คำพังเพยโบราณ อย่าเลี้ยงลูกเสือลูกจระเข้ มีที่มาทั้งจากเรื่องจริง เรื่องเล่า และเรื่องที่เล่าซ้ำๆ จนเรียกตำนาน ตำนานการเลี้ยงลูกเสือเรื่องหนึ่ง มีกลิ่นอายเมืองในทะเลทราย…เล่ากันไว้ดังนี้

(เรื่องเล็กๆความหมายใหญ่ๆ สุริยเทพ ไชยมงคล สำนักพิมพ์อินสไปร์ พ.ศ.2553)

โจรก๊กใหญ่ในอาหรับ ยึดเอาภูเขาใหญ่เป็นปราการ เมื่อออกปล้นเอาทรัพย์สินชาวบ้าน หนีเข้าไปตั้งหลักแล้ว กองทัพพระราชาก็ยังตามเข้าไปจับพวกมันไม่ได้

ความเดือดร้อนจากโจรภูเขานี้นับวันก็ยิ่งจะทวีคูณ จนส่อเค้าว่า บ้านเมืองจะหายนะ พวกขุนนางประชุมวางแผนปราบขั้นเด็ดขาด และแล้วแผนปฏิบัติการก็เริ่มขึ้น

ทหารฝีมือดีกลุ่มหนึ่ง ถูกส่งเข้าไปเฝ้าซุ่มสอดแนมใกล้ชุมทางภูเขาโจร

อดทนรอจนพวกโจรออกปล้นแล้ว ขนทรัพย์สินมีค่ากลับถึงราวเที่ยงคืน

หนทางยาวไกล บวกความเหนื่อยจากการปล้น พวกโจรหมดเรี่ยวแรง วางอาวุธ ทิ้งทรัพย์สิน ความง่วงทำให้พวกโจรนอนหลับใหล นี่เป็นโอกาส…พวกทหารฝีมือดีก็ปรากฏตัวจับโจรมัดไว้ คุมตัวเข้าวัง

พระราชาไม่เสียเวลา ทรงสั่งนำโจรทุกคนไปประหาร

ระหว่างการประหารเสนาบดีผู้ใหญ่มองเห็นโจรหนุ่ม…รูปร่างลักษณะดี ท่วงทีฉลาดหลักแหลม แก้มสองข้างมีสีแดงระเรื่อ ทั้งที่อยู่ในคิวรอประหาร แต่ก็ยังมีท่าทางฮึกเหิม

ชั่วพริบตา ท่านเสนาบดีก็รู้สึกเมตตา…เขาเป็นเสนาบดีที่พระราชาให้ความนับถือ จึงเข้าจูบพระบาทพระราชาแล้วกราบทูล “ขอให้เมตตาไว้ชีวิตสักคนหนึ่ง” พร้อมกัน เสนาบดีอีกคนก็เข้าไปขอร้องเป็นแรงหนุน

พระราชาทรงสั่งปล่อยลูกโจรให้เสนาบดีใหญ่นำไปเลี้ยงดูที่บ้าน ท่านเสนาบดีเลี้ยงดูลูกโจรเหมือนลูกชาย หาครูที่เก่งที่สุดมาสอนวิชา นับแต่การผูกมิตรและมารยาท พิธีการ โดยเฉพาะที่ต้องใช้หน้าพระพักตร์

จนถึงวันที่เสนาบดีแน่ใจ นำตัวไปกราบทูลพระราชา

“ข้าพุทธเจ้าอบรมบ่มเพาะเขา จนบัดนี้แน่ใจ ความเลวร้ายไม่เหลือในดวงวิญญาณของเขาอีกแล้ว”

วันเวลาที่น่าจะแสนดี สำหรับเด็กหนุ่มลูกโจรคนนี้ ผ่านไปรวดเร็ว ในช่วงเวลานั้นท่านเสนาบดี ไม่ทันผิดสังเกต ลูกชายคนใหม่ไปคบ…คนที่มีท่วงท่านักเลงคนหนึ่ง

แล้วข่าวใหญ่ในเมืองนั้นก็แพร่ออกมา เด็กหนุ่มสมคบกับเพื่อนนักเลง…ฆ่าท่านเสนาบดีและบุตรชายอีกสองคน แล้วช่วยกันขนทรัพย์สินมีค่ามากมายในบ้าน

เด็กหนุ่มลูกโจรยังสวมวิญญาณโจร กลับไปฟื้นฟูชุมทางภูเขาโจร ออกปล้นฆ่าชาวบ้านกลายเป็นชุมโจรที่ยิ่งใหญ่ยิ่งกว่าก่อนถูกพระราชาส่งคนไปปราบหลายเท่า

จบเรื่องเล็กๆ มีคำอธิบายความหมายใหญ่ๆ หัวข้อ รูปลักษณ์ดีซ่อนจิตใจชั่วร้าย…

บุคลิกหน้าตาดี วันนี้กลายเป็นเงื่อนไขในการรับสมัครงานของหลายองค์กร ฟรานซิส เบคอน นักปรัชญาสำคัญ เกริ่นนำเตือนเสมอว่า “ควรมองให้ทะลุถึงเนื้อแท้ด้านใน”

มีตัวอย่าง ออกัสตัส ซีซาร์ จักรพรรดิไททัสแห่งโรมัน กษัตริย์ฟิลลิป เดอ แบล แห่งฝรั่งเศส กษัตริย์เอ็ดเวิร์ดที่ 4 แห่งอังกฤษ แอสซีไบอาดิสแห่งเอเธนส์ อิสมาแอลแห่งเปอร์เซีย ล้วนแล้วแต่เป็นผู้กล้าหาญที่มีรูปลักษณ์สง่างาม

ข้อความนี้ชี้ว่า ในอดีตกาลนานโพ้น การมีคุณธรรมกับความงามนั้นไปคู่กันได้

เพียงแต่ในปัจจุบัน คนที่มีรูปลักษณ์สง่างาม เป็นผู้ร้ายใจอันธพาล… กลาดเกลื่อน หากใช้กติกา การเมือง แพ้เป็นกบฏ ชนะเป็นเจ้า ผู้ชนะในแต่ละบ้านเมือง ก็คือผู้นำกุมอำนาจ

ผมไม่แปลกใจแต่ละวันเจอแต่ข่าวโจรปล้นโจร โจรหักหลังโจร โจรล้างแค้นโจร และโจรฆ่าโจร ชาวบ้านแบบเราๆ ระวังไว้ อย่าเผลอเข้าไปใกล้ ลูกหลงจากปืนโจรมันไม่เข้าใครออกใคร.

กิเลน ประลองเชิง

คลิกอ่านคอลัมน์ “ชักธงรบ” เพิ่มเติม