“พนักงานขนส่ง” ปะทะเดือดลูกค้า ยืนยันโดนท้าทายจนบันดาลโทสะ พร้อมขอโทษสังคม-เพื่อนร่วมงาน หลังถูกมองในมุมไม่ดี

จากกรณีโลกออนไลน์ ได้มีการแชร์คลิปวิดีโอเหตุการณ์ ขณะพนักงานขนส่งปะทะเดือดลูกค้า โดยทั้งสองฝ่ายมีการท้าดวลหมัดกันแบบลูกผู้ชาย กระทั่งทั้งคู่มีการล้มลงจนมีบาดแผลถลอก ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวได้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา

ล่าสุด วันที่ 22 ธันวาคม 2567 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังโกดังสินค้าบริษัทดังกล่าว ในพื้นที่อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี พบกับนายเนรมิต หรือ เนส อายุ 28 ปี พนักงานส่งสินค้าที่อยู่ในคลิปได้มีการชี้จุดร่องรอยจุดที่เกิดเหตุอยู่ริมถนน และได้โชว์บาดแผลร่องรอยที่ได้รับบาดเจ็บบริเวณแผ่นหลังมีรอยเขียวช้ำและถลอกที่ลำคอมีรอยเล็บและรอยมือจากการถูกบีบคอที่อยู่ในคลิป

จากการสอบถาม นายเนส เผยว่า วันที่เกิดเหตุตนกำลังคัดแยกสินค้าอยู่ในโกดัง จากนั้นลูกค้าได้เดินทางมารับสินค้าพร้อมกับญาติจำนวนหลายคน พอมาถึงก็มีการด่าทอและตะคอกเสียงดัง ทีแรกก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรจนตัวลูกค้าที่มีเรื่องกันได้ด่าคำหยาบตนหลายรอบ และทางภรรยาของลูกค้าก็ได้ยุยงให้ทางสามีท้าดวลตัวต่อตัว ตนจึงบันดาลโทสะเนื่องจากถูกด่าหลายครั้งและถูกท้าทายมาตลอด ด้วยความโมโหจึงได้บอกไปว่าถ้าดวลกันแล้วห้ามแจ้งความให้จบทีเดียว ทางลูกค้าที่มาหาเรื่องก็บอกว่าโอเค

จากนั้นก็เป็นไปตามคลิปมีการชกต่อยกัน ผลัดกันล้มจนได้รับบาดแผลจากการถลอกทั้งคู่ และวันต่อมาก็มีเรื่องราวเป็นคลิปโผล่ในโซเชียล เหมือนกับตอนถูกมายั่วยุให้โมโหมีเรื่องกันแล้วถูกนำเอาคลิปไปปล่อย จนตนเองก็ได้รับความเสียหายทั้งหน้าที่การงาน

ทั้งนี้ อยากฝากขอโทษสังคม และลูกค้าที่ใช้บริการที่ภาพออกมาอาจจะรุนแรงแต่อยากให้เข้าใจว่าตนถูกหาเรื่องก่อนและมาหาเรื่องถึงที่ทำงาน ถ้ามาเอาสินค้าดีๆ คงไม่มีเรื่องแต่นี่มาถึงมาท้าและด่าคำหยาบ ซึ่งตนก็ทำงานอยู่ด้วยความโมโหจึงพลั้งตัวลงมือชกต่อยกับลูกค้าไป พร้อมขอโทษสถานที่ทำงานและเพื่อนร่วมงานที่ถูกมองไปในมุมไม่ดี

จากการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมพบว่า นายเนรมิต หรือ เนส มีดีกรีเป็นถึงแชมป์มวยไทย และมีการชกมวยมาแล้วหลายเวทีทางช่องดังหลายรายการ ทั้งถ่ายรายการสด และออกรายการ ซึ่งประวัติการชกมวยของนายเนส ได้เริ่มชกตั้งแต่อายุ 9 ขวบจนถึงเรียนจบชั้น ปวส.

อย่างไรก็ตาม จากการเช็คข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทราบว่าวันนี้ทางพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรบ้านบึง จะมีการนัดตัวคู่กรณีทั้งสองฝ่ายมาสอบสวนเพิ่มเติมถึงสาเหตุที่เกิดขึ้น เพื่อจะได้เจรจาไกล่เกลี่ยหาข้อยุติของทั้งสองฝ่ายเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.