ตำรวจไซเบอร์ รวบเอเยนต์คนไทย จ้างเปิดซิมผี-บัญชีม้า พื้นที่แม่สอด ส่งขายให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ชายแดนฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อเอามาใช้หลอกเงินคนไทย
วันที่ 27 ก.ย. พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. สั่งการให้ พล.ต.ต.จิตติพนธ์ ผลพฤกษา ผบก.สอท.4 พร้อมเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง นำกำลังเปิดปฏิบัติการบุกทลายขบวนการจัดหาบัญชีม้า ส่งให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ตรวจค้นเป้าหมาย 3 จุด ในพื้นที่ จ.ตาก
โดยจุดแรกเจ้าหน้าที่นำหมายค้นศาล จ.แม่สอด เข้าค้นบ้านหลังหนึ่ง หมู่ 9 ต.แม่ปะ อ.แม่สอด จ.ตาก จับกุมสองแม่ลูก คือ น.ส.กชกร ลิ้มประเสริฐ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดแม่สอด และนายธนกร สีวิชัยปู่ อายุ 26 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดแม่สอด
จุดที่สองเจ้าหน้าที่นำหมายค้นศาลจังหวัดแม่สอด เข้าค้นบ้านใน ต.แม่สอด อ.แม่สอด จ.ตาก จับกุมนายสะอาด จินดากรกช อายุ 28 ปี ส่วนในจุดที่สาม เจ้าหน้าที่นำหมายค้นศาลจังหวัดแม่สอด เข้าค้นบ้านหลังหนึ่ง หมู่ 2 ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก ผลการตรวจค้นสามารถตรวจยึดสมุดบัญชีธนาคาร ระบุชื่อบัญชีบุคคลอื่น จำนวน 19 เล่ม และบัตรเอทีเอ็ม 6 ใบ
พล.ต.ท.วรวัฒน์ กล่าวว่า ตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สั่งการให้ตำรวจกวดขันปราบปรามจับกุมผู้กระทำผิดที่ลักลอบซื้อ-ขาย ซิมผี บัญชีม้า มาอย่างต่อเนื่อง โดยตำรวจชุดสืบสวน กก.2 บก.สอท.4 ทำการสืบสวนทราบว่ามีผู้ลักลอบจัดหาซิมผี บัญชีม้า และบัตรเอทีเอ็ม พักอาศัยอยู่ในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก เป็นลักษณะกลุ่มขบวนการ ก่อนส่งขายต่อให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งมีที่ตั้งอยู่ตามแนวชายแดนฝั่งประเทศเพื่อนบ้านด้าน อ.แม่สอด เพื่อนำมาใช้โทรติดต่อหลอกคนไทยให้โอนเงินในหลากหลายรูปแบบ
ต่อมาทางชุดสืบสวนจึงลงพื้นที่ เพื่อหาข้อมูลจนทราบว่า น.ส.กชกร นายธนกร และนายสะอาด มีพฤติการณ์เป็นกลุ่มขบวนการร่วมกันจัดหา โดยหลอกชาวบ้านในพื้นที่ให้เปิดบัญชีธนาคารแลกกับค่าตอบแทน จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายค้นและหมายจับ ก่อนเข้าจับกุมตัวไว้ได้ทั้ง 3 รายพร้อมของกลาง
จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ให้การยอมรับว่า ได้ร่วมกันเป็นเอเย่นต์จัดหาบัญชีธนาคาร บัตรเอทีเอ็ม และซิมการ์ดที่ลงทะเบียนพร้อมใช้งานแล้วจริง โดยหลอกให้ชาวบ้านในพื้นที่ไปเปิดบัญชีธนาคาร บัตรเอทีเอ็ม และซิมการ์ดที่ลงทะเบียนพร้อมใช้งาน โดยให้ค่าตอบแทนบัญชีละ 3,000 บาท ก่อนนำไปขายให้กับชาวจีน หัวหน้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ตั้งฐานอยู่ในฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ที่มีความต้องการใช้บัญชีธนาคาร บัตรเอทีเอ็ม และซิมการ์ด ที่ลงทะเบียนแล้วพร้อมใช้จำนวนมาก เพื่อใช้ในการรับโอนเงินเข้าและโอนเงินออกจากบัญชี ในธุรกิจเว็บพนันออนไลน์และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในราคาบัญชีละ 4,500 บาท โดยจะเหลือส่วนต่างบัญชีละ 1,500 บาท มานานราว 1 ปี มีการซื้อขายไปแล้วกว่า 500 บัญชี สร้างรายได้กว่า 750,000 บาท โดยมีการนัดหมายส่งมอบกันตามแนวชายแดนใกล้ตลาดแม่สอด จะมีคนจากประเทศเพื่อนบ้านข้ามฝั่งมารับและจ่ายเงิน
โดยดำเนินคดีในความผิดฐาน “ร่วมกันเป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวโดยประการใด ๆ เพื่อให้มีการซื้อขาย ให้ เช่า หรือให้ยืม บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด” ก่อนควบคุมตัวพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.
แหล่งข่าว: ไทยรัฐ