หนุ่มพม่าซิ่งกระบะขนต่างด้าว หนีตำรวจชนเสาไฟตกคูน้ำดับสยอง 7 ศพ ขณะสายตรวจรถยนต์ ออกตรวจพื้นที่ พบรถต้องสงสัยจอดซุ่มหลบในที่มืดวกกลับไปดู คนขับรีบเร่งเครื่องเผ่นหนี รถเสียหลักแหกโค้งหักศอกอัดเสาไฟฟ้าหักโค่นพุ่งลงน้ำตายเรียบยกคัน ชุดสืบสวนเตรียมเรียกเจ้าของรถสอบโยงแก๊งค้าแรงงานเถื่อน
อุบัติเหตุสยองหนุ่มพม่าซิ่งกระบะลอบขนต่างด้าวหนีตำรวจชนเสาไฟฟ้าตกคูน้ำ 7 ศพ เปิดเผยเมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 20 พ.ย. พ.ต.ท.ปรัชญา บูรณัต สว.(สอบสวน) สภ.บางเลน จ.นครปฐม รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถกระบะแหกโค้งชนเสาไฟฟ้าตกคูน้ำมีผู้เสียชีวิตหลายราย บริเวณทางโค้งเกาะแรด ถนนสายบางเลน-บางปลา หมู่ 8 ต.บางเลน อ.บางเลน ไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.อภิศักดิ์ กำเนิด ผกก.สภ.บางเลน แพทย์เวรโรงพยาบาลบางเลน และอาสา กู้ภัยมูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์
ที่เกิดเหตุเป็นทางโค้งหักศอกหน้าวัดเกาะแรด พบเสาไฟฟ้าถูกชนหัก 1 ต้น ภายในคูน้ำพบรถกระบะ อีซูซุ ดีแมคซ์ สีเทา ทะเบียน 3 ฒห 2488 กรุงเทพ มหานคร สภาพพังเป็นเศษเหล็กเกือบทั้งคัน หลังคาเปิด ภายในซากรถพบผู้เสียชีวิตเป็นชาย 2 ศพ ก่อนประสานเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอบางเลน ตัดกระแสไฟลงไปนำศพออกมา นอกจากนี้ ในคูน้ำ ยังพบผู้เสียชีวิตเป็นหญิงอีก 5 ศพ ส่วนในรถพบพาสปอร์ต 1 เล่ม ชื่อ นายอ่อง อ่อง อู สัญชาติเมียนมา เสื้อผ้า เครื่องใช้ไฟฟ้า ผ้าห่ม และขวดน้ำต้มใบกระท่อม 1 ขวด
สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจ สายตรวจรถยนต์ สภ.บางเลน ออกตรวจพื้นที่ตาม ถนนสายบางเลน-บางปลา พบรถกระบะคันดังกล่าว จอดซุ่มอยู่ในที่มืดริมถนนฝั่งตรงข้ามการไฟฟ้าส่วน ภูมิภาคอำเภอบางเลน ท่าทางมีพิรุธ ตำรวจสายตรวจ วนรถกลับไปตรวจสอบ แต่คนขับกลับซิ่งรถหลบหนี อย่างรวดเร็ว กระทั่งมาถึงที่เกิดเหตุเป็นทางโค้งหักศอก รถเสียหลักชนเสาไฟฟ้าหักโค่นพุ่งตกคูน้ำ คนขับพร้อมผู้โดยสารตายยกคัน
ต่อมาเจ้าหน้าที่นำรถยกมาลากรถกระบะคัน เกิดเหตุมาเก็บไว้ที่โรงพัก พร้อมทั้งตรวจสอบเอกสารหลักฐานการครอบครองรถ ระบุชื่อ นายโซ มิน อ่อง สัญชาติเมียนมา ที่อยู่ตามใบอนุญาตขับขี่ เลขที่ 15/20 หมู่ 9 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ส่วนหลักฐานผู้เสียชีวิตทั้ง 7 ศพ มีเพียงนายอ่อง อ่อง อู คนขับคนเดียวที่มีพาสปอร์ต ส่วนอีก 6 คน ไม่พบเอกสารใดๆ สันนิษฐานว่าเป็นแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย ตำรวจอยู่ระหว่างเรียกเจ้าของรถกระบะมาสอบปากคำและขยายผลว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการค้าแรงงานเถื่อนหรือไม่
แหล่งข่าว: ไทยรัฐ