“ฟิล์ม รัฐภูมิ” ควงทนายความเข้าพบตำรวจกองปราบปราม รับทราบข้อหาพยายามกรรโชกทรัพย์ ดิ ไอคอนฯ 20 ล้านบาท และหมิ่นประมาท “หนุ่ม-กรรชัย” กรณีแอบอ้างรายการโหนกระแสแล้ว ยันพกความมั่นใจมาเต็มร้อย มั่นใจว่าตัวเองไม่ได้ทำอะไรผิด โอดถูกยกเลิกงานช่วงปีใหม่กราวรูดเป็นเงินนับ 10 ล้านบาท ไม่ติดใจฟ้องกลับใคร นอกจากนักร้องหิวแสงพยายามสาดโคลนใส่ตัวเองอยู่ในขณะนี้ ยันจัดหนักแน่นอน ด้าน “ทนายประมาณ” แจงข้อกฎหมายแทนลูกความละเอียดยิบ บางเรื่องพูดจาเกินเลยไปบ้าง แต่ไม่ถึงกับเป็นความผิดตามกฎหมาย
กรณีพนักงานสอบสวนเข้าสอบปากคำผู้ต้องหาคดีดิ ไอคอน กรุ๊ป ภายในเรือนจำกลางฯ ประเด็นพฤติกรรมการเรียกรับทรัพย์สินจากบอสดิ ไอคอนฯเป็นเงิน 20 ล้านบาท และแอบอ้างรายการโหนกระแสและนายภูดิท กำเนิดพลอย หรือหนุ่ม-กรรชัย โดย น.ส.กฤษอนงค์ หรือเจ๊พัช สุวรรณวงศ์ และนายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือฟิล์ม-รัฐภูมิ เบื้องต้นพนักงานสอบสวน กองปราบปราม จับกุมเจ๊พัชดำเนินคดีส่งตัวเข้าทัณฑสถานหญิงกลางไปแล้ว และออกหมายเรียก ฟิล์ม-รัฐภูมิมารับทราบข้อกล่าวหาตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าจากศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 6 ธ.ค. นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือฟิล์ม-รัฐภูมิ ดารานักแสดงชื่อดัง พร้อมด้วยนายประมาณ เลืองวัฒนะวณิช ทนายความ เข้าพบ พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. พ.ต.ท.สธาปน์ ปัญญาพยัค์ รอง ผกก. (สอบสวน) กก.2 บก.ป. เพื่อเข้ารับทราบข้อกล่าวหาร่วมกันพยายามกรรโชกทรัพย์ และหมิ่นประมาท กรณีคลิปเสียงร่วมกับ น.ส.กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ หรือเจ๊พัช พยายามจะเรียกรับเงินจากบอสบริษัทดิ ไอคอน กรุ๊ป จำนวน 20 ล้านบาท และหมิ่นประมาทพิธีกรรายการ “โหนกระแส” นายภูดิท กำเนิดพลอย หรือหนุ่ม-กรรชัย
ทนายประมาณเผยว่า วันนี้พานายรัฐภูมิมาพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียกคดีพยายามกรรโชกทรัพย์ และหมิ่นประมาทนายภูดิท กำเนิดพลอย หรือหนุ่ม-กรรชัย จากการตรวจสอบตามข้อกฎหมายมองว่า ไม่เข้าข่ายความผิดทั้ง 2 คดี ข้อหาหมิ่นประมาทได้ดูข้อความแล้วยังไม่พบข้อความใดที่นายรัฐภูมิไปใส่ความหรือดูหมิ่นทำให้สังคมเกลียดชังหนุ่ม-กรรชัย และในส่วนการแจ้งข้อกล่าวหาจะเข้าข่ายความผิดพยายามฉ้อโกงหรือไม่นั้น อยู่ในส่วนพยายามฉ้อโกงก็ไม่เข้าหลักเกณฑ์ เนื่องจากการฉ้อโกงต้องหลอกลวงและแสดงข้อความอันเป็นเท็จ และได้ไปซึ่งทรัพย์สินซึ่งเจตนาทุจริต ต้องมาดูคลิปเสียงว่ามีเจตนาทุจริตตรงไหน
“พนักงานสอบสวนตั้งข้อกล่าวหาพยายามกรรโชกทรัพย์ เนื่องจากพบว่ามีบางถ้อยคำมีลักษณะข่มขู่ให้จ่ายเงิน 20 ล้านบาท มองว่าถ้อยคำอย่างเดียวไม่เพียงพอและองค์ประกอบยังไม่เข้า ต้องดูว่าการพูดคุยกันผ่านทางโทรศัพท์วันดังกล่าว นายรัฐภูมิจะต้องเดินทางไปประเทศจีนจึงพูดคุยกันแบบส่วนตัว ทำให้บางถ้อยคำดูเลยเถิดล้ำเส้นแต่ไม่ถึงขนาดเป็นความผิด อาจแสดงความสนิทสนมกับคุณหนุ่ม-กรรชัยมากเกินไป แต่มองว่าไม่เข้าเกณฑ์ความผิดทางกฎหมาย ส่วนปมเงิน 20 ล้านบาท นายรัฐภูมิได้รับการติดต่อจาก น.ส.กฤษณ์อนงค์ สุวรรณวงศ์ จะดำเนินการอย่างไรนายรัฐภูมิไม่ทราบ แต่มีการกล่าวอ้างว่างบการพีอาร์ครั้งนี้จะสร้างภาพลักษณ์ให้องค์กรต่างๆอยู่ที่ประมาณ 20 ล้านบาท นายรัฐภูมิพูดไปตามข้อมูลที่ได้รับจาก น.ส.กฤษอนงค์อีกที เพียงแต่ว่าการพูดมีลักษณะเหมือนนายรัฐภูมิเป็นผู้เสนอ แต่ความเป็นจริงแล้วงบดังกล่าวมีมาก่อนที่นายรัฐภูมิจะรับโทรศัพท์พูดคุยแล้ว” ทนายประมาณกล่าว
ทนายประมาณกล่าวต่อว่า อยากให้ตั้งข้อสังเกตว่า การที่นายรัฐภูมิพูดคุยผ่านโทรศัพท์แล้วพูดในลักษณะเปิดโอกาสให้อีกฝ่ายตัดสินใจว่าสิ่งที่นายรัฐภูมิพูดจริงหรือเท็จ หรือมีความเป็นไปได้ขนาดไหน และงบประมาณนี้คุ้มค่าลงทุนหรือไม่ โดยให้เวลาไปคิดและปรึกษาคนอื่นได้ด้วย ไม่ใช่การคุกคาม ข่มขู่ หรือใช้กำลังประทุษร้าย ส่วนแนวทางการต่อสู้คดี ก็ต่อสู้ตามข้อเท็จจริงที่นายรัฐภูมิเคยให้สัมภาษณ์มาก่อนแล้ว หากมีคำถามหรือมีข้อสงสัยเราพร้อมชี้แจงข้อเท็จจริงทั้งหมด ยืนยันว่าไม่ได้กังวลต่อการตั้งข้อกล่าวหา แต่ขอให้แจ้งก่อนว่าคำให้การของพยานปากอื่นๆเกี่ยวพันกับนายรัฐภูมิอย่างไร มีข้อเท็จจริงตรงไหน ส่วนตัวมองว่าองค์ประกอบยังไม่ครบ และไม่มีเจตนาทุจริต เช่นเดียวกับคดีหมิ่นประมาท นายรัฐภูมิคุ้นเคยกับหนุ่ม-กรรชัยอยู่แล้ว และตัวนายรัฐภูมิขอโทษหนุ่ม-กรรชัยไปแล้ว
ด้านฟิล์ม-รัฐภูมิกล่าวว่า วันนี้พกความมั่นใจมาเต็มร้อยเพราะไม่ได้ทำอะไรผิด เหมือนกับที่เคยแจ้งตั้งแต่วันแรก ยืนยันคำเดิมไม่มีความกังวลอะไรและใช้ชีวิตปกติ หลังจากเกิดเรื่องไม่เคยติดต่อกับคุณหนุ่ม-กรรชัยเลย วันนี้เตรียมหลักฐานมาเยอะพอสมควร พร้อมย้ำว่าเป็นเรื่องการทำพีอาร์เหมือนเดิม ส่วนที่คุณหนุ่ม-กรรชัย ประกาศตัดสัมพันธ์ ตนฟังแล้วรู้สึกเฉยๆ เป็นสิทธิ์ของคุณหนุ่ม-กรรชัย ตนยืนตามหลักความถูกต้องเสมอ
สำหรับพฤติกรรมตามข้อหาคดีร่วมกันพยายามกรรโชกทรัพย์ มาจากเหตุคลิปเสียงที่ฟิล์ม-รัฐภูมิ ร่วมกับ น.ส.กฤษอนงค์ หรือเจ๊พัช สุวรรณวงศ์ ติดต่อไปหา น.ส.ปัญจรัศม์ หรือบอสปัน กนกรักษ์ธนพร เพื่อพานายวรัตน์พล หรือบอสพอล วรัทย์วรกุล ไปออกรายการโหนกระแสของหนุ่ม-กรรชัย พยายามเรียกเงินค่าดำเนินการ 20 ล้านบาท ส่วนข้อหาหมิ่นประมาท หนุ่ม-กรรชัยมาแจ้งความดำเนินคดี ฟิล์ม-รัฐภูมิ และเจ๊พัช หลังนำชื่อของหนุ่ม-กรรชัย ไปแอบอ้างว่า สามารถเคลียร์กับหนุ่ม-กรรชัยให้ไปออกรายการโหนกระแสถ้าจ่ายเงินแล้ว
ต่อมาเวลา 16.00 น. หลัง ฟิล์ม-รัฐภูมิ ให้ปากคำพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ป.นานกว่า 4 ชม. ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า เบื้องต้นถูกแจ้ง 2 ข้อหาคือ พยายามกรรโชกทรัพย์ และหมิ่นประมาท หนุ่ม-กรรชัย ให้การปฏิเสธทั้ง 2 ข้อหา หลังจากนี้พนักงานสอบสวนนัดหมายวันมารายงานตัวอีกครั้งช่วงปลายเดือนนี้ ฟิล์ม-รัฐภูมิเผยว่า ที่ก่อนหน้านี้หนุ่ม-กรรชัยโทร.มา 3-4 ครั้ง บอกให้ตนยอมรับผิดนั้น เป็นการให้ยอมรับในสิ่งที่ไม่ได้ทำ ตนเป็นคนตรงๆ ผิดก็ยอมรับผิด แต่หากไม่ผิดก็ไม่ยอม เรื่องที่ผ่านมาไม่ได้ทำอะไรผิด แต่ที่ไม่ออกมาพูดเพราะพูดไปหมดแล้วตั้งแต่วันแรกที่แถลงข่าว ตนเคารพกฎหมายเป็นที่ 1 ทำตามกรอบกฎหมายทุกประการ แต่วันนี้สังคมไม่ฟังเลย ทำให้ตัดสินใจออกมาพักก่อนเหมือนทุกคดีในชีวิตที่ผ่านมา ต้องถูกวิจารณ์ไปก่อนแต่สุดท้ายชนะทุกคดี มีเพียงแค่คดีเดียวที่ไม่ชนะคือ คดี Pay all ที่ตนประกอบธุรกิจโดยไม่ได้รับอนุญาต เพราะเอาเทคโนโลยีของอนาคตมา แล้วตนผิดตรงไหน
“ยืนยันในเจตนาในความบริสุทธิ์ใจ และในการกระทำของตัวเองซึ่งปรากฏในคลิปเสียงทั้งหมดแล้ว ส่วนจะดำเนินคดีกับดิ ไอคอน กรุ๊ปหรือหนุ่ม-กรรชัยหรือไม่ คงไม่ทำอย่างนั้น รู้สึกเฉยๆและความจริงจะปรากฏเอง รวมถึงไม่โกรธหนุ่ม-กรรชัย แต่ถ้าถามว่ายังเป็นพี่น้องกันเหมือนเดิมหรือไม่ ขอเฉยๆ ดีกว่า ปล่อยเขาไป ผมไม่ได้เครียดเรื่องนี้ แต่เครียดเรื่องอื่น เรื่องนักร้องเรียนที่ออกมาแฉมั่วๆ กล่าวหาว่าทำธุรกิจบาป กล่าวหาว่าเป็นเจ้าของโปรเจกต์ไประดมทุน 60 ล้านบาท ติดหนี้ส่วนกลางหมู่บ้าน เกี่ยวโยงกับ ส.เล็กและ ส.ใหญ่ เอาชื่อตนไปโยงกับรัฐมนตรี เป็นพรีเซนเตอร์ตู้เติมเงิน หรือเกี่ยวข้องกับคดีตู้น้ำมัน ปลุกปั่นปลุกระดมผู้เสียหายให้มาแจ้งความผม ทั้งที่เรื่องที่กล่าวหาไม่เป็นเรื่องจริงเลย เมื่อเห็นตรงไหนมีแสงก็วิ่งเข้าหา ดังนั้น คนคนนี้ผมจัดหนักฟ้องกลับแน่นอน” ฟิล์ม-รัฐภูมิ กล่าว
ฟิล์ม-รัฐภูมิกล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า ตนโดนแบบนี้มาทั้งชีวิต ไม่ได้ตกใจอะไร แต่ยอมรับว่าคดีที่เกิดขึ้นกระทบกับอาชีพของตนในปัจจุบัน ถูกยกเลิกงานทั้งหมดตั้งแต่เป็นกระแส บริษัททัวร์ของตนถูกยกเลิกยาวไปจนถึงกลางปีหน้า คอนเสิร์ตช่วงคริสมาสต์และปีใหม่ถูกยกเลิกเกือบ 10 งาน เสียหายกว่า 10 ล้านบาท ยอมรับว่าเสียใจแต่ก็สู้ แล้วเดี๋ยวมาดูว่าผลสุดท้ายจะเป็นอย่างไร ตนไม่เคยทำอะไรไม่ดี ใช้ชีวิตบนทางที่ถูกต้องเสมอ
แหล่งข่าว: ไทยรัฐ