สุรินทร์ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย พร้อมมอบสิ่งของและเครื่องอุปโภคบริโภค บรรเทาความเดือดร้อน 2 ตายายที่ถูกไฟไหม้บ้าน ส่วนเงินสดที่เก็บหอมรอมริบมาทั้งชีวิต คาดแลกคืนได้ประมาณ 1-2 แสนบาท

เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 67 ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความคืบหน้า กรณีเหตุเพลิงไหม้บ้านของ 2 ตายาย คือ นายยม บุญเจือ อายุ 59 ปี และนางยี ทองมาก อายุ 62 ปี สองสามีภรรยา ที่บ้านเลขที่ 134 ม.3 บ.สนวน ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ทำให้บ้านไม้หลังเก่าใต้ถุนสูง และบ้านหลังใหม่ 2 ชั้นครึ่งไม้ครึ่งปูน ถูกเพลิงไหม้วอดเสียหายทั้งหมด ในจำนวนนี้ยังมีเงินสดไม่ต่ำกว่า 7 แสนบาท เงินหยอดกระปุกออมสินอีก 5-6 กระปุก และสร้อยคอทองคำหนักอีก 1 บาท ร่วมหลักล้านบาท ที่ถูกเพลิงไหม้เสียหายอีกด้วย รวมมูลค่าความเสียหายทั้งทรัพย์สินเงินสดและตัวบ้าน เบื้องต้นไม่ต่ำกว่า 2.5 ล้านบาท ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้ นายศิริชัย ตันติรัตนานนท์ นายก อบต.ด่าน และเจ้าหน้าที่ อบต.ด่าน ได้ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายในเบื้องต้น พร้อมมอบสิ่งของและเครื่องอุปโภคบริโภค เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น ด้านสองตายายได้นำเศษซากเงินสดแบงค์ 1 พันบาทที่ถูกเพลิงไหม้ประมาณ 30-60 เปอร์เซ็นต์ จำนวนหนึ่งที่ใส่ถุงไว้ ออกมาให้ผู้สื่อข่าวดู หากสามารถแลกเป็นเงินสดกับธนาคารได้ ก็จะมีมูลค่าประมาณ 1-2 แสนบาท ซึ่งจะเป็นเงินก้อนสุดท้ายที่มีอยู่ ในการดำรงชีพและปลูกสร้างบ้านอาศัยต่อไป

โดยสองตายายบอกว่า เงินทั้งหมดได้มาจากการเก็บหอมรอมริบทั้งชีวิต ไม่ว่าจะรายได้จากการปลูกข้าว ปลูกมัน เลี้ยงวัว เลี้ยงหมู และกรีดยางพาราขาย ส่วนสาเหตุเพลิงไหม้อยู่ระหว่างตรวจสอบ เบื้องต้นต้นเพลิงมาจากกองฟางอัดก้อนที่เก็บไว้ในบ้านไม้หลังเก่า ส่วนเด็กๆ หลายคนที่คุณตาเจ้าของบ้านเห็นมาวิ่งเล่นบริเวณเกิดเหตุก่อนเพลิงไหม้ จะเกี่ยวข้องหรือไม่นั้น อยู่ระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนและตรวจสอบต่อไป โดยเบื้องต้นคุณตาเจ้าของบ้านไม่ติดใจเด็กๆ ถือว่าเป็นเวรกรรมของตัวตาเอง

นายศิริชัย ตันติรัตนานนท์ นายก อบต.ด่านฯ กล่าวว่า ตนขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของสองตายาย โดยเฉพาะการทำงานประสานงานต่างๆ ที่ล่าช้า หลังเกิดเหตุไฟไหม้กว่า 20 นาที เจ้าหน้าที่ดับเพลิงพึ่งได้รับการโทรประสาน และกว่ารถดับเพลิงจะเดินทางมาถึงอีกกว่า 20 นาที เวลาผ่านไปกว่า 40 นาที ซึ่งการโทรแจ้งสายด่วนเกิดเหตุเพลิงไหม้ต่างๆ อาจยังไม่มีการประชาสัมพันธ์อย่างทั่วถึง ก็เป็นปัญหา ซึ่งจะต้องนำไปแก้ไข ทำป้ายหรือสติ๊กเกอร์ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในแต่ละหมู่บ้านทราบ ไม่ต้องคอยรายงานบอกสมาชิก อบต.หรือผู้ใหญ่บ้านทราบแล้วจึงค่อยแจ้ง ประชาชนสามารถโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ทันที

ส่วนการประเมินความเสียหายในการช่วยเหลือเบื้องต้นของท้องถิ่น ทาง อบต.ด่าน เอง ก็มีการเตรียมการสำรวจช่วยเหลือตามกรอบระเบียบ ซึ่งวันนี้มาเพื่อช่วยเหลือและให้กำลังใจเบื้องต้นก่อน โดยนำผ้าห่ม เครื่องอุปโภคบริโภคมาให้ก่อน ช่วงนี้อากาศหนาว ของที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตเบื้องต้น และได้ประสานหน่วยงานข้างเคียงเข้ามาบริจาคช่วยเหลือร่วมกันต่อไป

ส่วนในเรื่องการประเมินความเสียหายขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เนื่องจากบ้านถูกเพลิงไหม้เสียหายทั้งหลัง ในส่วนนี้ ตามระเบียบทางราชการที่จะสามารถนำเงินมาช่วยเหลือได้ประมาณ 4 หมื่นกว่าบาท นายก อบต.ด่านฯ กล่าว

รายงานข่าวแจ้งว่า ธนบัตรที่ถูกไฟไหม้อย่าเพิ่งทิ้ง สามารถนำมาแลกคืนได้ แม้ว่าธนบัตรจะไหม้ดำกรอบเกรียม หากยังมีเนื้อกระดาษเหลืออยู่เกินกว่าครึ่งฉบับ ก็สามารถแลกเปลี่ยนค่าได้เต็มจำนวน

โดยมีข้อแนะนำก่อนนำธนบัตรมาแลก ดังนี้

1. จัดเก็บธนบัตรในภาชนะเพื่อไม่ให้ชำรุดเสียหายมากไปกว่าเดิม

2. นำธนบัตรไปติดต่อทำคำร้องขอแลกเปลี่ยนธนบัตรชำรุดและใบนำส่งธนบัตรชำรุดที่ธนาคารออมสินหรือธนาคารพาณิชย์ ก่อนนำเอกสารและธนบัตรไปยื่นต่อศูนย์จัดการธนบัตร ธนาคารแห่งประเทศไทยด้วยตนเอง