โจ๋กะเหรี่ยงทหารกองทัพกอทูเล ควักระเบิดน้อยหน่าปาถล่มหน้าเวทีรำวงย้อนยุค งานกาชาด แผ่นดินดอยลอยฟ้า อ.อุ้มผาง จ.ตาก ชาวบ้านผู้บริสุทธิ์สังเวย 3 ศพ เจ็บระนาว 56 ราย ยังสาหัสต้องผ่าตัดยื้อชีวิตอีก 6 คน เจ้าตัว อ้างฝังใจเจ็บ โดนโจ๋ไทยรุมทำร้ายงานลอยกระทงปีก่อน พอเจอหน้าเลยสางแค้น “นายกฯอิ๊งค์” โพสต์เฟซบุ๊กเสียใจกับครอบครัวเหยื่อ สั่งตรวจสอบสาเหตุทุกมิติ “ภูมิธรรม” ยันเป็นแค่เหตุวัยรุ่นทะเลาะวิวาทกันไม่ใช่การสร้างสถานการณ์
ผู้สื่อข่าวรายงานเหตุระทึกขวัญว่า เมื่อเวลา 23.30 น. วันที่ 13 ธ.ค. ขณะที่ประชาชนและนักท่องเที่ยว จำนวนมาก เดินเที่ยวชม “งานแผ่นดินดอยลอยฟ้าและกาชาดอำเภออุ้มผาง” ประจำปี 2567 จัดขึ้นระหว่าง วันที่ 8 -14 ธ.ค. บริเวณลานสนามบินเก่า อ.อุ้มผาง จ.ตาก จู่ๆมีเสียงบึมดังสนั่นหน้าเวทีรำวงย้อนยุค ระหว่างนั้นมีชาวบ้านจำนวนมากกำลังเต้นรำสนุกสนาน ท่ามกลางเสียงดนตรีคึกคัก ทันทีที่เสียงระเบิดดังขึ้น ทุกคนต่างวิ่งหนีตายอลหม่าน หลังความวุ่นวายสงบลง มีชาวบ้านได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก นอนร้องขอความ ช่วยเหลือดังระงม
หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.ศุภกร พิพัฒน์พิมพา ผกก.สภ.อุ้มผาง นำกำลังตำรวจ สภ.อุ้มผาง ร่วมกับ ฝ่ายทหาร ตชด. ฝ่ายปกครอง อส. หน่วยกู้ชีพกู้ภัย อุ้มผาง และหน่วยกู้ชีพใกล้เคียง ที่มาดูแลรักษาความ สงบเรียบร้อยภายในงาน รีบระบายประชาชนออกจาก พื้นที่ทันที จากนั้นชุดสืบสวน สภ.อุ้มผาง เข้าเคลียร์ พื้นที่พบหลุมระเบิดบนพื้นดิน 1 หลุม รอบเวทีมีข้าวของกระจัดกระจาย กระป๋องเบียร์ ขวดเหล้า ทิ้งเกลื่อน เก้าอี้ผู้นั่งชมรำวงล้มระเนนระนาด
เบื้องต้นมีผู้ได้รับบาดเจ็บถูกสะเก็ดระเบิดเข้าตามลำตัวอาการสาหัส นอนเลือดท่วมร่างอยู่ 4 ราย และมีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 2 ศพ มีผู้ได้รับ บาดเจ็บทั้งจากถูกสะเก็ดระเบิด และถูกเหยียบในช่วง ชุลมุนอีกหลายสิบคน บางรายต้องทำ CPR และบางรายมีบาดแผลฉกรรจ์ เจ้าหน้าที่ใช้เวลากว่า 20 นาที นำตัวผู้บาดเจ็บทั้งหมดส่งห้องฉุกเฉิน รพ.อุ้มผาง พร้อมระดมทีมแพทย์และพยาบาล มาช่วยเหลือ ผู้บาดเจ็บอย่างโกลาหล
สอบสวนทราบว่า คืนเกิดเหตุเป็นคืนก่อนวันสุดท้ายของการจัดงาน มีประชาชนมาท่องเที่ยวตามโซนต่างๆในงานด้วยความเรียบร้อย ไม่มีเหตุทะเลาะวิวาทใดๆ แต่เหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้น เมื่อชาวบ้านกำลังสนุกสนานอยู่หน้าเวทีรำวงย้อนยุค จุดไฮไลต์งานคืนนี้ จู่ๆมีคนร้ายขว้างปาวัตถุระเบิดไม่ทราบชนิด ไปตกลงหน้าเวทีรำวงย้อนยุคจนเกิดระเบิดเสียงดังสนั่น ชาวบ้านถูกแรงอัดระเบิดกระเด็นกระดอนลงกองกับพื้น ผู้รอดชีวิตต่างวิ่งหนีตายออกจากจุดเกิดเหตุ ทำให้บางส่วนล้มลุกคลุกคลานและถูกเหยียบซ้ำได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก
เวลา 10.00 น. วันที่ 14 ธ.ค. พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ เอมกมล ผบก.ภ.จ.ตาก นำเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จ.ตาก ลงพื้นที่ตรวจจุดเกิดเหตุเพื่อเก็บวัตถุพยานหลักฐานในคดีอย่างละเอียด จุดเกิดเหตุเป็นด้านหน้า เวทีรำวงย้อนยุค พบหลุมระเบิดขนาดใหญ่ 1 หลุม มีเศษสะเก็ดระเบิดบางส่วน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้เก็บรวบรวมหลักฐาน จากนั้น ผบก.ภ.จ.ตาก เดินทาง ไปที่ สภ.อุ้มผาง เพื่อร่วมประชุมวางแผนคลี่คลายคดี
นายมาโนช โพธิ์เนียม นอภ.อุ้มผาง จ.ตาก กล่าวว่า งานดังกล่าวจัดมาทุกปี และทุกคืนจะมีเจ้าหน้าที่ อส. 60 นาย ตชด. 20 นาย ดูแลรักษาความ ปลอดภัย ตลอด 6 คืนที่ผ่านมาไม่มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้น แต่เมื่อคืนเป็นวันที่จัดเวทีรำวงย้อนยุค มีชาวบ้านร่วมงานจำนวนมาก มีชายคนร้ายลอบปาระเบิดไปตกหน้าเวที หลังเกิดเหตุมีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ดูแลรับผิดชอบชายแดน อ.อุ้มผาง ส่งกำลังคุมเข้มชายแดนไทยที่มีแนวเขตติดกับเมียนมา และมีกองกำลังติดอาวุธชนกลุ่มน้อยทันที เนื่องจากพยานระบุว่าผู้ก่อเหตุเป็นคนของกลุ่มติดอาวุธชนกลุ่มน้อย การปิดชายแดนครั้งนี้ใช้เวลาไม่นาน เพราะกระทบการค้าชายแดนและการสัญจรไปมาของคนทั้งสองฝั่ง ส่วนเวทีรำวงย้อนยุคที่เป็นจุดเสี่ยงการรวมตัวของวัยรุ่น การจัดงานในปีหน้าคงต้องงดไปเลย
ต่อมาชุดสืบสวน สภ.อุ้มผาง คุมตัวชายวัยรุ่น 2 คน คนหนึ่งเป็นชาวกะเหรี่ยงบ้านนุกะโถวา ฝั่งเมียนมา ตรงข้าม ต.แม่จัน อ.อุ้มผาง จ.ตาก อีก 1 คน เป็นชาวไทยเชื้อสายกะเหรี่ยง ทั้ง 2 คน เป็นเพื่อนสนิทกัน ทราบชื่อ นายดิดิ อายุ 16 ปี สัญชาติเมียนมา เชื้อสายกะเหรี่ยง สังกัดกองทัพกอทูเล รับสารภาพเป็นคน ขว้างระเบิด และนายจอลิทู (สงวนนามสกุล) อายุ 17 ปี สัญชาติไทย เชื้อสายกะเหรี่ยง เป็นเพื่อนกับนายดิดิ และอยู่ในที่เกิดเหตุด้วยกัน
สอบสวนนายดิดิให้การอ้างว่า แรงจูงใจในการ ก่อเหตุมาจากมีความโกรธแค้นที่เคยถูกวัยรุ่นไทยรุมทำร้ายร่างกายในงานลอยกระทงเมื่อปี 2566 จนได้รับบาดเจ็บ คืนเกิดเหตุได้มาเที่ยวงานกาชาดแผ่นดินลอยฟ้า และพบคู่กรณีหน้าเวทีรำวงย้อนยุค ตัดสินใจล้างแค้น ควักระเบิดขว้างสังหารบุคคล MK 2 หรือระเบิดน้อยหน่ายึดมาจากทหารเมียนมา “ค่ายซูกาลี” ที่ถูกทหารกะเหรี่ยงตีแตกปาใส่กลุ่มคู่กรณีจนมีผู้บริสุทธิ์เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก
สำหรับรายชื่อผู้เสียชีวิต 3 ศพ มีนางศศิธร ธนะการ อายุ 57 ปี ชาว อ.อุ้มผาง และ ด.ช.เพียวเพียว อายุ 14 ปี สัญชาติเมียนมา เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ และนายยอดรัก เฉลิมเจริญกุล อายุ 23 ปี ชาว อ.อุ้มผาง เสียชีวิตที่ รพ.อุ้มผาง ส่วนผู้บาดเจ็บสาหัสมี 6 ราย รวมผู้บาดเจ็บทั้งหมด 56 ราย ส่วนใหญ่เกิดจากการ ถูกสะเก็ดระเบิด ทั้งนี้ รพ.อุ้มผาง เป็นหน่วยปฏิบัติกำลังหลัก รพ.พบพระ กับ รพ.แม่สอด เป็นหน่วยส่งต่อ และสนับสนุนการปฏิบัติการ ขณะนี้ส่งต่อผู้ป่วยเข้ารับการผ่าตัดด่วนที่ รพ.แม่สอด 10 ราย แอดมิตที่ รพ.อุ้มผาง 10 ราย และกลับบ้านได้แล้ว 33 ราย
วันเดียวกัน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายก รัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กถึงเหตุระเบิดในงานกาชาด อ.อุ้มผาง จ.ตาก ว่า ขอแสดงความเสียใจ อย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ เบื้องต้นสั่งการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) และหน่วยงานความมั่นคง เร่งเข้าดูแลผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ขอให้ตรวจสอบสาเหตุการระเบิดทุกมิติ เร่งหาตัวคนร้ายและนำเข้าสู่กระบวนการโดยเร็วที่สุด และกำชับ ให้เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลการจัดงานเทศกาลที่จะเกิดขึ้นในช่วงเวลานี้ทุกจุด เพื่อความปลอดภัยและมั่นใจของพี่น้องประชาชน
ที่โรงแรมอินเตอร์คอนติเนตัล หัวหิน จ.ประจวบ คีรีขันธ์ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุระเบิดในงานกาชาด อ.อุ้มผาง จ.ตาก ว่า ขณะนี้จับผู้ต้องสงสัยในกลุ่มที่ ชุลมุนได้จำนวนหนึ่ง ต้องรอให้หน่วยกู้ระเบิดเข้าไปตรวจสอบว่าเป็นระเบิดชนิดใด เมื่อถามว่า ไม่ใช่การ สร้างสถานการณ์ใช่หรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ไม่ ตรงนั้นมันเป็นด่านที่ไม่เคยมีความรุนแรงอะไร เป็นเส้นทางการขนส่งสินค้าจากไทยเข้าไปเมียวดี ประเทศเมียนมา ทั้งฝ่ายเมียนมาและฝ่ายต่อต้านต้องการให้ สินค้าเข้าไปในพื้นที่ ไม่มีปัญหาเรื่องนี้ ไม่ใช่เขตสงคราม เรื่องนี้เป็นเหตุวัยรุ่นทะเลาะวิวาทกันเท่านั้น
แหล่งข่าว: ไทยรัฐ