บุรีรัมย์ อำเภอหนองหงส์ ปิดหมู่บ้านตรวจฉี่กลุ่มเป้าหมาย พบตัวตึงกว่า 100 คนหายออกจากหมู่บ้าน คาดข่าวรั่ว มีการแอบกระซิบกันก่อน จนท.ไปถึง มูลนิธิฯยังเดินหน้าเอาจริงปรามและปราบยาเสพติดในชุมชน ระบุช่วยคนพ้นออกจากยาเสพติดได้ 1 คนถือเป็นการทำบุญที่ยิ่งใหญ่
เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2567 ที่ จ.บุรีรัมย์ มูลนิธิอาณัตพณ ซารัมย์ (ลูกเติ้ง) ร่วมกับส่วนราชการในอำเภอหนองหงส์ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) ผู้นำชุมชน ผู้นำหมู่บ้าน เดินหน้าโครงการ “รักศรัทธาโคกหนองนาต้านยาเสพติด” ในเขตพื้นที่อำเภอหนองหงส์
การดำเนินการโครงการดังกล่าวจะใช้วิธีเลือกหมู่บ้านเป้าหมายแล้วปิดทางเข้าออกเอาเจ้าหน้าที่หลายภาคส่วนเข้าไปเคาะประตูบ้านตอนเช้ามืด เพื่อตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด
โดยวันนี้ได้เข้าตรวจหมู่บ้านกลุ่มเป้าหมายในตำบลไทยสามัคคี ตรวจผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 13-60 ปี ทั้งหมดใน 3 หมู่บ้าน จำนวน 136 ราย ตรวจผลสารเสพติดพบมีปัสสาวะเป็นสีม่วง จำนวน 9 ราย
ปรากฏว่าผิดความคาดหมาย จำนวน 9 รายที่พบ ไม่ได้มีรายชื่อในกลุ่มเป้าหมายที่เจ้าหน้าที่เก็บข้อมูลไว้กว่า 100 คน เบื้องต้นคาดว่าน่าจะเกิดจากข่าวรั่ว แต่ยังไม่ฟันธงว่าผู้นำเป็นคนแจ้งลูกบ้านก่อนเพราะกลัวจะเสียคะแนนหรือไม่ หรืออาจจะเกิดจากการโพสต์ก่อนที่จะเข้าปฏิบัติหน้าที่ ทำให้กลุ่มนี้ไหวตัวทันแล้วหนีออกจากหมู่บ้านไปก่อนหน้านั้น
นายโสภณ ซารัมย์ สส.พรรคภูมิใจไทย และประธานที่ปรึกษามูลนิธิอาณัตพล ซารัมย์(ลูกเติ้ง)กล่าวว่า โครงการต้านยาเสพติดดังกล่าว มูลนิธิฯเป็นต้นคิด เพื่อต้องการดึงลูกหลานให้พ้นออกจากขุมนรก ที่นับวันจะรุนแรงขึ้น
ในเขตพื้นที่ที่ตนรับผิดชอบคือ 6 อำเภอ มีอำเภอหนองหงส์ ลำปลายมาศ คูเมือง พุทไธสง นาโพธิ์ และอำเภอบ้านใหม่ไชยพจน์ แต่ละพื้นที่จะมีแนวทางแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับพื้นเพแต่ละแห่ง จุดอำเภอหนองหงส์ เป็นจุดฝึกอาชีพ คือโคกหนองนาโมเดล ผู้ที่เข้ามาฟื้นฟูที่นี่จะได้เรียนรู้การเกษตรไปด้วย
นายโสภณ กล่าวด้วยว่า ปัญหาส่วนใหญ่ของปัญหายาเสพติด คือผู้ปกครองปกปิดความผิดของลูก ไม่อยากให้ลูกได้รับโทษ เกรงว่าจะเสียประวัติ แล้วหันไปโทษการทำงานของเจ้าหน้าที่
จริงแล้วถ้าพูดถึงนโยบายของรัฐบาลแล้ว อยากจะฝากถึงรัฐบาลต้องเน้นการป้องกันควบคู่ไปกับการปราบปราม เพราะมีประชาชนเรียกร้องมามากว่า ทำไมจับแล้วถึงต้องปล่อย
ยอมรับว่ามีคนมาท้วงติงหลายคนว่าการทำเรื่องยาเสพติดเป็นเรื่องยาก ส่วนตนคิดว่าที่ผ่านมากว่า 1 ปี ที่มีโครงการนี้ผลลัพธ์ออกมาเกินความคาดหมาย จากมาตรการที่ทำลงไป คือหลังจากฟื้นฟูเสร็จ ฝึกอาชีพ แล้วติดตามตรวจทุกสัปดาห์ พบว่ากว่า 60 เปอร์เซ็นต์ของผู้เคยเสพไม่กลับไปเสพอีก
นายโสภณ กล่าวย้ำด้วยว่า หลักของศาสนาพุทธ บุญสูงสุด คือการได้ช่วยคนให้พ้นทุกข์ การให้ทานชีวิตมนุษย์ได้บุญสูงสุดมากกว่าการให้ทานอย่างอื่น การให้ทานชีวิตคนเสพยาก็เหมือนสัตว์ เพราะคนเสพยาแล้วคลั่งสามารถฆ่าพ่อแม่ได้ การที่ให้เขากลับมาเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ได้ถือว่ามีอานิสงส์มากที่สุด ดังนั้นรัฐบาลต้องเอาจริง มิเช่นนั้นประชาชนถอยแล้วต่างฝ่ายต่างจะอยู่ยากในที่สุด
แหล่งข่าว: ไทยรัฐ