“สืบนครบาล” รวบหนุ่มนักตุ๋นอ้างรู้จัก “บิ๊กตำรวจ” หลอกว่าสามารถช่วยประกันตัวชาวจีนได้ สูญเงินกว่า 1.1 ล้านบาท

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 26 พ.ย. 67 พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก.สส. พ.ต.อ.วิชิต ถิรขจรวงศ์ ผกก.สส.1 พ.ต.ท.พัฒน์พงษ์ กื้อมะโน สว.กก.สส.1 บก.สส.บช.น. นำกำลังจับกุม นายธนจิตร มาลีบำรุง อายุ 27 ปี ชาว จ.ร้อยเอ็ด ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงพระนครเหนือที่ 645/2566 ลงวันที่ 15 ธ.ค. 66 ข้อหาฉ้อโกง จับกุมได้ที่บริเวณหน้าห้องเช่าแห่งหนึ่ง ซอยพัฒนาการ 10/1 แขวงและเขตสวนหลวง กทม. เมื่อวันที่ 25 พ.ย.ที่ผ่านมา

สืบเนื่องจากเมื่อประมาณเดือน มี.ค. 65 ผู้เสียหายชาวจีนได้รู้จักกับนายธนจิตร มีเพื่อนแนะนำให้รู้จัก ต่อมามีเพื่อนผู้เสียหายเป็นคนจีนถูกตำรวจจับกุมความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตม.3 คุมขัง ผู้เสียหายจะประกันตัวให้เพื่อนเพื่อออกมาต่อสู้คดี นายธนจิตรอ้างว่าช่วยเรื่องประกันตัวได้ พ่อตนเป็นทหารยศพลตรี สนิทกับบิ๊กตำรวจ สนิทกับรองผบช.ก.

ผู้เสียหายบอกนายธนจิตร มีงบประกันตัวอยู่ 500,000 บาท เมื่อวันที่ 14 ก.ย. 66 นายธนจิตรบอกให้ผู้เสียหายโอนเงิน 50,000 บาท เป็นค่าเลี้ยงอาหารผู้ใหญ่เป็นรอง ผบช. สอบสวนกลาง ผู้เสียหายให้แฟนคนไทยโอนเงินให้นายธนจิตร บัญชีธนาคารกรุงไทย ชื่อบัญชีนายนิรันดร นายธนจิตรแจ้งว่าเป็นบัญชีของพ่อนายธนจิตร โดยบอกว่าบัญชีธนาคารกรุงไทยของตนปรับปรุงทำธุรกรรมการเงินไม่ได้ วันเดียวกันนายธนจิตรแจ้งว่าให้โอนเงินมาให้อีก 42,600 บาท โดยให้โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ ชื่อบัญชีนายนภปก ผู้เสียหายจึงให้แฟนโอนเงินอีก 44,200 บาท และ 400 บาท

ต่อมาวันที่ 17 ก.ย. 65 นายธนจิตรบอกว่าต้องการเงินก่อน 400,000 บาท ก่อนหน้านี้ผู้เสียหายให้เงินไปแล้ว 92,600 บาท ให้เพื่อนของเพื่อนช่วยโอนเงินไปอีก 307,400 บาท

กระทั่งวันที่ 20 ก.ย. 65 นายธนจิตรแจ้งว่ารองผู้บังคับการตม.3 (พัทยา) ต้องการเงินอีก 200,000 บาท ในการประกันตัว ถ้าไม่เช่นนั้นจะไม่ได้ประกันตัว ผู้เสียหายให้แฟนของเพื่อนโอนให้ 200,000 บาท ไปบัญชีธนาคารกรุงไทย ชื่อบัญชีนายนิรันดร แล้วนายธนจิตรบอกว่า วันที่ 5 ต.ค. 65 ให้ไปรับตัวเพื่อนแต่ถึงกำหนดไม่สามารถประกันตัวได้ นายธนจิตรอ้างว่าผู้บังคับการตม.3 ต้องการเงินเพิ่มอีก 400,000 บาท นัดหมายให้ส่งเงินกันในวันที่ 7 ต.ค. 65 เอาเงินไปให้นายธนจิตรกับพวกอีก 2 คน ที่ห้างเดอะสตรีท รัชดา และแจ้งกับผู้เสียหายว่าวันที่ 8 ต.ค. 65 สามารถประกันตัวออกมาได้

แต่เมื่อถึงกำหนดไม่สามารถประกันตัวเพื่อนได้อีก รวมเป็นเงินจำนวน 1,000,000 บาท ผู้ต้องหาบอกว่าผู้บังคับการตม.3 ต้องการเงินอีก 600,000 บาท แต่ผู้เสียหายไม่ตกลงด้วย นายธนจิตรอ้างอีกว่าจะให้ สจ.เป็นเจ้าของเกาะสีชังช่วย ขอเงินอีก 50,000 บาท เพื่อไปเลี้ยงข้าวผู้ใหญ่ วันที่ 18 ต.ค. 65 โอนเงิน 50,000 บาทให้ ต่อมาวันที่ 24 ต.ค. 65 นายธนจิตรโทรศัพท์มาบอกตนต้องการเงินอีก 30,000 บาทไปเลี้ยงข้าวผู้บังคับการตม.3 ให้แฟนของเพื่อนโอนเงินให้กับนายธนจิตร

จากนั้นนายธนจิตรบอกอีกว่า สจ. ต้องการเงินอีก 500,000 บาท แต่ผู้เสียหายไม่ยอม นายธนจิตรบอกว่าจะหาทนายความไปดำเนินการให้ ต้องจ่ายค่าจ้างให้กับทนายความ 70,000 บาท โอนให้ไปอีกที่บัญชีธนาคารของนายธนจิตรแต่ก็ไม่ได้ประกันตัว ทำให้เกิดความสงสัยว่า พ่อของนายธนจิตรชื่อนิรันดร ทำไมไม่มียศพลตรี เมื่อโอนเงินให้บัญชีพ่อของนายธนจิตร และต่อมาได้โทรติดต่อนายธนจิตรไม่ค่อยจะรับสาย บ่ายเบี่ยงเรื่อยมาว่าติดธุระ จนถึงเมื่อวันที่ 28 เม.ย. เชื่อว่าถูกหลอกลวง รวมเป็นเงินทั้งหมดที่ได้ถูกลวงหลอกให้โอนเงินเป็นเงิน 1,150,000 บาท แจ้งความ สน.ห้วยขวาง ดำเนินคดี

ขณะที่ นายธนจิตร รับสารภาพว่ารู้จักเพื่อนของผู้ต้องหาจริง และอ้างว่ารู้จักกับนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ อ้างว่าพ่อเป็นนายทหารยศพลตรี สามารถให้ความช่วยเหลือเรื่องประกันตัว แท้จริงพ่อทำงานเชียร์แขกในสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง ออกอุบายให้โอนเงินหลายครั้ง นำไปใช้ส่วนตัวและไม่ติดต่อผู้เสียหาย หลบหนีไปต่างจังหวัดและกลับมาทำงานที่ กทม. เพียง 2 เดือน ก่อนถูกจับกุม

ทางด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น.กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจหรือเจ้าหน้าที่รัฐไม่มีนโยบายให้การช่วยเหลือผู้ต้องหาในทางคดีอาญาในทุกคดี อย่าหลงเชื่อบุคคลที่แอบอ้างว่ารู้จักบิ๊กตำรวจ เจ้าหน้าที่รัฐ หรือนักการเมืองใหญ่โต ดังที่ปรากฏตามหน้าข่าวปัจจุบันว่าสามารถให้การช่วยเหลือในคดีต่างๆ ได้ โดยที่ต้องใช้เงินในการวิ่งเต้นต่างๆ

ทั้งนี้ ขอให้ท่านมีสติ ต่อสู้ไปตามกระบวนการทางกฎหมาย สุดท้ายหากท่านพบการกระทำในลักษณะดังกล่าว ให้รีบโทรแจ้งเรื่องร้องเรียนที่เบอร์ 1599 สายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือแจ้งที่สถานีตำรวจใกล้บ้าน

อย่างไรก็ตาม จากนั้นได้นำผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.