ภูมิใจมาก เปิดใจ “ทีมเบื้องหลัง” ก่อนจะเป็น “ชุดเชียร์ลีดเดอร์” แบบติดแกลม จนกลายเป็นไวรัลดังในโลกออนไลน์
กลายเป็นโพสต์ที่ถูกพูดถึงอย่างมากในโลกออนไลน์ เมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊ก Jittakorn Mattamit ได้โพสต์ภาพเชียร์ลีดเดอร์ของคณะพายุสีเหลือง ในงานกีฬาสีโรงเรียนขอนแก่นวิทยายน ที่มาในลุคระดับพรีเมียม เป๊ะ ปัง ทั้งชุดและการแต่งหน้า พร้อมแคปชั่นโพสต์ระบุว่า “เสิร์ฟความแกลม เชียร์ลีดเดอร์ คณะพายุ โรงเรียนขอนแก่นวิทยายน (ช่วงเช้า)” ซึ่งกลายเป็นไวรัลดังชั่วข้ามคืนจนกลายเป็นกระแสอยู่ในขณะนี้
ล่าสุด วันที่ 21 พฤศจิกายน 2567 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับน้องๆ นักเรียนมัธยมที่เป็นเชียร์ลีดเดอร์คณะพายุซึ่งกำลังเป็นไวรัลอยู่ในขณะนี้ โดยมีทั้งหมด 16 คน เป็นนักเรียนระดับมัธยมศึกษาต้น 2 คน และระดับชั้นมัธยมศึกษาปลาย 14 คน อายุตั้งแต่ 14-18 ปี ได้โชว์สเต็ปเชียร์ลีดเดอร์ในเพลงมาร์ชโรงเรียนขอนแก่นวิทยายน และการต่อตัวด้วยท่าทางคล่องแคล่วพร้อมเพรียงไม่แพ้มืออาชีพ
รวมทั้งยังได้เปิดคลิปขณะการแข่งขันเชียร์ลีดเดอร์กลางสนามเมื่อวานที่ผ่านมาทั้งในช่วงเช้าและช่วงบ่าย โดยในช่วงเช้าเป็นชุดที่มีการโพสต์ลงในโซเชียลจนกลายเป็นไวรัลดัง เป็นชุดจากการนำหุ่นบอดี้คนมาตัดดีไซน์เป็นชุดให้เข้ากับขนาดตัวของแต่ละคน ซึ่งใช้ในการแข่งขันช่วงเช้า และอีกชุดที่ใช้โชว์ในช่วงบ่ายเป็นการดีไซน์ชุดในธีมวรรณคดีไตรภูมิพระร่วงที่มีสตอรี่เกี่ยวกับโลกหลังความตายกลายเป็นเปรต
ทางด้าน น.ส.วิชญาพร แซ่อั้ง อายุ 16 ปี และ น.ส.ภูริชญา พลยิ่ง อายุ 18 ปี ตัวแทนเชียร์ลีดเดอร์คณะพายุ สีเหลือง เผยถึงที่มาแรงบันดาลใจของทั้งสองชุดว่า ชุดที่ใช้ในช่วงเช้านั้นมาริเริ่มมาจากรุ่นพี่ที่เป็นศิษย์เก่าเห็นจากในอินเทอร์เน็ต นำโครงหุ่นมาเพ้นท์สีดีไซน์กับผ้าตัดให้เข้ากับขนาดของแต่ละคน โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากบอดี้คนหรือเรือนร่างของมนุษย์ มาปรับเปลี่ยนให้เข้ากับพวกเรา ในส่วนของคอนเซ็ปต์ไตรภูมิพระร่วงจะเป็นชุดที่สองที่นำมาแข่งในภาคบ่าย เป็นโชว์ที่มาจากสตอรี่ของเด็กคนหนึ่งเป็นลูกที่อกตัญญูต่อพ่อแม่ ซึ่งเราได้เล่าเรื่องราวว่าหลังจากที่ตายไปแล้วจะต้องกลายเป็นเปรตและจะต้องพบเจอกับอะไรบ้าง
ในส่วนของความรู้สึกหลังจากกลายเป็นไวรัลดังนั้น ทีแรกก็ตกใจว่าทำไมถึงดังได้ขนาดนี้ จู่ๆ ก็มียอดกดไลก์กดแชร์เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จากหลักสิบเป็นหลักร้อย จากหลักร้อยเป็นหลักพัน และมีการแชร์ต่อกันไปหลายๆ กลุ่ม จึงพากันคิดว่าพวกเราก็สามารถดังได้ด้วย ส่วนตัวคิดว่ากระแสความดังมาจากตัวชุดที่พี่ๆ ศิษย์เก่าดีไซน์ให้ใช้ที่มีความแปลกใหม่ เป็นเกราะรูปร่างของคน ประกอบกับความสามารถของทีมงานช่างแต่งหน้าทำผมที่เก่งมีความสามารถ รังสรรค์ให้แต่ละคนออกมาสวยหล่อเหมือนโมเดล
สำหรับบรรยากาศตอนที่ลงแข่งขันนั้น ทุกคนต่างตื่นเต้นกลัวไม่มีสติ กลัวพลาด แต่ทุกคนก็ได้ให้กำลังใจ รวมทั้งพี่ๆ ที่อยู่เบื้องหลังก็ได้ให้กำลังใจให้ทำเต็มที่ตามที่ซ้อมกันมาเกือบ 2 เดือน แล้วทุกอย่างจะออกมาดีเอง จนพวกเราสามารถเป็นแชมป์ปีนี้ได้ อยากขอบคุณทุกๆ คนที่ให้ความสนใจกับชุดที่เราใช้ในการแข่งขันกีฬาสีโรงเรียนทั้งสองชุดนี้ เราหวังว่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้กับหลายๆ โรงเรียนต่อไปด้วย
ทางด้าน นายจิตรกร เมตตามิต อายุ 35 ปี หรือ คุณเป้ง เจ้าของโพสต์และเป็นศิษย์เก่าอดีตเชียร์ลีดเดอร์คณะพายุ ปัจจุบันทำธุรกิจส่วนตัวและธุรกิจงานบันเทิง เผยว่า คอนเซ็ปต์ที่ทางโรงเรียนให้มานั้นคือวรรณกรรมจากในหนังสือ โดยคณะพายุหรือสีเหลือง จึงเลือกทำเกี่ยวกับเรื่องเปรตในไตรภูมิพระร่วง ในช่วงเช้าจึงได้มีการพูดคุยกันกับน้องๆ ว่าเราจะทำคอนเซ็ปต์อะไร จึงได้เสนอแนะให้น้องๆ เกี่ยวกับเรื่องมนุษย์เรื่องคน จึงไปเจอคอนเซ็ปต์หนึ่งเกี่ยวกับพวก Human figure เป็นหุ่นมนุษย์
ส่วนตัวก็เห็นแนวทางของน้องนิต้า-มานิตา ดวงคำ ฟาร์เมอร์ ลูกครึ่งไทย-อเมริกัน นางสาวไทย ปี 2565 จึงมองว่าเข้ากับคอนเซ็ปต์ที่จะทำกันพอดี จึงมีการพูดคุยกันหลายคนที่เป็นศิษย์เก่าและน้องๆ จนออกมาเป็นชุดนี้ โดยการนำหุ่นสำหรับใส่ชุดมาตัดดัดแปลงเป็นชุดลีด ที่มีความแกลมเรียบแต่หรูและดูมีอะไร ซึ่งชิ้นส่วนมีน้อยมากแต่มีการสร้างความรู้สึกให้คนดูมองว่าเป็นชุดที่ไม่มีอะไรแต่มีความหมายแนวคิดแฝงอยู่ภายใน
ขณะที่ชุดบ่ายนั้น เราได้วางคอนเซ็ปต์ให้แตกต่างจากสมัยเก่า ควรจะเป็นอะไรที่หลากหลายจึงได้นำผ้าดิบมาให้น้องๆ ช่วยกันทำทั้งกระบวนการย้อม การตัด และเทคนิคต่างๆ ให้กับน้องๆ ได้ทำออกมาเกี่ยวกับผีเปรต รวมทั้งการแต่งหน้าทำผมที่จะออกมาสมบูรณ์ที่สุดกระทั่งออกมาเป็นในชุดช่วงบ่าย
สำหรับความรู้สึกหลังกลายเป็นไวรัล เรารู้สึกว่าเราได้ทำงานศิลปะชิ้นหนึ่งแล้วมีคนมาชื่นชมก็รู้สึกดีใจและภูมิใจ ส่วนตัวไม่ได้ทำเพียงคนเดียวแต่เกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของศิษย์เก่าและน้องๆ นักเรียนในคณะพายุทุกคน ซึ่งทุกคนต่างรู้สึกว่าได้กำลังใจ ซึ่งส่วนตัวดูในเรื่องลุคส์หน้าผมและชุดซึ่งตนเองได้เข้ามาช่วยเป็น 10 ปีแล้ว และปีนี้ด้วยคอนเซ็ปต์และองค์ประกอบโดยรวมทุกอย่างกลายเป็นกระแสในโลกโซเชียลในช่วงนี้ ทำให้คนได้เห็นและรู้สึกว่าผลงานของพวกเรามีคุณค่ามาก
อย่างไรก็ตาม หากเปรียบกับสินค้าชิ้นหนึ่งเหมือนเป็นงานแฮนด์เมดที่มีรายละเอียดที่มีคุณค่าจากการทำร่วมกันทั้งการคิด กระบวนท่าต่างๆ ซึ่งไม่ใช่เป็นเพียงชิ้นงานศิลปะแต่เป็นโชว์ที่มีคุณค่ามาก และในปีต่อๆ ไปเราก็จะทำให้คนได้ดูได้ชมอีก รวมทั้งทุกๆ สีทั้ง 6 สีต่างมีความสร้างสรรค์ชิ้นงานและผลงานโชว์จากความคิดของเด็กๆ ในทุกๆ ปีก็ฝากติดตามทุกๆ สีเพื่อเป็นกำลังใจให้น้องๆ ทุกคน.
แหล่งข่าว: ไทยรัฐ