“ป้าติ๋ม” ลุ้นจะได้รับมรดกมูลค่า 100 ล้าน หรือไม่ หลังตำรวจชุดสอบสวน ภ.จว.สุราษฎร์ธานี เข้าแจ้งความเอาผิด 2 บริษัท รวมทั้งแหม่มฝรั่งเศส ที่เสียชีวิต และ 2 คนไทย ฐานเป็นนอมินี ขณะที่เพื่อนสนิท เผย “ป้าติ๋ม” เคยคุยให้ฟัง ได้นู้นได้นี้ ได้บ้าน ได้รถ ที่ดิน และเงินสดนิดหน่อย ทุกวันนี้ยังใช้ชีวิตตามปกติทุกอย่าง ไม่มีใครรู้ว่ามีตังค์
จากกรณีเมื่อวันที่ 29 เมษายน 2567 เวลาประมาณ 08.40 น. นางแคทเทอรีน โจแอล โรแล็นด์ เจอร์เมน เดลาโคท อายุ 59 ปี สัญชาติฝรั่งเศส ได้ใช้อาวุธปืนปลิดชีพตัวเองภายในบ้านพักของตัวเอง และได้ทำพินัยกรรมยกมรดก รวมมูลค่าประมาณ 100 ล้านบาทให้กับนางณัฐวลัย ภูพองตา หรือ ป้าติ๋ม ชาว อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร แม่บ้านคนสนิทของผู้ตาย ที่รู้จักกับนางแคทเทอรีน มากว่า 17 ปี ตั้งแต่เริ่มธุรกิจจากห้องพักให้เช่า มาสร้างรีสอร์ต สร้างวิลล่า ธุรกิจเริ่มขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนเสียชีวิต ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2567 มีรายงานว่าทางเจ้าหน้าที่ชุดสอบสวน ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ร่วมกับ อ.เกาะสมุย เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษ ดำเนินคดี จำนวน 2 คดี หลังได้ดำเนินการสอบสวนเกี่ยวกับการทำธุรกิจของนางแคทเทอรีน โจแอล โรแล็นด์ เจอร์เมน เดลาโคท ผู้ตาย ซึ่งกระทำผิดกฎหมายร่วมกับ 2 นอมินีคนไทยจัดตั้งบริษัท จำนวน 2 บริษัท คือ บริษัท จี.วี.เอ็น.อี.จำกัด และ บริษัท แม็กซิเคท จำกัด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินคดี กับ
คดีที่ 1.บริษัท จี.วี.เอ็น.อี.จำกัด ในฐานะนิติบุคคล ,นางแคทเทอรีน โจแอล โรแล็นด์ เจอร์เมน เดลาโคท (Mrs. Catherine, Joelle, Rolande, Germaine, Delacote) อายุ 59 ปี สัญชาติฝรั่งเศส (เสียชีวิต) ,นายทองใส คติสุข อายุ 50 ปี ที่อยู่ 28/4 หมู่ 3 ตำบลหน้าเมือง อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี และ นางรัชประภา โซเรดะ อายุ 36 ปี ที่อยู่ 49 หมู่ 5 ตำบลท่าเสม็ด อำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช
ผู้ต้องหาที่ 1 และ ที่ 2 กระทำผิด ข้อหา “ร่วมกันแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ, เป็นบุคคลต่างด้าวประกอบธุรกิจที่ไม่อนุญาตให้คนต่างด้าวประกอบกิจการด้วยเหตุผลพิเศษตามที่กำหนดไว้ในบัญชีหนึ่ง (การค้าที่ดิน ตามบัญชีหนึ่ง(9)), เป็นคนต่างด้าวได้ที่ดินมาโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย และเป็นบุคคลต่างด้าวยินยอมให้ผู้มีสัญชาติไทยหรือนิติบุคคลที่มิใช่คนต่างด้าวตามพระราชบัญญัตินี้ถือหุ้นแทนคนต่างด้าวในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทจำกัด หรือนิติบุคคลใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวประกอบธุรกิจโดยหลีกเลี่ยงหรือฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัตินี้”
ผู้ต้องหาที่ 3 ที่ 4 กระทำผิด ข้อหา “ร่วมกันแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ, ร่วมกันสนับสนุนช่วยเหลือให้คนต่างด้าวได้ที่ดินมาโดยผิดชอบด้วยกฎหมาย, เป็นผู้มีสัญชาติไทยหรือนิติบุคคลที่มิใช่คนต่างด้าวตามพระราชบัญญัตินี้ ให้ความช่วยเหลือหรือสนับสนุนหรือร่วมประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว อันเป็นธุรกิจที่กำหนดไว้ในบัญชีท้ายพระราชบัญญัตินี้ (การค้าที่ดิน ตามบัญชีหนึ่ง(9)) โดยคนต่างด้าวนั้นมิได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจดังกล่าว หรือร่วมประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวโดยแสดงออกว่าเป็นธุรกิจของตนแต่ผู้เดียวหรือถือหุ้นแทนคนต่างด้าวในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทจำกัด หรือนิติบุคคลใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวประกอบธุรกิจโดยหลีกเลี่ยงหรือฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัตินี้ รวมทั้งคนต่างด้าวซึ่งยินยอมให้ผู้มีสัญชาติไทยหรือนิติบุคคลที่มิใช่คนต่างด้าวตามพระราชบัญญัตินี้กระทำการดังกล่าว”
และคดีที่ 2.บริษัท แม็กซิเคท จำกัด ในฐานะนิติบุคคล ,นางแคทเทอรีน โจแอล โรแล็นด์ เจอร์เมน เดลาโคท (Mrs. Catherine, Joelle, Rolande, Germaine, Delacote) อายุ 59 ปี สัญชาติฝรั่งเศส (เสียชีวิต) ,นายทองใส คติสุข อายุ 50 ปี ที่อยู่ 28/4 หมู่ 3 ตำบลหน้าเมือง อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ,นางรัชประภา โซเรดะ อายุ 36 ปี ที่อยู่ 49 หมู่ 5 ตำบลท่าเสม็ด อำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช
ผู้ต้องหาที่ 1 และ ที่ 2 กระทำผิด ข้อหา “ร่วมกันแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ, เป็นคนต่างด้าวได้ที่ดินมาโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย”
ผู้ต้องหาที่ 3 ที่ 4 กระทำผิด ข้อหา “ร่วมกันแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ, ร่วมกันสนับสนุนช่วยเหลือให้คนต่างด้าวได้ที่ดินมาโดยผิดชอบด้วยกฎหมาย”
ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2550 นางแคทเทอรีน โจรี่ โรแลนด์ เจอร์แมน เดลาโคท ผู้ตาย ได้เข้ามาอยู่ที่ประเทศไทย โดยเช่าบ้านพักอยู่บนเกาะสมุย ต่อมาประมาณเดือนมีนาคม 2555 ผู้ตายได้ให้สำนักงานทนายความช่วยเหลือจดจัดตั้ง บริษัท จี.วี.เอ็น.อี. จำกัด ทำธุรกิจก่อสร้างบ้านขาย โดยใช้คนไทยเป็นนอมินีถือหุ้นแทนในบริษัท และได้ไปซื้อที่ดินโฉนดเลขที่ 3961 ต่อมาวันที่ 5 มีนาคม 2557 ได้แบ่งแยกโฉนดที่ดิน นำไปก่อสร้างอาคารจำนวน 5 หลัง ชื่อโครงการ “มะพร้าววิลล่า” จำหน่ายไป 3 หลัง เหลืออยู่ 2 หลัง ต่อมาวันที่ 29 เมษายน 2567 เวลาประมาณ 08.40 น. ผู้ตายได้ยิงตัวตายในบ้านพัก และทำพินัยกรรมยกทรัพย์สินให้ป้าติ๋ม แม่บ้าน
ส่วนบริษัท แม็กซิเคท จำกัด เดิมเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดิน 1 แปลง เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2559 นางแคทเทอรีน โจรี่ โรแลนด์ เจอร์แมน เดลาโคท ผู้ตาย ได้เข้าไปซื้อหุ้นในบริษัท แม็กซิเคท จำกัด ทั้งหมด โดยใช้ชื่อคนไทยช่วยเหลือถือหุ้นแทน เพื่อเป็นเจ้าของที่ดิน จากนั้นได้นำที่ดินมาก่อสร้างอาคารสามชั้น ไว้เป็นที่พักอาศัย และใช้อาวุธปืนยิงตัวตายในบ้านพักดังกล่าว
ในส่วนของนางณัฐวลัย ภูพองตา หรือป้าติ๋ม ชาวอ.วานรนิวาส จ.สกลนคร ที่ผู้ตายระบุว่าให้เป็นคนรับมรดกนั้น ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าว แต่ส่วนของมรดกที่ผู้เสียชีวิตทำพินัยกรรมมอบให้กับป้าติ๋ม จะได้ตามพินัยกรรมหรือไม่ ก็ต้องมีการดำเนินการต่อไป
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่วิลล่าหรู ที่เป็นบ้านที่เกิดขึ้น ที่ผู้ตายเขียนพินัยกรรมว่าให้กับป้าติ๋ม พบว่าบ้านหลังดังกล่าวได้มีช่างกำลังซ่อมแซมบ้าน ที่ก่อนหน้านี้โดนต้นไม้หักโค่นใส่ และพบป้าติ๋มอยู่บนวิลล่าหลังดังกล่าว แต่ปฏิเสธที่จะพูดคุยและให้สัมภาษณ์กับสื่อถึงเรื่องราวดังกล่าว
ขณะที่ผู้สื่อข่าวได้มีโอกาสสอบถามนางสาวอุสา เพื่อนสนิทของป้าติ๋ม ที่ป้าติ๋มแวะเวียนไปหาทุกวัน โดยนางสาวอุสาบอกว่า ป้าติ๋มเล่าให้ฟังว่าตอนนี้ไม่ได้ทำงานที่วิลล่าแล้ว แต่ไปทำงานความสะอาดที่อื่นแทน ส่วนทรัพย์สินที่เจ้านายผู้เสียชีวิตเขียนในพินัยกรรม ป้าติ๋มบอกว่า ตอนนี้ได้วิลล่า ได้รถ ที่ดิน และเงินสดบางส่วนแล้ว
“ป้าติ๋มยังใช้ชีวิตเหมือนปกติทุกอย่าง จะไม่มีใครรู้ว่าแกมีตังค์ แกอยู่แบบนี้ เห็นแกอยู่ตามปกตินะ”
อย่างไรก็ตามแต่นี้ก็เป็นแค่เพียงคำบอกเล่าที่ป้าติ๋มเล่าให้เพื่อนสนิทฟัง แต่ยังไม่มีคำเปิดเผยที่แน่ชัดจากปากป้าติ๋ม ว่าเป็นจริงอย่างที่เล่าให้เพื่อนฟังหรือไม่ แต่ก็พบว่าป้าติ๋มยังเข้าไปดูแลซ่อมแซมวิลล่าดังกล่าวอยู่จนถึงวันนี้.
แหล่งข่าว: ไทยรัฐ