
และแล้วก็มาถึงวันที่ทุกคนรอคอย
หลังตำรวจสอบสวนกลางรวบรวมพยานหลักฐานพอให้ศาลพิจารณาอนุมัติหมายจับ “บอส” ทั้งหลายแหล่ของ บริษัท ดิ ไอคอน กรุ๊ป จำกัด เบื้องต้นรวม 18 คน
การไล่ล่าจับกุมผู้ต้องหา ตั้งแต่ “บอสพอล” หัวเรือใหญ่ บอสดารา ไปยันบอสหัวโจกทั้ง 18 คน ก็เริ่มขึ้นและเสร็จสิ้นภายในวันเดียว รวมทั้งการยึดอายัดทรัพย์ไว้ตรวจสอบมหาศาล ทั้งบ้าน ที่ดิน รถหรู ฯลฯ
แต่เบื้องต้นดำเนินคดีข้อหาฉ้อโกงประชาชน และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จก่อน ส่วนข้อหาแชร์ลูกโซ่ต้องสอบสวนต่อ เพราะเคยบอกไปแล้วว่า…
มันมีแค่เส้นบางๆ ระหว่างขายตรงกับแชร์ลูกโซ่?
เมื่อดูจากสถานการณ์ของเหล่าผู้มีชื่อเสียงที่ถูกแต่งตั้งเป็นบอสแล้วให้เศร้าใจ?
ฐานะความเป็นอยู่ของแต่ละคน ไม่ได้ขี้เหร่ แถมมีหน้ามีตาในสังคม ถึงวันนี้ต้องโดนคดี ขาก้าวเข้าไปอยู่ในคุกครึ่งหนึ่งแล้ว
หน้าที่การงานที่เคยทำไม่ต้องพูดถึง มันพังไปแล้ว ต่อไปใครจะจ้าง!
สาเหตุมาจากผลประโยชน์ล้วนๆ?
ตอนนี้ต้องว่ากันต่อถึงเรื่องการดำเนินคดี ตำรวจสอบสวนกลางกำลังเร่งสอบปากคำผู้ต้องหา เพื่อเอาพฤติกรรมที่ได้ไปล้อกับคำให้การของเหยื่อและข้อกฎหมาย เพื่อแจ้งข้อหาแชร์ลูกโซ่เพิ่มให้ได้!
คราวนี้อยู่ที่พฤติกรรมที่ผ่านมาของ “บอส” แต่ละคนแล้วว่า แสดงหรือพูดอะไรที่มันเข้าข่ายความผิดหรือไม่ เข้าตำรา “กรรมใดใครก่อ”?
แต่ประเด็นสำคัญที่สังคมกำลังกังวลคือ ยังมีอีกหลายบริษัท หลายกรุ๊ป ที่ขออนุญาตเปิดบริษัทขายตรง แต่มีพฤติกรรมเข้าข่ายแชร์ลูกโซ่!
ต้องไล่รื้อไล่ตรวจสอบมันให้หมด ไอ้พวกขายฝัน ขายความรวยลมๆแล้งๆ
เดี๋ยวจะเหมือน “เตะหมูเข้าปากหมา” ไอ้พวกที่ยังไม่โดนจับก็รวยกันขึ้นไปอีก!
“สหบาท”
คลิกอ่านคอลัมน์ “ส่องตำรวจ” เพิ่มเติม
แหล่งข่าว: ไทยรัฐ