“บิ๊กเต่า” นำกำลังลงพื้นที่ “ไร่ภูนับดาว” จ.สระบุรี เตรียมบังคับใช้กฎหมายกับผู้บุกรุก ยันเรื่องนี้ไม่เกี่ยว “การเมือง” แต่ต้องการจัดสรรพื้นที่ให้เกษตรกรตัวจริง

เวลา 15.00 น. วันที่ 12 ธ.ค. 67 พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วย นายปรีชา ลิ้มถวิล รองเลขาธิการ ส.ป.ก. นายกฤศกร สนิทภักดี ผอ.ป.ป.ท.ภาค 1 ว่าที่ ร.ต. คทาวุธ คลังนุช ผอ.ป.ป.ช.จ.สระบุรี พร้อมกำลัง ลงพื้นที่ไร่ภูนับดาว ต.หนองย่างเสือ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี เพื่อตรวจสอบ กรณีที่ถูกกล่าวหาว่าบุกรุกป่าไม้ ใช้พื้นที่ ส.ป.ก.ผิดวัตถุประสงค์ ตามที่เป็นข่าว และลุกลามกลายเป็นประเด็นการเมืองอยู่ในขณะนี้

เมื่อไปถึงพบว่า ไม่สามารถเข้าไปในรั้วบริเวณ “ไร่ภูนับดาว” ได้ โดยบริเวณทางเข้าถูกปิดไว้ พร้อมติดป้ายสีแดงขนาดใหญ่ เขียนข้อความ “ศูนย์การเรียนรู้ ไร่ภูนับดาว ขอเปิดให้บริการเฉพาะ หมู่คณะ/องค์กร/สถาบันเกษตร/สถาบันการศึกษา ที่ติดต่อเป็นลายลักษณ์อักษร ล่วงหน้าอย่างน้อย 2 วัน ตั้งแต่วันที่ 11 ธ.ค.2567 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง” พล.ต.ต.จรูญเกียรติ จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ ส.ป.ก. พื้นที่ ช่วยประสานผู้ดูแลเพื่อขอเข้าไปภายในไร่ภูนับดาว แต่ไม่สามารถประสานได้

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ จึงเรียก นางเบญจมาศ (สงวนนามสกุล) อายุ 54 ปี พยานปากสำคัญ มาให้รายละเอียดความเป็นมาของพื้นที่ไร่ภูนับดาว จากนั้นได้ให้ นางเบญจมาศ นำไปชี้จุดป่าไม้ที่ถูกกลุ่มนายทุนบุกรุก ซึ่งอยู่ติดกับไร่ภูนับดาวอีกกว่า 600 ไร่ โดยพาไปดูต้นประดู่ป่า ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 240 เซนติเมตร ที่กรมป่าไม้ปลูกไว้ตั้งแต่ปี 2521 และมีการจัดสรรแบ่งแยกจำหน่ายเป็นแปลงๆ กว่า 100 แปลง โดยขับรถยนต์ไปตามทางสาธารณะ อ้อมภูนับดาวไปเล็กน้อย พบร่องรอยการแผ้วถางป่าโดยใช้เครื่องกลหนักร่องรอยใหม่ๆ มีการโค่นต้นไม้ขนาดใหญ่ และเพิ่งวางท่อประปาเข้าไปในพื้นที่ ลดหลั่นกันเป็นชั้นอย่างเห็นได้ชัด

โดย นายกฤศกร สนิทภักดี ผอ.ป.ป.ท. เขต 1 หอบแฟ้มเอกสารและแผนที่จุดพื้นที่บริเวณที่ถูกบุกรุก พร้อมๆกับ นางเบญจมาศ อธิบายเพิ่มเติม ในบริเวณเดียวกันยังพบต้นประดู่ขนาดใหญ่ขนาด 2 คนโอบ ที่ป่าไม้ปลูกไว้ในวันสำคัญ เมื่อปี 2521 ยืนต้นอยู่อีกหลายต้น

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว กล่าวว่า วันนี้เราเป็นเจ้าหน้าที่รัฐที่จะมาใช้บังคับกฎหมายกับผู้ที่บุกรุกพื้นที่ของ ส.ป.ก. การสืบสวน ได้ทำร่วมกับ ป.ป.ท. และ ป.ป.ช. ทำมาระยะหนึ่งแล้ว และจากนี้จะมีการบังคับใช้กฎหมายกับพื้นที่ที่เราตรวจสอบได้ (600 ไร่) กับผู้ที่ไม่มีคุณสมบัติเหล่านี้ และตนขอยืนยันว่า การดำเนินการไม่เกี่ยวกับการเมืองทั้งสิ้น เป็นการดำเนินการเอาคืนพื้นที่จากนายทุนมาคืนให้ ส.ป.ก. จัดสรรพื้นที่ให้เกษตรกรตัวจริง ไม่ใช่ออกไปให้กับนายทุนที่ไม่มีคุณสมบัติ ที่อยู่นอกพื้นที่ ซึ่งล้วนเป็นคนมีเงิน ไม่ใช่เกษตรกรที่ไม่มีที่ทำมาหากิน โดยมีผู้ก่อการ(ตัวกลาง) และนายทุนมากว้านซื้อจากชาวบ้าน แล้วไปแยกจัดสรร และมีข้าราชการฉ้อฉลช่วยเหลือ และจะเข้าข้อหา “ฟอกเงิน” ซึ่งหลังจากนี้จะเร่งดำเนินการสืบสวน สอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานดำเนินการกับกลุ่มนายทุน และข้าราชการ ที่รู้เห็นกับการบุกรุก และออกเอกสารสิทธิ์ไม่ถูกต้อง ซึ่งทราบแล้วว่าเป็นบุคคลกลุ่มเดียวกันกับที่กระทำการในพื้นที่ของไร่ภูนับดาว โดยเรื่องนี้ตนยืนยันอีกครั้งว่า ไม่เกี่ยวการเมือง ตนจะเร่งทำงานโดยจะคุมคดีด้วยตนเอง จากนั้น พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ได้เดินทางกลับ

ขณะที่ นายปรีชา ลิ้มถวิล รองเลขา ส.ป.ก. ซึ่งก่อนหน้านี้ได้หอบหลักฐานของ ส.ป.ก. มาแถลงข่าวกับสื่อมวลชน ระบุว่า พื้นที่บริเวณไร่ภูนับดาว และผืนป่าข้างเคียงราว 6 พันไร่ กรมป่าไม้ได้ยกให้ ส.ป.ก. นำมาจัดสรรให้เกษตรกรทำประโยชน์ ตั้งแต่ ปี 2521 แล้ว

ซึ่งผู้สื่อข่าวแย้งว่า กรมป่าไม้ยืนยันว่า ไร่ภูนับดาว บุกรุกพื้นที่ราว 66 ไร่ และศาลได้ตัดสินว่ามีความผิด มีการดำเนินคดีไปก่อนหน้านี้แล้ว นายปรีชา กล่าวว่า การทำงานต้องประสานงานกัน และต้องตรวจสอบต่อไป

ด้าน นายกฤศกร สนิทภักดี ผู้อำนวยการ ป.ป.ท. เขต 1 ระบุว่า ในเรื่องนี้ ทาง ป.ป.ท. ได้ดำเนินการตามกฎหมายชัดเจน ซึ่งก่อนหน้านี้ผู้กระทำความผิด “ไร่ภูนับดาว” ถูกศาลสั่งลงโทษ 3 คน รอลงอาญา 1 คน ทุกขั้นตอนดำเนินการไปตามขั้นตอนการบังคับใช้กฎหมาย