สสจ.เพชรบูรณ์ เผยผลตรวจพิสูจน์ปมมรณะคร่าชีวิต 5 ศพ ในบ่อหมักปลาร้าที่ จ.เพชรบูรณ์ ต้นตอจากก๊าซไข่เน่า สูงกว่ามาตรฐานถึง 5 เท่า และก๊าซแอมโมเนีย สูงกว่ามาตรฐานถึง 5 เท่าเช่นกัน ประกอบกับโรงงานเป็นพื้นที่อับ มีการระบายอากาศไม่ค่อยดี
เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2567 จากกรณีเหตุสลดคนงานพร้อมลูกเขยโรงหมักปลาร้าเสียชีวิตที่ก้นบ่อหมักปลาร้า รวม 5 ศพ เหตุเกิดช่วงเย็นวันที่ 9 ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา ที่โรงปลาร้าแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.หนองไขว่ อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ หลังเกิดเหตุหน่วยกู้ภัยร่วมกตัญญู นำร่างขึ้นจากบ่อปลาร้าให้เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานร่วมกับแพทย์ชันสูตรพลิกศพเบื้องต้น ก่อนนำไปผ่าพิสูจน์ที่โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ และนำตัวอย่างเลือดของผู้ตายทั้ง 5 ส่งตรวจเลือดหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงที่โรงพยาบาลตำรวจ
โดยช่วงเที่ยงของวันนี้ นายแพทย์วิชาญ คิดเห็น นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเพชรบูรณ์, เจ้าหน้าที่จากกรมควบคุมโรค สคร.2 พิษณุโลก, เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเพชรบูรณ์, โรงพยาบาลหล่มสัก, เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หล่มสัก เข้าตรวจสอบบ่อหมักปลาร้ามรณะอีกครั้ง โดยเจ้าหน้าที่จากกรมควบคุมโรค สคร.2 พิษณุโลก ได้นำเครื่องตรวจวัดค่าแก๊สในที่อับอากาศเข้าตรวจสอบอากาศบริเวณปากบ่อและก้นบ่อหมักปลาร้าเกิดเหตุ ภายหลังเสร็จสิ้นการตรวจ ได้นำผลการตรวจไปสรุปอ่านค่าและประชุมที่โรงพยาบาลหล่มสัก
กระทั่งเวลา 17.00 น. นายแพทย์วิชาญ คิดเห็น นายแพทย์ สสจ.เพชรบูรณ์ ได้เปิดเผยผลการตรวจพิสูจน์ด้วยเครื่องตรวจวัดค่าแก๊สในที่อับอากาศและตรวจสถานที่เกิดเหตุว่า มีผลสรุปดังนี้คือ
1. ในพื้นที่ที่ประกอบกิจการเป็นพื้นที่อับอากาศมีการระบายอากาศไม่ค่อยดี
2. เครื่องตรวจวัดค่าแก๊สในที่อับอากาศดำเนินการวัดค่าที่ก้นบ่อที่พบศพผู้เสียชีวิตทั้ง 5 ศพนั้น พบสารเคมีสองชนิด คือ สารไฮโดรเจนซัลไฟด์ หรือก๊าซไข่เน่า สูงกว่ามาตรฐานถึง 5 เท่า และก๊าซแอมโมเนียสูงกว่ามาตรฐานถึง 5 เท่าเช่นกัน ซึ่งก๊าซไข่เน่าเป็นตัวการและสาเหตุหลักในการทำให้ผู้ตายทั้งหมดเสียชีวิต ก๊าซไข่เน่ามีฤทธิ์ต่อร่างกายมนุษย์ที่ไปจับกับเม็ดเลือดทำให้ร่างกายขาดออกซิเจน
3. ผลตรวจพิสูจน์ด้วยเครื่องตรวจวัดค่าแก๊สในที่อับอากาศได้ผลตรงกับการชันสูตรของแพทย์ผู้ผ่าพิสูจน์ศพผู้เสียชีวิตทั้ง 5 ราย ตรงกันว่าเสียชีวิตด้วยการสูดดมสารไฮโดรเจนซัลไฟด์ หรือก๊าซไข่เน่า
แหล่งข่าว: ไทยรัฐ