เกิดเหตุคนร้าย วางระเบิด 4 ลูกซ้อน ป่วนเมืองนราฯ โรงเรียนใกล้จุดเกิดเหตุประกาศหยุดฉุกเฉิน 1 วัน เพื่อความปลอดภัย
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 21 พ.ย. 67 พ.ต.อ.ดิเรก โฉมยงค์ รอง ผบก.ภ.จว.นราธิวาส พ.ต.อ.วีรยุทธ ตาสีพันธุ์ ผกก.สภ.โคกเคียน น.อ.สันติ เกศศรีพงษ์ศา ผบ.กรม.ร.3 พล.นย. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิดหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธิน และเจ้าหน้าที่ชุด EOD กองกำกับการตำรวจภูธร จ.นราธิวาส และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุระเบิด บริเวณเกาะกลางถนนสาย 4136 จำนวน 4 ลูก ซึ่งแต่ละลูกซ่อนอำพรางไว้ในถุงขยะอีกชั้นหนึ่ง อยู่ห่างกันประมาณ 500 เมตร ในพื้นที่บ้านฮูแตทูวอ ม.4 ต.โคกเคียน หลังเกิดระเบิดขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกัน ตั้งแต่ช่วง 04.30 น. ที่ผ่านมา เคราะห์ดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ
โดยระเบิดจุดแรกที่เกิดขึ้นบริเวณเกาะกลางถนนสาย 4136 ตรงกันข้ามกับโรงเรียนบ้านฮูแตทูวอ ซึ่งในวันนี้ทางโรงเรียนได้ประกาศปิดการเรียนการสอนฉุกเฉิน เป็นเวลา 1 วัน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุได้อย่างสะดวก ซึ่งบริเวณเกาะกลางถนนจุดที่คนร้ายวางระเบิด เกิดหลุมลึกประมาณ 3 นิ้ว กว้าง 5 นิ้ว โดยมีเศษซากชิ้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่อง ไม่ทราบภาชนะบรรจุ จุดชนวนด้วยการตั้งเวลาจากนาฬิกาข้อมือแบบดิจิทัล โดยไม่มีสะเก็ดระเบิดที่มุ่งหมายต่อความสูญเสียและต่อชีวิต
จุดที่ 2 ห่างจากจุดแรกประมาณ 500 เมตร อยู่ตรงกันข้ามร้านจำหน่ายไก่สด และจุดที่ 3 อยู่ตรงข้ามร้านขายข้าวแกง มีลักษณะเหมือนกับจุดที่ 1 ส่วนจุดที่ 4 ซึ่งห่างจากจุดที่ 3 ประมาณ 500 เมตร เยื้องกับมัสยิดบ้านฮูแตทูวอ และโรงเรียนสอนศาสนาพัฒนาศาสตร์วิทยา โดยทุกจุดพบวัตถุระเบิดชนิดเดียวกัน เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมพยานหลักฐานนำไปตรวจสอบ
จากการสอบสวนทราบว่า เวลา 23.00 น. ของวันที่ 20 พ.ย. ที่ผ่านมา ร.ต.อ.สายเจต เสือย้อย ผบ.ร้อย ฉก.ตชด.934 ได้รับแจ้งจากชาวบ้านพบวัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิด วางอยู่ที่บริเวณเกาะกลางถนน ในพื้นที่บ้านฮูแตทูวอ จำนวน 4 ลูก โดยพบว่าได้มีชายฉกรรจ์ 4 คน ขี่และซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ 2 คัน ขี่ย้อนศรบริเวณยูเทิร์นจากแคมป์ที่พักของคนงานก่อสร้าง เมื่อถึงบริเวณเป้าหมายคนร้ายได้จอดรถ ให้คนที่นั่งซ้อนท้ายนำระเบิดไปวาง จากนั้นก็ขี่ย้อนศรเลี้ยวขวาหลบหนีไป
ต่อมาได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โคกเคียน เข้าตรวจสอบร่วมกัน เบื้องต้นคาดว่าเป็นระเบิดแสวงเครื่อง จึงได้ร่วมกันจัดกำลังปิดการจราจรบนถนนสายดังกล่าว ก่อนที่จะแจ้งประสานไปยังผู้บังคับบัญชาที่เกี่ยวข้อง เพื่อเข้าตรวจสอบในช่วงเช้า แต่วัตถุต้องสงสัยดังกล่าวได้เกิดระเบิดขึ้นก่อน
ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคาดว่าเป็นฝีมือการกระทำของกลุ่มสมาชิกผู้ก่อเหตุรุนแรงรุ่นใหม่ ที่ถูกทดสอบความกล้าในการสร้างสถานการณ์ โดยที่ไม่ได้มุ่งหมายประสงค์ต่อชีวิตต่อกำลังพลและประชาชนผู้บริสุทธิ์
แหล่งข่าว: ไทยรัฐ