พบศพสาวบาร์เบียร์ สภาพเปลือยท่อนบน เป็นศพในเกสต์เฮ้าส์ที่พัทยา ฝรั่งไอซ์แลนด์ คนเช่าห้อง อ้างไม่รู้ว่าตาย เห็นครั้งสุดท้ายอ้วก นอนนิ่ง

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 22 ธ.ค. 67 ร.ต.อ.พุทธรักษ์ สอนคำหาน รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองพัทยา ได้รับแจ้งว่าพบศพหญิงสาวตายขึ้นอืดอยู่ภายในห้องพัก เกสต์เฮาส์แห่งหนึ่ง ถนนเลียบชายหาดจอมเทียน ต.หนองปรือ อ.บางละมุง หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วพร้อมด้วยตำรวจชุดสืบสวน ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน 2 ชลบุรี แพทย์เวรโรงพยาบาลบางละมุง และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ฯ เมืองพัทยา ไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ สร้างดัดแปลงเป็นห้องพักรายวัน-เดือน ตรวจสอบภายในห้องพักดังกล่าว พบศพหญิงไทย ทราบชื่อ นางดวงตา (สงวนนามสกุล) อายุ 45 ปี ชาวจังหวัดศรีสะเกษ สภาพศพนอนหงายอยู่บนเตียงนอน เปลือยกายท่อนบน นุ่งกางเกงยีนส์ขาสั้น เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 3 วัน จนร่างเริ่มเน่าขึ้นอืด ส่งกลิ่นฟุ้งไปทั่วห้อง ทั้งศพยังอยู่ในสภาพลิ้นจุกปาก ใบหน้าเขียวช้ำ โดยมีผ้าขนหนูสีฟ้าวางอยู่บริเวณข้างศีรษะ ตรวจสอบภายในห้องพัก ไม่พบร่องรอยการต่อสู้หรือค้นทรัพย์สิน

สอบถามคนดูแลเกสต์เฮาส์ เล่าให้ฟังว่า ก่อนเกิดเหตุได้กลิ่นเหม็นเน่าลอยออกมาจากห้องดังกล่าว พยายามเคาะประตูเรียกแต่ก็ไม่มีใครออกมาเปิดประตูให้ จึงตัดสินใจนำกุญแจสำรองมาไขเข้าไป ถึงกับผงะเมื่อพบศพหญิงสาวนอนอยู่บนเตียง ในสภาพศพเริ่มเน่าขึ้นอืด ซึ่งห้องพักดังกล่าว มีชายสูงอายุ ชาวไอซ์แลนด์ เป็นผู้เช่า แต่ตอนที่ไขเข้าไปนั้น ไม่พบเจ้าของห้อง

ต่อมาตำรวจมีการกระจายกำลังติดตามหาเจ้าของห้องพัก จนไปเจอตัวอยู่ที่บริเวณชายหาดจอมเทียน เป็นชาวไอซ์แลนด์ อายุ 71 ปี โดยเจ้าตัวอยู่ในอาการพูดจาวกไปวนมา อ้างว่า ผู้ตายทำงานบาร์เบียร์ และได้ชักชวนมาร่วมกับนอนที่ห้องพัก เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.  ซึ่งในวันที่ไปรับมาที่ห้อง ผู้ตายเล่าให้ฟังว่า ถูกคนรุมทำร้าย จนได้รับบาดเจ็บ ตนก็พามานอนที่ห้อง ระหว่างนั้น ผู้ตายมีอาการอ้วกและนอนหลับตลอด ตนก็ไม่ได้เอะใจอะไร ซึ่งได้คุยกับผู้ตายครั้งสุดท้ายคือ วันที่ 19 ธ.ค. และก็ไม่ได้คุยอีกเลย เข้าใจว่าผู้ตายน่าจะเพลีย เลยนอนหลับสนิท กระทั่งตำรวจมาติดตามตัว 

ทั้งนี้ ยืนยันว่า ไม่ได้ทำร้ายผู้ตาย หรือทำให้ผู้ตายเสียชีวิต ส่วนที่ไม่แจ้งตำรวจ เพราะไม่รู้ว่าผู้ตายเสียชีวิตแล้ว และก็ไม่ได้กลิ่นศพ

เบื้องต้น แพทย์ระบุผู้ตายเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 วัน โดยจะได้ส่งศพไปชันสูตรที่สถาบันนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจอีกครั้ง ส่วนนายเอเรนนาช แบร์รัค ตำรวจได้มีการเชิญไปสอบปากคำที่โรงพัก พร้อมทั้งให้ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน ทำการตรวจรอยนิ้วมือและตรวจหาดีเอ็นเอ โดยตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การ

ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บาร์เบียร์ ซึ่งเป็นที่ทำงานเก่าของผู้ตาย อยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 500 เมตร และพูดคุยกับ น.ส.พิม (นามสมมติ) อายุ 46 ปี อดีตเพื่อนร่วมงาน โดย น.ส.พิม เล่าว่า ผู้ตายเป็นคนหน้าตาดี แต่ชอบดื่มเหล้าตลอดเวลา ประมาณวันที่ 17 ธ.ค. ที่ผ่านมา ผู้ตายได้มาหาที่ร้าน โดยใส่แมสก์ปิดบังใบหน้า แต่มองผ่านแมสก์รู้ว่าถูกทำร้ายมา โดยผู้ตายเล่าให้แม่ครัวฟังว่า ถูกฝรั่งผิวสีทำร้ายมาจากย่านจอมเทียนสาย 2 แต่ก็ไม่ได้มีใครเอะใจอะไร ส่วนชาวไอซ์แลนด์ที่คบหาอยู่ในปัจจุบัน เพิ่งจะรู้จักกันได้ไม่ถึง 2 อาทิตย์ ซึ่งผู้ตายยืนยันว่า ฝรั่งรายนี้ไม่ได้เป็นคนทำร้าย แต่ก็รู้สึกแปลกใจที่ผู้ตายไปเสียชีวิตอยู่ในห้องชาวไอซ์แลนด์