เอฟซีเศร้าใจ นักร้องลูกทุ่งหมอลำสาวดาวรถแห่ “ผิง ชญาดา” จากไปอย่างสงบ หลังนอนโคม่าในไอซียู 10 วัน แม่เผยลูกสาวปวดหลังปวดไหล่ ไปนวดแผนโบราณกับหมอนวดในตัวเมืองอุดรฯ เจอท่านวดมรณะ “หักคอ” ถึง 3 รอบ กลับบ้านมีอาการแขนขาชา อ่อนแรง ไปเอกซเรย์โรงพยาบาล พบกระดูกต้นคอเคลื่อน พยายามรักษาแต่สายเกินแก้ กลายเป็นคนป่วยติดเตียงก่อนสิ้นใจ แพทย์ระบุปอดบวมและติดเชื้อในกระแสเลือด
สสจ.อุดรฯเร่งลงตรวจสอบจุดเกิดเหตุ เจ้าของร้านยันไม่เคยให้ลูกน้องใช้ท่าหักคอเพราะอันตรายอุทาหรณ์เตือนใจคนขี้เมื่อยให้ระมัดระวัง กรณีเพจเฟซบุ๊ก “รถแห่โอปอมิวสิคอุดรธานี” โพสต์รูปภาพ “ผิง ชญาดา” น.ส.ชญาดา พร้าวหอม อายุ 20 ปี นักร้องลูกทุ่งหมอลำสาว เจ้าของผลงาน 5 เพลงฮิต จากไปอย่างสงบ, นาทีฉุกเฉิน, ลอกการบ้าน, พ้อใหม่ลืมเก่า และขอขมาลาโทษ ในสังกัดกีต้าร์เรคคอร์ด พร้อมข้อความ “RIP ผิง ชญาดา ทางรถแห่ปอได้สูญเสียนักร้องหญิงประจำรถแห่ไปโดยไม่มีวันกลับ เหลือไว้แค่ความทรงจำดีๆ ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวด้วยนะคะ #บอสว่ามันเร็วเกินไป” และก่อนหน้านี้เพจเฟซบุ๊กของแฟนหนุ่มผิง ชญาดา โพสต์ข้อความอาลัยว่า “06.08 ผิงไปแล้วนะครับ ผิงไม่อยู่แล้ว”
ขณะเดียวกัน โลกโซเชียลได้แชร์โพสต์ของ ผิง ชญาดา ที่เคยโพสต์ไว้ในเพจเฟซบุ๊ก เป็นภาพเอกซเรย์กระดูกต้นคอ พร้อมข้อความ “หนูไม่รู้จะเริ่มยังไงดี คนทักถามเยอะมากว่าเป็นอะไร คืองี้หนูไปนวดที่ๆหนึ่งมา ในอุดร อาการตอนก่อนไปนวดคือหนูปวดแค่ไหล่เฉยๆ หนูไปนวดครั้งแรกอาการตอนนวดเสร็จปกติ ผ่านมา 2 วันหนูเริ่มปวดท้ายทอย หนูนึกว่าเป็นอาการปวดของการนวดปกติ (มีบิดคอนะคะ) หลังจากนั้นหนูกินยาระงับอาการ ผ่านไปอีก 1 สัปดาห์ หนูเริ่มมีอาการชาลงแขน ไปนวดอีกกับหมอคนเดิมห้องเดิม รอบนี้ (บิดคอ) อีกนะคะ ผ่านไป 2 สัปดาห์ หนูเริ่มปวดตึงมากๆ มากๆค่ะจนนอนหงายนอนคว่ำไม่ได้ แต่แม่หนูเป็นหมอนวด หนูเรียนนวดมาตั้งแต่เด็กๆค่ะ หนูชอบนวดมาก หนูยังไม่เอะใจอะไร นึกว่าเป็นเอฟเฟคจากการนวดอีก (ปวดตัวแบบนี้)”
ในเพจเฟซบุ๊กของผิง ชญาดา ยังได้โพสต์เล่าเรื่องราวต่ออีกว่า “หนูไปอีกค่ะ ห้องเดิม เบอร์เดิม แต่เป็นคนใหม่ คนนี้นวดแรง บวมช้ำอยู่เป็นสัปดาห์ (ไม่ใช่คนที่บิดคอนะคะ) มีล้วงใต้ราวนม (จั๊กแร้) ค่ะ หลังจากนั้นหนูกินยาเพื่อบรรเทาอาการมาตลอด เริ่มมีอาการไฟช็อตไปปลายนิ้วค่ะ คันมากจนอยากตัดมือทิ้ง ร้อนๆหนาวๆตลอดเวลาค่ะ ก้มแล้วร้าวลงขา ซีกขวารู้ว่าตัวเองชาก็ตอนทาโคโลจน์ หลังจากรอบที่ 3 ที่ไปนวดค่ะ เริ่มลามไปท้อง ราวนม อาการชาเริ่มมากขึ้นเรื่อยๆค่ะ ผ่านไปอีก 2 อาทิตย์ แขนขวาหนูเริ่มยกไม่ได้ค่ะ (อ่อนแรง) จนถึงตอนนี้ร่างกายหนูใช้งานได้ไม่ 50% ค่ะ หนูมาเล่าเพราะมีคนถามมาเยอะ อยากฝากไว้เป็นอุทาหรณ์สำหรับใครที่ชอบนวดมากๆนะคะ หนูจะต้องหายค่ะ หนูทรมานมาก อยากทำงานแล้วค่ะ แต่ตอนนี้รอแค่เวลา ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ”
ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 8 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านเลขที่ 201 หมู่ 1 บ้านแดง ต.บ้านแดง อ.พิบูลย์รักษ์ จ.อุดรธานี หลังญาตินำร่าง น.ส.ชญาดา พร้าวหอม หรือผิง ชญาดา ลูกทุ่งหมอลำสาวดาวรถแห่ มาประกอบพิธีสวดอภิธรรม มีญาติและชาวบ้านที่ทราบข่าวมาช่วยกางเต็นท์เตรียมสถานที่รับแขกเหรื่อที่จะมาร่วมพิธีสวดศพในคืนแรก บรรยากาศเป็นไปด้วยความเงียบเหงา
นางฉันธกาฬ พร้าวหอม อายุ 47 ปี แม่น้องผิง เล่าด้วยน้ำเสียงปวดร้าวใจว่า ตนเป็นหมอนวดแผนโบราณ มีลูก 3 คน ชาย 2 คน หญิง 1 คน น้องผิงเป็นคนสุดท้อง เป็นคนชอบร้องเพลงลูกทุ่งและหมอลำ เป็นนักร้องรถแห่และเรียนไปด้วย หลังเรียนจบ ม.6 น้องผิงไปเป็นนักร้องประจำรถแห่คณะโอปอมิวสิคในตัวเมืองอุดรธานี ต่อมาช่วงเดือนตุลาคม 67 น้องผิงมีอาการปวดไหล่และคอ ครั้งแรกลูกอยากให้ตนนวดให้ แต่ตนเพิ่งผ่าตัดมา ยังนวดไม่ได้ ลูกเลยไปหาหมอนวดที่ร้านนวดแผนโบราณ แถวสวนสาธารณะหนองประจักษ์ เขตเทศบาลนครอุดรธานี หลังนวดกลับมา 2 วัน ลูกเล่าให้ฟังว่ามีอาการนอนหงายไม่ได้ เพราะปวดต้นคอ ต้องกินยาแก้ปวดตลอด คิดว่าเกิดเอฟเฟกต์จากการนวด
แม่น้องผิงเล่าว่า ต่อมาลูกสาวกลับไปนวดใหม่เป็นครั้งที่ 2 กับหมอนวดคนเดิม มีการบิดคอซ้ำอีกครั้ง หลังจากนั้นอาการปวดคอหนักมากขึ้นกว่าเดิม ลูกไปซื้อยาแก้ปวด และยาคลายกล้ามเนื้อมากินตลอด จากนั้นเริ่มมีอาการชาลงแขนซ้าย คล้ายไฟช็อตปลายนิ้ว มือสั่น ลูกยังคิดว่าเกิดจากเอฟเฟกต์ เหมือนเดิม และไปนวดครั้งที่ 3 อีก เป็นห้องเดิมแต่หมอนวดคนใหม่ หลังจากนั้นมาจะมีอาการชา แขนขาอ่อนแรง เริ่มจากแขนซ้าย ลำตัวซ้าย และขาซ้าย ซีกซ้ายจะใช้การไม่ได้เลย กระทั่งเริ่มชาทางซีกขวา มีอาการเหมือนกัน และเดินไม่ได้ กลายเป็นคนป่วยติดเตียง
นางฉันธกาฬกล่าวว่า ช่วงที่ยังเดินได้ ลูกเล่าให้ฟังและให้ตนช่วยเช็กอาการชาว่าเกิดจากกล้ามเนื้อบริเวณใด เพราะตนเป็นหมอนวดเหมือนกัน เช็กดูกล้ามเนื้อแล้วไม่พบจุดไหนที่ทำให้ชาและอ่อนแรง ถามลูกว่าตอนไปนวดให้หมอนวดบิดคอ หรือที่เรียกกันในวงการหมอนวดว่า “ท่าหักคอ” ด้วยใช่ไหม ลูกตอบว่าใช่ หักคอ 2 รอบ ตนรู้เลยว่ากระดูกคอต้องเคลื่อนแน่ รีบบอกให้ลูกไปตรวจรักษาที่ รพ.ศูนย์อุดรธานี ไปเล่าอาการให้หมอฟัง หมอไม่เชื่อว่าอาการนี้เกิดจากการนวด พร้อมกับหัวเราะ พอเห็นมือน้องผิงสั่น หมอยังถามว่าน้องผิงติดยาหรือเปล่า หมอให้แต่ยาแก้ปวด ยาคลายเครียดมากิน และไม่ยอมเอกซเรย์คอให้
“หลังน้องมีอาการ แม่บอกให้รีบกลับบ้าน แต่น้องผิงติดงาน 4-5 วัน พอกลับมาบ้านได้เข้า รพ.พิบูลย์รักษ์ เล่าอาการให้หมอฟัง หมอจับเอกซเรย์ทันที และบอกว่ากระดูคอคด มีปัญหา ส่งตัวไปรักษาต่อที่ รพ.หนองหาน ดูแผ่นเอกซเรย์พบว่ากระดูกคอ ซี 1 ซี 2 ซี 3 เคลื่อน ได้ฉีดยาแก้ปวดและให้กินยา มีนัดพบหมออีกครั้งในวันที่ 16 พ.ย.67 แต่น้องผิงรอไม่ได้ เพราะปวดมากขึ้น อ่อนแรงมากขึ้น ไปพบหมอก่อนนัดในวันที่ 6 พ.ย. เมื่อไปถึงหมอเห็นว่าอาการหนักมาก ส่งตัวไปรักษาต่อในกรณีกระดูกคอเคลื่อนที่ รพ.ศูนย์อุดรธานี ตั้งแต่วันที่ 7 พ.ย. มีทั้งรักษากระดูกคอเคลื่อน ไขสันหลังอักเสบ จะรักษากับหมอเฉพาะทางหลายหมอ แต่ไม่ดีขึ้น ลูกกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา อยู่ในห้องไอซียู ประมาณ 10 คืน” แม่ผู้สูญเสียลูกสาวจากการนวดผิดวิธีเล่าด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
นางฉันธกาฬเล่าต่อไปว่า เมื่อคืนนี้หมอเรียกไปถามว่า ถ้าหัวใจน้องหยุดเต้น จะให้ปั๊มหัวใจหรือไม่ ตนตอบว่าไม่ เพราะถ้าปั๊มหัวใจแล้วน้องผิงจะอยู่กับเราไม่นาน เนื่องจากทุกอย่างในร่างกายรวนไปหมดแล้ว ปอดเป็นฝ้าติดเชื้อชนิดดื้อยา เลือดมีเชื้อรา เชื้อขึ้นสมองบวม ใช้ยาแพง ยาเมืองนอก ยาแรง แต่ยามีผลกดภูมิคุ้มกันของน้องผิง ส่วนสาเหตุการเสียชีวิต หมอบอกว่าติดเชื้อมาก เชื้อเข้ากระแสเลือด ร่างกายรับไม่ไหว ตนเลยตัดสินใจให้น้องผิงจากไปอย่างสงบ และในวันที่ 19 ธ.ค. หมอจะออกเอกสารระบุสาเหตุการเสียชีวิตให้ ช่วงก่อนน้องผิงจะปวดคอปวดไหล่ เมื่อตอนเข้าพรรษาที่ไม่มีงานแสดง น้องผิงได้ไปขายปลาหมึกย่าง ต้องยกโต๊ะเก้าอี้ ทำให้ปวดตึงคอบ่าไหล่ตามปกติ
“ตั้งแต่เด็กน้องผิงชอบร้องเพลง เคยไปประกวดร้องเพลงรายการไมค์ทองคำ อยากไปประกวดที่ไหนแม่จะพาไป และเปิดค่ายเพลงเล็กๆใกล้บ้าน กระทั่งหัวหน้าค่ายกีต้าร์เรคคอร์ดเห็นความสามารถ ได้ชักชวนไปอยู่ด้วย ไม่คิดว่าลูกจะด่วนจากไป ไม่ได้คุยกันมาก แต่น้องผิงเคยบอกว่า ถ้าผิงหาย ผิงจะพาแม่รวย ไม่นานเราจะรวย พูดคำนี้ตลอด ส่วนความฝันของน้องผิงคืออยากเป็นนักร้องมีชื่อเสียง เพิ่งได้ออกเพลง 2 ซิงเกิล แต่ยังไม่ดัง กลับมาเสียชีวิตไปก่อน ที่ผ่านมาค่ายเพลงได้มาเยี่ยมและช่วยเงินรักษา ส่วนศพน้องผิงจะรอพี่ชาย 2 คนกลับมาบ้านก่อน ถึงจะทำพิธีฌาปนกิจศพน้องผิง คาดว่าจะเป็นพุธหรือพฤหัสบดีที่จะถึงนี้” นางฉันธกาฬกล่าวทั้งน้ำตา
นพ.สมชายโชติ ปิยวัชร์เวลา นพ.สสจ.อุดรธานี กล่าวว่า สสจ.อุดรธานี ได้ส่งทีมลงไปตรวจสอบในพื้นที่ตัวเมืองอุดรธานี พบมีร้านนวดแผนโบราณประมาณ 14 แห่ง กำลังตรวจสอบว่าเป็นร้านนวดใด ผ่านมาตรฐานการรับรองจากกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) หรือไม่ และหมอนวดได้ผ่านการอบรมหลักสูตรการนวดจาก สบส. หรือของกรมการแพทย์แผนไทย และการแพทย์ทางเลือก 372 ชั่วโมงหรือไม่ เพราะบางร้านอาจจ้างหมดนวดที่ไม่ได้ผ่านหลักสูตรการเรียนนวดไทย แต่ให้มาเรียนกันเองในร้าน หรืออาจเรียนแต่ไม่ครบหลักสูตรตามรายชั่วโมงที่กำหนด จะตรวจสอบให้แน่ชัดว่าเป็นลักษณะใดควบคู่กับการเสียชีวิตของผู้ป่วยว่ามีสาเหตุเชื่อมโยงจากการนวดด้วยหรือไม่
ต่อมาเวลา 14.00 น. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ร้านน้องนวดแผนโบราณ ห้องล็อกที่ 42 ริมสวน สาธารณะหนองประจักษ์ศิลปาคม ถนนเทศา เขตเทศบาลนครอุดรธานี หลังถูกระบุว่าเป็นร้านนวดที่น้องผิง ชญาดา ภูพร้าว นักร้องลูกทุ่งหมอลำสาว มาใช้บริการก่อนมีอาการกระดูกคอทับเส้นประสาท แขนขาชาเป็นอัมพาต และเป็นเจ้าหญิงนิทราจนเสียชีวิตในที่สุด เมื่อเดินทางไปถึง พบ น.ส.สุมิญชยา สังฆทิพย์ นักวิชาการสาธารณสุขปฏิบัติศูนย์สนับสนุนบริการสุขภาพที่ 8 อุดรธานี นางศุทธินี เหลือวงศ์ หัวหน้ากลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภคและเภสัชสาธารณสุข จ.อุดรธานี นายสมชาย ชิณวานิชย์เจริญ หัวหน้ากลุ่มงานการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก สสจ.อุดรธานี พร้อมคณะ เดินทางมาตรวจร้านแห่งนี้ว่าขึ้นทะเบียนเป็นผู้ให้บริการในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ประเภทนวดเพื่อสุขภาพหรือไม่
จากการตรวจสอบพบหมอนวด 2 คน มีใบขึ้นทะเบียน ส่วนอีก 5 คน อยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบ หากไม่มีใบขึ้นทะเบียนจะผิดกฎหมาย เป็นหมอนวดเถื่อน ไม่สามารถให้บริการในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบและเก็บข้อมูลกลับไปรายงาน นพ.สมชายโชติ ปิยวัชร์เวลา นพ.สสจ.อุดรธานี ต่อไป
นางนิชาภา ชยะธนะภัทร อายุ 60 ปี ผู้จัดการร้านน้องนวดแผนโบราณ ชี้แจงว่า ร้านนวดแห่งนี้เปิดมาตั้งแต่ปี 2548 หมอนวดแผนโบราณที่ร้านมีจำนวนไม่แน่นอน แล้วแต่บางวัน บางครั้งเป็น 10 คน บางครั้งเหลือ 4-5 คน แล้วแต่จังหวะที่หมอนวดจะมีงานที่อื่น ไปทำงานที่พัทยา ภูเก็ต หรือต่างประเทศ หมอนวดส่วนมากจะมาทำชั่วคราว ทางร้านจะตรวจสอบหมอนวดทุกคนว่ามีใบอนุญาตและขึ้นทะเบียนหรือไม่ หากถามว่ารู้หรือไม่ว่าใครเป็นคนนวดน้องผิงที่เสียชีวิต เราไม่ทราบ จำไม่ได้ว่ามีลูกค้าคนไหนเข้ามาเมื่อไหร่ แต่ถ้าหากมานวดวันนี้หรือพรุ่งนี้ พอจะนึกออกอยู่บ้าง แต่เห็นว่าตามข่าวที่บอกคือมานวดช่วงตุลาคมปีนี้ ไม่ว่าจะหมอนวดหรือลูกค้าเอง คิดว่าคงจะจำไม่ได้แน่นอน ว่าเคยนวดใครคนไหน เพราะเป็นการไล่เป็นตามคิว วันต่อวัน แต่จะมีอีกประเด็นคือลูกค้าประจำจะมีหมอนวดประจำ ที่มาใช้บริการบ่อยๆ เขาจะจำกันได้ แต่กรณีนี้ไม่ใช่ เขามาถามหา เราก็ไม่รู้ว่าเคยนวดกับใคร
แหล่งข่าว: ไทยรัฐ