อินฟลูเอนเซอร์และเหล่านักร้อง (เรียน) หิวแสง ถูกกระชากหน้ากากไม่เว้นแต่ละวัน!

เพื่อให้สังคมได้รับรู้ว่า บุคคลเหล่านี้มีนัยแอบแฝง ที่สำคัญเพื่อสร้างชื่อเสียงให้ตัวเอง?

ทั้งที่จริงๆแล้ว ผู้เสียหายสามารถแจ้งความกับตำรวจโดยไม่ต้องพึ่งพวกตัวกลาง แต่ปัญหาใหญ่คือ ช่วยตำรวจปัดเป่าความทุกข์ร้อนของชาวบ้านได้หรือเปล่า?

มันเลยมีเสียงสะท้อนกลับมาที่หน่วยงานตำรวจ ถึงพฤติกรรมการเป่าคดี บ่ายเบี่ยงไม่รับแจ้งความ ถึงขนาดไล่ให้ผู้เสียหายไปหาพยานหลักฐานเอง ทั้งที่เป็นหน้าที่ของตำรวจ!

เคยเขียนถึงข้อร้องเรียนเหล่านี้ไปหลายครั้ง แต่ไม่ค่อยมีใครสนใจ?

แต่วันนี้ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. เริ่มเห็นปัญหา หลังจากตำรวจสอบสวนกลางต้องเป็นแม่งานหลักหาพยานหลักฐานมาดำเนินคดีอินฟลูเอนเซอร์ หรือนักร้องเรียนชื่อดังหลายคน ที่มีพฤติกรรมไม่ต่างกับโจร!

“บิ๊กก้อง” เกิดแนวคิด ต้องทำให้งานด้านสอบสวนเข้มแข็ง สั่งการให้ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก. เรียกประชุมพนักงานสอบสวนในสังกัด บช.ก. กำชับให้รู้ถึงความเปลี่ยนแปลงที่จะมีขึ้นในอนาคตอันใกล้?

เรื่องการทำให้การแจ้งความเกิดความพึงพอใจสูงสุด เมื่อมาพบกับพนักงานสอบสวน

ด้วยการจัดงบประมาณทำห้องสอบสวนของทุก บก.ในสังกัด บช.ก.ให้เกิดความโปร่งใสมากที่สุด ด้วยการติดกล้องวงจรปิดที่บันทึกเสียงได้

เพื่อจะได้รู้ว่า เมื่อผู้เสียหายมาพบพนักงานสอบสวนแล้ว ปฏิบัติกับเขายังไง?

ถ้ามาแล้วไม่ได้รับความเป็นธรรม ถูกไล่กลับ หรือพูดจาไม่ดี การพูดคุยจะถูกบันทึกไว้เป็นหลักฐานมัดตัวเอง ผู้บังคับบัญชาจะเอามาเป็นหลักฐานพิจารณาโทษทางวินัย!

เป้าหมายเพื่อให้ผู้เสียหายเกิดความมั่นใจการทำหน้าที่ของตำรวจ ไม่ต้องไปพึ่งพาพวกนักร้องเรียนต่างๆ ตามสโลแกน “มืออาชีพ เป็นกลาง เคียงข้างประชาชน”

อันนี้เห็นด้วยสุด เพราะถ้าตำรวจแก้ปัญหาให้ชาวบ้านได้ตั้งแต่ต้นทาง คงไม่มีใครยอมไปตากหน้าออกสื่อ เพื่อที่ตัวเองจะได้ความยุติธรรม?

“สหบาท”

คลิกอ่านคอลัมน์ “ส่องตำรวจ” เพิ่มเติม