพิ่ม
โดยชุดจับกุมได้ทำการเฝ้าติดตามพฤติกรรมของ นายวศิน เทียนคำ อายุ 30 ปี และนางสาวจินดาพร อยู่เย็น อายุ 36 ปี สองผัวเมีย ซึ่งมีพฤติกรรมเป็นผู้ค้าเฮโรอีนให้กับกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี ก่อนจะทำการบุกจับกุม ขณะที่ทั้งสองคนกำลังนำเอาเฮโรอีนไปส่งให้กับลูกค้า ริมถนนแสงชูโต ขาเข้าเมือง ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี โดยเจ้าหน้าที่ตัดสินใจขับรถประกบ ก่อนจะขอตรวจค้นภายในรถยนต์กระบะอีซูซุ สี่ประตู
ภายในรถ พบเฮโรอีน จำนวน 1 แผ่น น้ำหนัก 350 กรัม ซุกซ่อนอยู่ภายในกระเป๋าที่วางอยู่บริเวณที่วางเท้าฝั่งผู้โดยสาร โดยผู้ต้องหาทั้งสองคนรับสารภาพว่า เฮโรอีนดังกล่าวเป็นของตัวเองจริง เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวทั้งสองคนมาสอบปากคำเพิ่มเติม ก่อนจะสามารถขยายผลไปจับกุม นายอนุชา หมื่นอาจ อายุ 31 ปี ซึ่งเป็นเอเย่นต์เฮโรอีนรายใหญ่ในพื้นที่ตัวเมืองกาญจนบุรี โดยสามารถจับกุมได้พร้อมของกลาง เฮโรอีน จำนวน 8 แผ่น น้ำหนักรวม 2.8 กิโลกรัม รวมของกลางเฮโรอีน 9 แผ่น
ทั้งนี้ ภายหลังจากเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัว นายอนุชา ได้สำเร็จ และกำลังจะควบคุมตัว นายอนุชา ไปสอบปากคำพร้อมทำบันทึกจับกุม ที่สำนักงานตำรวจปราบปรามยาเสพติดจังหวัดกาญจนบุรีนั้น ภรรยาของนายอนุชา ได้โทรศัพท์เข้ามาที่โทรศัพท์มือถือของนายอนุชา และพยายามพูดคุยติดสินบนเจ้าหน้าที่ โดยจะขอนำเงินสดจำนวนสองล้านบาท เข้ามาให้กับเจ้าหน้าที่ แลกกับการให้เจ้าหน้าที่ปล่อยตัวนายอนุชาไป
เจ้าหน้าที่จึงรีบรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมออกอุบายให้ภรรยาของนายอนุชา มาพบ เวลาผ่านไปประมาณหนึ่งชั่วโมง ปรากฏว่า นางสาวกมลชนก อายุ 33 ปี ซึ่งเป็นภรรยาของนายอนุชา ได้เดินทางมาพร้อมกับ นางสาวอารีย์ อายุ 53 ปี ซึ่งเป็นแม่ยาย พร้อมด้วยเพื่อนอีก 1 คน ก่อนที่นางสาวอารีย์ ซึ่งเป็นแม่ยาย จะนำเงินสดจำนวนหนึ่งล้านบาทออกมาจากกระเป๋า เพื่อจะติดสินบนเจ้าหน้าที่ โดยอ้างว่าจะจ่ายให้อีกหนึ่งล้านบาท หลังได้รับตัวนายอนุชากลับไป
ซึ่งทันที ที่นางสาวอารีย์ นำเงินออกมาจากกระเป๋า เจ้าหน้าที่จึงเข้าทำการจับกุมตัวทั้งสามคนทันที โดยมีภาพวิดีโอจากกล้องวงจรปิด ซึ่งบันทึกภาพและเสียงในช่วงเวลาดังกล่าวไว้อย่างชัดเจนเป็นหลักฐาน ก่อนจะควบคุมตัว นายอนุชา กลับไปยังห้องควบคุมตัว และดำเนินคดีกับ นางสาวอารีย์ ซึ่งเป็นแม่ยาย และนางสาวกมลชนก ซึ่งเป็นภรรยา ในข้อหา ร่วมกันติดสินบนเจ้าพนักงานคุมตัวส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย ขณะที่เพื่อนซึ่งมาด้วยกันสอบสวนแล้ว ไม่เกี่ยวข้อง
แหล่งข่าว: ไทยรัฐ