ยะลา – หนุ่มขับรถกู้ภัยงานเข้า หลังเพจดังแชร์คลิปรถกู้ภัยปิดถนนให้แก๊งรถกระบะซิ่งกว่า 100 คันร่วมงานแต่ง มูลนิธิต้นสังกัดรู้สึกผิด สั่งพักงานไม่มีกำหนด แจงติดต่อกันมาเป็นส่วนตัว คิดว่าเป็นงานบุญ ด้าน ผกก.สภ.เมืองยะลา เร่งไล่กล้องวงจรปิดเปรียบเทียบปรับ จ่อฟ้องศาลให้ดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ทางหลวง โทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท

เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ.2567 จากกรณีเพจ “เฮียขับรถ” ได้เผยแพร่คลิปเหตุการณ์กลุ่มรถซิ่งที่มีทั้งรถกระบะและรถเก๋งหลายคัน ขับเร่งเครื่องควันดำขโมงบนถนนแห่งหนึ่ง ซึ่งมีจุดที่น่าสนใจในคลิปดังกล่าวคือ ได้มีรถกู้ภัยทำการปิดถนนกั้นรถของประชาชนที่สัญจรไปมา เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับขบวนรถซิ่งดังกล่าว ซึ่งมีผู้เข้ามาวิจารณ์กันอย่างกว้างขวางถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม อีกทั้งยังให้ข้อมูลว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่จังหวัดยะลา บริเวณถนนเชิงสะพานท่าสาป ต.ท่าสาป อ.เมืองยะลา ซึ่งเป็นถนนสายหลักที่มุ่งเข้าสู่ตัวเมืองยะลา และได้มีการเปิดเผยถึงข้อมูลที่อยู่ของรถมูลนิธิฯ ในคลิป

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยัง “มูลนิธิเพื่อการศึกษาและการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์” ที่ตั้งอยู่บริเวณถนนสิโรรส เขตเทศบาลนครยะลา จนได้พบและพูดคุยกับนางสาวยามีละห์ สีแต ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ โดยให้ข้อมูลว่า รถกู้ภัยฯ ที่เห็นในคลิป เป็นของมูลนิธิจริง ซึ่งกลุ่มรถซิ่งได้ติดต่อกับคนขับรถของมูลนิธิฯ โดยรู้จักกันเป็นการส่วนตัวไม่ได้ผ่านทางมูลนิธิฯ ซึ่งทางผู้ติดต่อแจ้งว่าจะให้มาอำนวยความสะดวกขบวนรถงานบุญงานหนึ่งเท่านั้น ประกอบกับวันที่เกิดเหตุเป็นวันเสาร์ ซึ่งเป็นวันหยุดของมูลนิธิฯ โดยในวันดังกล่าว คนขับรถกู้ภัยฯ ติดภารกิจ จึงให้เพื่อนไปขับแทน โดยหลังจากทราบเรื่อง ทางมูลนิธิฯ ก็รู้สึกผิดและได้สั่งพักงานคนขับและเพื่อนเขาแบบไม่มีกำหนด

ซึ่งวันนี้จะขอชี้แจงในเรื่องของรถกู้ภัยกองทุนซะกาตและการกุศล คือเราได้รับข่าวจากเมื่อวานก็รู้สึกไม่บอกถูกเหมือนกัน แต่ว่าเราจะชี้แจงว่าของเราได้รับเรื่อง ก็คือจากพี่น้องจากพื้นที่ได้ประสานมากับกู้ภัยของเรา แต่ในที่นี้เขาไม่ได้ประสานโดยตรงให้กับสำนักงาน ประสานกับทีมกู้ภัยกันเองก็เลย เรายังไม่ทราบข้อมูล แต่ว่าทราบเบื้องต้นก็คือว่ามีชาวบ้านโทรติดต่อกับคนขับรถของกู้ภัยเรา บอกว่าให้ไปร่วมงานนำขบวนแต่ว่าไม่ได้แจ้งว่าขบวนอะไร เราก็เลยเข้าใจว่าขบวนงานการกุศล เพราะปกติรถกู้ภัยของเราช่วยเหลือในด้านการกุศลอยู่แล้ว รู้สึกว่าทางเราเข้าใจว่าเป็นงานบุญก็เลยตอบรับไป ก็เลยนำขบวนไปเสร็จ ที่นี่พอนำขบวนไปถึงที่เปาะเซ้งน่ะ แต่ว่าเราพึ่งรู้ว่าอันนั้นเป็นงานแต่งไม่ได้เป็นงานการกุศล หลังจากนั้นเราก็ไม่ได้รู้เลยว่าข้อมูลหลังจากนั้นคือเกิดอะไรขึ้นบ้าง เราก็จะชี้แจงตรงนี้ เพราะวันนั้นเป็นวันเสาร์ วันหยุดของคนทำงาน ปกติก็คือรถเรารับเคสรับอะไรปกติ แต่พอมาวันเสาร์วันหยุดของคนทำงานก็เลยวันนั้นไม่ได้ไปทำงาน แต่ว่าเขาก็เลยติดต่อโดยตรงส่วนตัว ก็เลยไม่ได้ผ่านสำนักงาน ของเราก็ชี้แจงประมาณนี้เพราะว่าเรานี้ก็คือยังไม่รู้ว่าเขาประสานให้เราไปร่วมงานยังไง และก็เราก็ไม่รู้ว่าชมรมกระบะซิ่ง เราเข้าใจว่าชมรมงานบุญงานอะไรแบบนี้เราก็เลยรับปากไป นางสาวยามีละห์กล่าว

ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้เข้าพบ พ.ต.อ.ปิยภัทร ทองพันเลิศกุล ผกก.สภ.เมืองยะลา ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ได้เห็นคลิปดังกล่าวแล้วจากเพจเฮียขับรถ เป็นคลิปรถยนต์ซึ่งเป็นรถกระบะแต่งซิ่ง ขับรถสร้างความก่อกวนและก็มีการใช้รถของมูลนิธิมาปิดเส้นทางถนนหลวง เพื่อให้ในกลุ่มแก๊งตัวเองกลับรถ ต่อมาได้ทำการตรวจสอบพบว่าขบวนรถดังกล่าวเป็นรถขบวนของงานแต่งงานของนายอัสลัม ฟาแม บ้านอยู่บ้านเนียง ในพื้นที่ตำบลเปาะเส้ง อำเภอเมือง จังหวัดยะลา โดยได้เรียกตัวมาสอบปากคำเป็นที่เรียบร้อย ตามคำสั่งของ พล.ต.ต.เสกสันต์ ชูรังสฤษฎิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา ให้ตรวจสอบเรื่องนี้

“โดยมูลนิธิที่โดนคอมเมนต์ตำหนิถึงความเหมาะสม เอาง่ายๆ ว่ารถมูลนิธิมาเป็นรถนำขบวนให้กับกลุ่มวัยรุ่นได้ไง ก็ขอเรียนว่าเป็นรถของมูลนิธิแห่งหนึ่งในพื้นที่ตำบลลิดล ปรากฏว่าคนที่ขับรถ คนที่เป็นเจ้าหน้าที่ประจำรถก็คือ นายอับดุลวาแม อาแว เราก็ได้เรียกมาเพื่อจะแจ้งข้อหาในการปิดถนนหลวง ตาม พ.ร.บ.ทางหลวง ซึ่งผมคิดว่าโทษหนักมาก โทษปรับไม่เกิน 60,000 จำคุกไม่เกิน 3 ปี ก็นี้ทำสำนวนฟ้องศาลแขวงไป เพราะว่าทางตำรวจไม่มีอำนาจปรับ

ส่วนแก๊งรถซิ่งทั้งหมดราว 100 คัน มาจากกลุ่มชื่อ มิตรภาพดีเซล ซึ่งมีเจ้าบ่าวได้โพสต์ลงไปในไลน์กลุ่ม ในวันที่ 15 พฤศจิกายน ในวันที่ 16 พฤศจิกายนตัวเองจะแต่งงาน กลุ่มเพื่อนเลยทำการรวมกลุ่มกว่า 100 คัน มาร่วมขบวนรถเจ้าบ่าว โดยนัดเจอกันที่ปั๊ม ปตท.ท่าสาป

“ก็ทุกคันที่มีส่วนเกี่ยวข้องที่ผมพบอยู่ในกล้องวงจรปิดหรือในคลิปที่เขาถ่ายเองน่ะ ผมก็จะเรียกมาปรับตามข้อหาทั้งหมด ส่วนที่มันจะเข้าแข่งรถในทาง หรือการขับรถโดยไม่คำนึงถึงบุคคลอื่น เดี๋ยวว่ากันไปตามกรรมของแต่ละคันต่อไป” ผกก.สภ.เมืองยะลา กล่าว