ประเดิมเหยียบทุ่งปทุมวัน

ในฐานะนายกรัฐมนตรี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร จะเริ่มต้นภารกิจแรกในบท ประธาน ก.ตร. นัดเคาะบัญชีรายชื่อ “แม่ทัพสีกากีคนใหม่” แทนการเกษียณอายุราชการของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล

หลังเจ้าตัววางคิวเรียกประชุม ก.ตร.วาระพิเศษบ่ายวันที่ 7 ต.ค.2567

หากไม่มีอะไรผิดพลาดต้องได้ตัว “พิทักษ์ 1” คนที่ 15 ในประวัติศาสตร์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

นายกฯ หญิง มีอำนาจเต็มในการเสนอชื่อเข้าที่ประชุมร่วมเป็น “ตะแกรงร่อน” ผ่านผู้เหมาะสมจะก้าวขึ้นนั่งเก้าอี้ “ผู้นำ”

คณะกรรมการนอกจาก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่นั่งคุมเกมหัวโต๊ะ ยังมี นายปิยวัฒน์ ศิวรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน น.ส.อ้อนฟ้า เวชชาชีวะ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบข้าราชการ

พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก ผู้ทรงคุณวุฒิ พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ ผู้ทรงคุณวุฒิ พล.ต.อ.วินัย ทองสอง ผู้ทรงคุณวุฒิ นายสุจินต์ ไชยชุมศักดิ์ ผู้ทรงคุณวุฒิ นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ผู้ทรงคุณวุฒิ รศ.ประทิต สันติประภพ ผู้ทรงคุณวุฒิ และ พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข รักษาการ รอง ผบ.ตร. จะได้สิทธิเข้าร่วมโหวตด้วย

ขณะที่ ก.ตร. โดยตำแหน่งอย่าง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาการ ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง จเรตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในบัญชี “แคนดิเดต” หมดสิทธิอยู่ห้องประชุมพิจารณาความอาวุโส ความรู้ ความสามารถ ล้วนเป็นคุณสมบัติผู้จะนั่งแม่ทัพที่บันทึกไว้ใน พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติฉบับใหม่ปี 2565

ว่ากันตามเนื้อผ้าทุกคนย่อมมีสิทธิเข้าชิงชัย

ขึ้นอยู่กับวาสนาและบารมีตลอดจน “ผู้กุมอำนาจตัวจริง”.

สหบาท

คลิกอ่านคอลัมน์ “ส่องตำรวจ” เพิ่มเติม