ฝนกระหน่ำแม่น้ำสายหลัก 3 สายล้นตลิ่ง ทะลักเข้าท่วมทั้งจังหวัดแล้ว ชาวบ้านเดือดร้อนกว่า 4 หมื่นคน โรงเรียนปิดแล้ว 68 แห่ง ถนน 6 สายถูกตัดขาด

วันที่ 28 พฤศจิกายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมจากพื้นที่ จ.นราธิวาส แจ้งว่าล่าสุดบรรยากาศโดยทั่วไปยังคงมีฝนตกลงมาอย่างหนัก แพร่กระจายปกคลุมพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอ ส่งผลทำให้แม่น้ำสายหลัก 3 สาย คือ แม่น้ำบางนรา แม่น้ำสายบุรี และแม่น้ำโก-ลก มีปริมาณล้นตลิ่ง และได้ไหลบ่าเข้าท่วมพื้นที่ทางการเกษตรและบ้านเรือนของประชาชนในพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอ จำนวน 76 ตำบล 511 หมู่บ้าน 38 ชุมชน มีประชาชนได้รับความเดือดร้อน 42,285 ครัวเรือน รวมทั้งสิ้น 154,535 คน

นอกจากนี้ ยังมีโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาทั้ง 3 เขต ได้มีการประกาศปิดการเรียนการสอนเป็นการชั่วคราวแล้วจำนวน 68 โรงเรียน เนื่องจากสถานศึกษาบางแห่งมีน้ำท่วมขังสูง และนักเรียนบางส่วนมีน้ำท่วมขังบ้านพัก รวมทั้งถนนบางสายถูกตัดขาดนักเรียนไม่สามารถเดินทางมาเรียนหนังสือได้

อย่างไรก็ตาม สภาวะน้ำท่วมในครั้งนี้ ยังส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการเดินรถประจำ คือ รถตู้โดยสารประจำทางที่วิ่งรับส่งผู้โดยสารจากพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก จรดปลายทาง 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ประกาศงดให้เดินรถบริการผู้โดยสารเป็นการชั่วคราวตั้งแต่วันนี้ เนื่องจากถนนสายหลักในแต่ละพื้นที่อำเภอใน 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีปริมาณน้ำท่วมขังสูงเป็นจุดๆ

ส่วนเส้นทางแขวงทางหลวงชนบทนราธิวาสในพื้นที่ 3 อำเภอ ของจ.นราธิวาส คือ อ.ระแงะ แว้ง และเมืองนราธิวาส ที่ยานพาหนะทุกชนิดไม่สามารถแล่นผ่านได้ มีด้วยกัน 6 สาย คือ

1. ถนนสายศูนย์ราชการ อ.เมืองนราธิวาส มีน้ำท่วมขังสูง 40 ถึง 50 ซ.ม.

2. ถนนสายบ้านบาโงสะโต อ.ระแงะ มีน้ำท่วมขังสูง 90 ซ.ม.

3. ถนนสายรอยต่อระหว่างบ้านมะนังตายอกับ อ.เมืองนราธิวาส มีน้ำท่วมขังสูง 100 ซ.ม.

4. ถนนสายบ้านป่าไผ่ อ.ระแงะ มีน้ำท่วมขังสูง 100 ซ.ม.

5. ถนนสายบ้านตันหยงมัส อ.ระแงะ มีน้ำท่วมขังสูง 50 ซ.ม.

6. ถนนสายบ้านบูเก๊ะตา อ.แว้ง มีน้ำท่วมขังสูง 60 ซ.ม.

ทั้งนี้ จากการตระเวนตรวจสอบพบว่า พื้นที่ที่ประชาชนได้รับผลกระทบหนักสุดในเบื้องต้นขณะนี้ อยู่ในพื้นที่ 4 อำเภอ คือ อ.ระแงะ รือเสาะ แว้ง และสุไหงโก-ลก ที่ยังคงมีปริมาณน้ำท่วมขังสูงอย่างต่อเนื่อง จากผลพวงของแม่น้ำสายหลักที่รองรับมวลน้ำป่าจากเทือกเขาสันกาลาคีรี ที่ไหลลงมาบรรจบล้นตลิ่ง โดยพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก บริเวณ 8 ชุมชน ที่บ้านเรือนของประชาชนปลูกสร้างอยู่บริเวณตลอดแนวริมตลิ่งของแม่น้ำโก-ลก คือ ชุมชนหัวสะพาน ชุมชนโปฮงยามู ชุมชนท่าประปา ชุมชนกือดาบารู ชุมชนเสาสัญญาณ ชุมชนท่ากอไผ่ ชุมชนท่าโรงเลื่อย และชุมชนบือเร็ง มีน้ำท่วมขังสูงจากวานนี้ 20 ซ.ม. โดยอยู่ในระดับมีน้ำท่วมขังสูงโดยภาพรวม 190 ซ.ม.

ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารสังกัด กองร้อย 151 พัน 2 ค่ายกัลยาณิวัฒนา ภายใต้การนำของ ร.อ.พงศกร เทพษร ผบ.ร้อย ป้องกันชายแดนที่ 3 ต้องเดินฝ่ากระแสน้ำที่มีน้ำท่วมขังสูง คอยให้การช่วยเหลือประชาชน ซึ่งล่าสุดประชาชนใน 8 ชุมชน ทั้งเด็กเล็กหญิงชราต้องอพยพไปอาศัยอยู่ที่ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยชั่วคราว โรงเรียนเทศบาล 4 บ้านทรายทองที่ นางสุชาดา พันธ์นรา นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ได้เตรียมจัดสถานที่ไว้แล้ว จำนวน 182 คน

จากการตระเวนตรวจสอบการให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ อ.ระแงะ พ.ต.ต.จีรยุทธิ์ แก้วด้วง สารวัตรสถานีตำรวจน้ำ 3 กองกำกับการ 7 กองบังคับการตำรวจน้ำนราธิวาส ได้นำกำลังพลพร้อมเรือยาง เดินลุยน้ำที่มีน้ำท่วมขังสูง 170 ซ.ม.ในพื้นที่ ม.1 ต.ตันหยงมัส ที่มีประชาชนอาศัยอยู่ จำนวน 150 ครัวเรือน ออกให้การช่วยเหลืออพยพประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่อย่างเป็นการเร่งด่วน

อย่างไรก็ตาม ในพื้นที่บ้านมูบาแรแน ม.7 ต.ช้างเผือก อ.จะแนะ ร.อ.วัชรินทร์ ลีพิลา ผบ.ร้อย ทพ.4910 ได้ร่วมกับนายรุสลี เต๊ะ ผู้ใหญ่บ้านมูบาแรแน ต.ช้างเผือก และชาวบ้าน พร้อมรถเครน ลงไปช่วยกันกำจัดวัชพืชซากเศษท่อนไม้ขวางทางน้ำที่บริเวณสะพานในหมู่บ้าน เพื่อให้กระแสน้ำได้ไหลระบายสะดวก ก่อนที่มวลน้ำจะเข้าท่วมภายในหมู่บ้านดังกล่าว.