“แม่สามารถ” ยัดจดหมายใส่มือนักข่าว ระหว่างเจ้าหน้าที่ดีเอสไอนำตัวฝากขัง เขียนบรรยาย 8 ข้อ ตะโกนลั่น “ขอความเป็นธรรม”

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 26 พ.ย. พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ในฐานะโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ ร.ต.อ.สุรวุฒิ รังไสย์ ผอ.กองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ และนายระวี อักษรศิริ ผอ.กองคดีการฟอกเงินทางอาญา ร่วมแถลงความคืบหน้ากรณีควบคุมตัว 2 แม่ลูก คือ นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีต ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ และนางวิลาวัลย์ พุทธสัมฤทธิ์ ผู้ต้องหาร่วมกันและสมคบกันฟอกเงินอาญา กรณีบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป ก่อนจะนำผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ฝากขังศาลอาญา

พ.ต.ต.ยุทธนา กล่าวว่า เมื่อวันที่ 25 พ.ย. เวลาประมาณ 23.00 น. พนักงานสอบสวนได้นำตัวนายสามารถมาสอบปากคำตามกระบวนการ มีการแจ้งสิทธิให้ผู้ต้องหารับทราบ เบื้องต้นนายสามารถให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาและขอยื่นคำให้การแก้ข้อหาภายใน 15 วัน โดยปฏิเสธว่าไม่ได้กระทำความผิดฐานฟอกเงิน แต่เป็นลักษณะการเงินยืมและเงินทำบุญตามที่มารดาได้ให้ข้อมูลในทำนองเดียวกัน หลังจากสอบสวนเสร็จสิ้นก็จะนำตัวฝากขังศาลอาญาทันที สำหรับเส้นทางการเงินที่โอนจากนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือบอสพอล จำนวน 2.5 ล้านบาท มายังนายสามารถและแม่ โดยอ้างว่าเป็นค่าดูแล ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธและทราบเข้าใจข้อกล่าวหาแล้ว ซึ่งระบุว่าได้จากการทำบุญและเป็นเงินกู้ยืมที่ยืมมาจากบอสพอล แต่ไม่ได้ระบุถึงเหตุผลว่ากู้ยืมไปใช้ทำอะไร ดังนั้น เป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหาที่จะให้การหรือให้การอย่างไรก็ได้ เพื่อแก้ข้อกล่าวหา หากไม่รับสารภาพก็ต้องอ้างเหตุผลซึ่งเป็นเรื่องปกติ ส่วนเส้นทางการเงินจะไปเชื่อมโยงบุคคลใดนั้น ในชั้นสอบสวนพบคนที่เกี่ยวข้องเป็นบุคคลที่ออกหมายจับ

สำหรับความเชื่อมโยงทางการเงินกับบุคคลอื่นๆ เป็นบุคคลที่ถูกออกหมายจับและบุคคลที่ต้องสอบสวนดำเนินการเพิ่มเติม คือ นายกลด เศรษฐนันท์ หรือบอสปีเตอร์ ที่มีเงินโอนมาประมาณ 500,000 บาท ส่วนบุคคลอื่นหรือเงินที่มาจากแหล่งอื่นโอนเข้ามา กว่า 100 ล้านบาทในบัญชีแม่นายสามารถ ยังอยู่ระหว่างการสอบสวน พบว่าเกิดในช่วงปี 2564-2566 ส่วน น.ส.กฤษอนงค์ จะเกี่ยวข้องกับเส้นทางการเงินหรือไม่ เบื้องต้นยังไม่ปรากฏข้อมูล

พ.ต.ต.ยุทธนา กล่าวว่า ส่วนหลักฐานที่เชื่อได้ว่าเป็นการฟอกเงินนั้น เป็นการรับโอนเงินที่ได้มาจากการกระทำความผิดลักษณะมีเจตนาปิดบังอำพราง เพราะเชื่อว่านายสามารถ เป็นผู้ใช้บัญชีนี้ แต่มีการโอนเงินผ่านมายังบัญชีของมารดา เสมือนเป็นการปกปิดอำพราง ซึ่งตามพยานหลักฐานบัญชีเป็นของมารดา แต่ผู้ใช้บัญชี คือ นายสามารถ รวมถึงมีคลิปเสียง พยานบุคคลยืนยัน พร้อมกับมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์สอดคล้องกัน ซึ่งไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้เพราะอยู่ในสำนวน พนักงานสอบสวนของดีเอสไอ เตรียมที่จะเข้าไปแจ้งข้อกล่าวหาบอสพอลในเรือนจำ มูลความผิดฐานฟอกเงินเพิ่มในเร็วๆนี้ ด้วย ส่วนประเด็นที่มีการระบุว่าในดีเอสไอมี หนอน คอยส่งข่าวความเคลื่อนไหวให้กับนายสามารถ ก่อนจะไหวตัวทันและหนีไป โดยอ้างว่าไปทำบุญที่ จ.เชียงรายนั้น ยืนยันว่าไม่มี แต่อาจเป็นการเฝ้าสังเกตความเคลื่อนไหวมากกว่า เพราะเรื่องเงินของนายสามารถ ปรากฏเป็นข่าวมาสักพักแล้ว

ส่วนระหว่างที่สอบปากคำนายสามารถ มีนายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของบอสพอล เข้ามารับฟังด้วยนั้น นอกจากทนายความ ที่เข้ารับฟังได้ด้วยแล้ว ผู้ต้องหายังมีสิทธิ์ให้ผู้ที่ไว้วางใจเข้าร่วมฟังการสอบสวนได้ ซึ่งเป็นสิทธิ์ตามกฎหมาย เปิดโอกาสให้ได้ต่อสู้คดีอย่างเต็มที่และเป็นหน้าที่ของเราที่จะพิสูจน์ความผิดของเขา ในระหว่างสอบปากคำมารดาของนายสามารถ มีความเครียดเนื่องจากเป็นผู้สูงอายุ ส่วนตัวของนายสามารถก็มีความเครียดเช่นกัน ส่วนคำให้การยังไม่สอดคล้องกับพยานหลักฐาน อีกทั้งบัญชีแม่นายสามารถเป็นหนึ่งในอีกหลายๆ บัญชีม้าหรือไม่นั้น ก็อาจเป็นไปได้ ส่วนนายสามารถ จะโอนถึงใครบ้างอยู่ระหว่างตรวจสอบ พนักงานสอบสวนมีมติร่วมกันแล้วว่าจะคัดค้านการประกันตัว นายสามารถและมารดา เนื่องจากเกรงว่าอาจจะมีพฤติการณ์ต่างๆ ที่เข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานได้

ต่อมาเมื่อเวลา 12.20 น. คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษควบคุมตัวนายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช และนางวิลาวัลย์ พุทธสัมฤทธิ์ มารดาของนายสามารถ ผู้ต้องหาตามหมายจับ ในข้อหาร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน เพื่อไปฝากขังที่ศาลอาญารัชดา โดยระหว่างที่มีการควบคุมตัวนางวิลาวัลย์ขึ้นรถ ผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถามว่ามีอะไรจะพูดหรือไม่ นางวิลาวัลย์ตะโกนออกมาว่า “ไม่ได้รับความเป็นธรรม” ส่วนนายสามารถได้เปิดเผยระหว่างที่ควบคุมตัวขึ้นรถยนต์ว่า “อยากพูดแต่พูดไม่ได้” ก่อนที่ทั้งคู่จะถูกควบคุมตัวและขึ้นรถยนต์ไปยังศาลอาญารัชดา

นอกจากนี้ในระหว่างที่ เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวนางวิลาวัลย์ ขึ้นรถ และผู้สื่อข่าวพยายามเข้าไปสอบถามจนเกิดการชุลมุน นางวิลาวัลย์ ได้นำเศษกระดาษขนาด A4 ที่มีข้อความบางอย่าง ยัดใส่มือนักข่าว ซึ่งเอกสารดังกล่าวด้านหน้าคือ เอกสาร บันทึกแจ้งคำสั่งให้ปล่อยตัวชั่วคราว ที่เจ้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ได้ร่วมประชุมพิจารณาและมีมติไม่ให้ปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหา เนื่องจากผู้ต้องหาอาจจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน พร้อมให้นางวิลาวัลย์พุทธสัมฤทธิ์ ผู้ต้องหาทราบ ลงชื่อโดย ร.ต.อ.วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ 115/2567

ส่วนด้านหลังกระดาษแผ่นดังกล่าว มีข้อความที่เขียนด้วยลายมือ ระบุเป็นข้อๆ ว่า 1. เรื่องเกิดปี 64 ตอนนั้น ดิไอคอน กรุ๊ป ยังไม่มีปัญหาธุรกิจ เงินที่ได้มา ทำบุญกับกู้ยืม พอลก็ได้เซ็นชื่อ ไว้เป็นหลักฐานว่าได้คืนหมดแล้ว ได้ทำหนังสือออกมาให้แล้ว 2. ใครคือผู้เสียหาย 3. จะฟอกเงินได้อย่างไร 4. ไม่ได้รับความเป็นธรรม โดนกลั่นแกล้ง 5. ไม่มีส่วนรู้เห็นในธุรกิจ ดิไอคอน เพราะไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยว 6.จะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานได้อย่างไร 7.จะขอต่อสู้เพื่อให้ได้รับความเป็นธรรม จนกว่าชีวิตจะหาไม่ 8. ถ้าต้องโทษจนถึงตายจนถึงตายก็ถือว่าประเทศไทยไม่มีความยุติธรรม

ก่อนพนักงานสอบสวนจะควบคุมขึ้นรถยนต์ไปฝากขังยังศาลอาญาต่อไป

ขณะที่  พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยถึงกรณีที่ นางวิลาวัลย์ มีการยื่นเอกสารบางอย่าง โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับการขอความเป็นธรรมให้กับนักข่าว ว่า  ตอนนี้ยังไม่ทราบเรื่อง เพราะตนไปประชุมข้างนอก ซึ่งตนจะไปสอบถามจากรายงานข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร

เมื่อถามว่า ตามหลักการพาผู้ต้องไปส่งฝากขังศาล อย่างกรณีนี้มีการนำจดหมายให้กับสื่อมวลชน ตามหลักระเบียบขั้นตอนสามารถทำได้หรือไม่ พ.ต.ต.ยุทธนา บอกว่า ขอไปตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน ว่ามีการยื่นจริงหรือไม่ อย่างไร