ตำรวจ สภ.ท่าชนะ รับแจ้งเหตุชายคลั่งถือปืน เดินวนเวียนหน้าบ้าน พยายามเจรจาแต่ไม่สำเร็จ ซ้ำยิงปืนใส่เจ้าหน้าที่ โดนอดีตสารวัตรกำนันที่ช่วยเข้าระงับเหตุเสียชีวิต
เมื่อเวลา 08.30 น. ของวันที่ 22 ธันวาคม 2567 มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี รับแจ้งเหตุมีคนคุ้มคลั่งเดินแก้ผ้าถือปืนอยู่ข้างบ้านเลขที่ 195 หมู่ที่ 10 ต.คันธุลี อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี จึงสั่งการเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ
จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบนายอุดม อายุ 42 ปี มีอาการเอะอะโวยวายอยู่ภายในบ้านของตน เจ้าหน้าที่จึงได้พูดคุยเจรจากับนายอุดม แต่ไม่สำเร็จ จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ยินเสียงอาวุธปืน จำนวน 3 นัด ภายในห้องนอนของนายอุดม ต่อมานายอุดม ได้เดินถืออาวุธปืนออกมาอยู่หน้าบ้าน พูดจาเอะอะโวยวาย เดินวนเวียนอยู่บริเวณหน้าบ้าน โดยภายในมือนายอุดม ได้ถืออาวุธปืนยาวขนาด .22 และได้ยิงขู่เจ้าหน้าที่จำนวน 2 นัด
และในเวลาต่อมานายอุดมได้เกิดอาการคุ้มคลั่งโดยใช้อาวุธปืนดังกล่าวยิงใส่เจ้าหน้าที่ เป็นเหตุให้นายโชคดี ปลายด้วง ถูกยิงได้รับบาดเจ็บล้มลงและหลังจากนั้นในทันทีทันใดนายอุดมได้วิ่งมาที่นายโชคดี และใช้อาวุธยาวที่อยู่ในมือยิงซ้ำใส่นายโชคดีจากทางด้านหลังในขณะที่นอนเจ็บอยู่ และนายอุดม ได้ยกปืนยาวเล็งมายังเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ได้ยิงปืนตอบโต้เพื่อยับยั้งผู้ก่อเหตุดังกล่าว จึงทำให้นายอุดม ผู้ก่อเหตุได้รับบาดเจ็บบริเวณต้นแขนขวา และเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวผู้ก่อเหตุเอาไว้ได้
ต่อมาได้รับแจ้งจากทางโรงพยาบาลท่าชนะ ว่านายโชคดี พลายด้วง ผู้ถูกยิง เสียชีวิตจากเหตุดังกล่าวแล้วเมื่อเวลา 12.15 น. พนักงานสอบสวนได้ร่วมกับแพทย์ชันสูตรพลิกศพผู้ตาย พบบาดแผลผู้ตายถูกยิงด้วยปืนลูกกรด (ยิงทีละนัด) จำนวน 9 แผล ได้แก่บาดแผลกระสุนปืนที่บริเวณศีรษะ 2 แผล, ไหล่ข้างขวา 1 แผล, มือซ้าย 1 แผล, มือขวา 1 แผล, ต้นแขนซ้าย 1 แผล, ลำคอขวา 1 แผล, สะบักหลังซ้าย 2 แผล
ล่าสุดเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจพฐ.8 ได้เข้าตรวจคราบเขม่าดินปืนจากเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าระงับเหตุจำนวน 7 นายที่ สภ.ท่าชนะ
สำหรับนายโชคดี พลายด้วง ผู้เสียชีวิต เป็นอดีตสารวัตรกำนันตำบลคันธุลี อำเภอท่าชนะ ซึ่งขณะเข้าระงับเหตุปฏิบัติหน้าที่ในฐานะผู้ซึ่งต้องช่วยเจ้าพนักงานตามกฎหมาย ตาม ป.วิ อาญา มาตรา 138
สำหรับนายอุดม ผู้ต้องหา/ผู้ก่อเหตุ เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2567 สภ.ท่าชนะ เคยได้รับแจ้งว่าผู้ก่อเหตุโวยวายทำลายข้าวของในบ้าน ได้ดำเนินการเข้าระงับเหตุพร้อมควบคุมตัวส่งโรงพยาบาลท่าชนะเพื่อดำเนินการรักษาไว้ครั้งหนึ่งแล้ว.
แหล่งข่าว: ไทยรัฐ