“บิ๊กเต่า” เรียก “เอกสายไหม” ให้ถ้อยคำบ่ายสามวันนี้ ปมพยานเท็จดิไอคอน จ่อออกหมายเรียก “ฟิล์ม” แจ้งข้อกล่าวหา พร้อมพบเส้นเงินใหม่ของแม่ ส.เสือ กว่า 100 ล้าน

เมื่อเวลา 10.45 น. วันที่ 22 พ.ย. 2567 กองบังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. ร่วมประชุมติดตามความคืบหน้ากรณีตรวจสอบคลิปเสียงกรรโชกทรัพย์ผู้ต้องหาเครือข่ายดิไอคอน โดยใช้เวลานานร่วม 1 ชั่วโมง จึงแล้วเสร็จ

ต่อมาเวลา 11.30 น. วันเดียวกัน ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ผลการประชุมในการตามคดีต่างๆ เบื้องต้นมีความคืบหน้าไปมาก คาดว่าภายในสัปดาห์หน้าน่าจะมีความชัดเจนในหลายเรื่องที่ทำ ในส่วนของคดีนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของพนักงานสอบสวน

แต่ในวันนี้ (22 พ.ย.) ช่วงเวลา 15.00 น. ทางชุดสืบสวนก็มีการนัดนายเอกภพมาให้ถ้อยคำ แต่ไม่ใช่พนักงานสอบสวนเป็นชุดสืบสวนเป็นคนสอบ เนื่องจากชุดสืบสวนยังต้องแสวงหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติมอยู่ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่พยายามที่จะเรียกนายเอกภพมาตั้งแต่วันจันทร์อังคารที่ผ่านมา แต่ด้านนายเอกภพอ้างว่าติดธุระเดี๋ยวจะมาพร้อมทนาย ซึ่งกรณีนายเอกภพก็จะเข้าข่ายความผิดเรื่อง พ.ร.บ.คอม

สำหรับพยานเท็จก็มีการเรียกมาสอบแล้ว แต่ทางบริษัท ดิไอคอนไม่ติดใจดำเนินคดี จึงเหลือเพียงแค่นายเอกภพเพียงคนเดียว ทั้งนี้ทางดิไอคอนก็ได้ยืนยันแล้วว่าพยานดังกล่าวไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกับดิไอคอน

ในส่วนกรณีของ นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือ ฟิล์ม และ น.ส.กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ หรือเจ๊พัช ที่มีการเรียกรับเงินจากบอสดิไอคอน 20 ล้านบาท โดยแอบอ้างชื่อนายภูดิท กำเนิดพลอย หรือหนุ่มกรรชัย เมื่อวานนี้ (21 พ.ย.) ทางบก.ป. ได้ประชุมถึงเรื่องนี้ และมีความเห็นว่าจะรวมเป็นคดีเดียวทั้งหมด ทั้งคดีที่หนุ่มกรรชัยมาร้องทุกข์ในข้อหาหมิ่นประมาท และบอสดิไอคอนมาร้องทุกข์ในข้อหาพยายามฉ้อโกง และพยายามกรรโชกทรัพย์

แต่จะเข้าข้อหาใดบ้าง ขอให้ทางพนักงานสอบสวนเข้าไปสอบปากคำ น.ส.ปัญจรัศม์ กนกรักษ์ธนพร หรือ บอสปัน ก่อน และค่อยพิจารณากันอีกครั้งว่าจะเข้าข้อหาใด ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้มีการเรียกผู้ใดมาให้ปากคำ ขอรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดก่อน เบื้องต้นคดีดังกล่าวจะอยู่ในการพิจารณาของศาลแขวง โดยความผิดจะได้รับโทษ 2 ใน 3 จึงจะสามารถออกหมายเรียกได้เท่านั้น

ส่วนกรณี นาย ส.เสือ จากการตรวจสอบเส้นเงินบัญชีแม่ของนาย ส.เสือ ครั้งแรกเจอทั้งหมด 600,000 บาท ตรวจสอบครั้งต่อมาเจอ 2 ล้านบาท แต่ล่าสุดพบว่ามีเงินเข้าและออกในบัญชีกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินที่เกี่ยวข้องกับคดีดิไอคอนจำนวน 3 ล้านบาท แต่ 100 กว่าล้านบาทจะต้องมาขยายผลว่ามาจากที่ใดและใครบ้าง ตนเชื่อว่าบัญชีนี้ นาย ส.เสือ ถือไว้ใช้เอง ทั้งนี้จะมีการเรียกแม่นาย ส.เสือ มาให้ปากคำ แต่ตัวนาย ส.เสือยังไม่เรียก อย่างไรก็ตามจะต้องรวบรวมข้อมูลพยานหลักฐานให้แล้วเสร็จก่อน.