ฝ่ายปกครอง จ.มหาสารคาม ลงพื้นที่ตรวจสอบวัด หลังได้รับการร้องเรียน มีพระจากประเทศเพื่อนบ้าน นั่งเรือข้ามฟากมารับกิจนิมนต์ตามงานบุญ พอได้เงินแล้วหนีกลับ

วันที่ 12 พ.ย. 67 เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดมหาสารคาม ร่วมกับ พ.ต.ท.สุพล ศรีพัก สว.ตม.มหาสารคาม ได้ออกตรวจสอบหลังจากที่มีการร้องเรียน กรณีพระเณรชาวลาวจำนวนหลายรูป (ไม่มีหนังสือเดินทาง) ลักลอบเข้ามาในพื้นที่อำเภอบรบือ จ.มหาสารคาม โดยข้ามมาจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน สปป.ลาว ด้วยเรือหางยาว ขึ้นฝั่งที่บ้านห้วยเดื่อ จังหวัดหนองคาย แล้วมีรถไปรับมายังพื้นที่ จ.มหาสารคาม โดยมีพฤติกรรมรับกิจนิมนต์ตามงานบุญ ยิ่งช่วงนี้มารับงานบุญกฐิน หรือเทศน์หาเงิน พอได้เงินแล้วจะพากันกลับ สปป.ลาว เส้นทางเดิมที่มา

โดยได้ลงพื้นที่วัดหัวนาสว่าง ต.หนองจิก อ.บรบือ จ.มหาสารคาม สอบถามพระลูกวัด กล่าวว่า ในวัดมีเหลือแค่ตนกับเจ้าอาวาส ตนเองเป็นคนไทยและได้นำเอาบัตรประชาชนมาให้ตรวจสอบ พร้อมเล่าว่า เห็นมีพระจากประเทศลาวมี 1 รูป มาอาศัยอยู่กุฏิวัดได้ระยะหนึ่ง พอมารับงานบุญกฐินที่วัดจัดเมื่อวานนี้ เสร็จแล้วก็เดินทางกลับออกที่ประเทศลาวทันที

จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ก็ได้ไปตรวจสอบวัดบ้านสงเปลือย ต.ยาง อ.บรบือ จ.มหาสารคาม เมื่อไปถึงพบว่า ที่หน้าประตูวัดได้มีการปิดล็อกประตูไม่ให้ใครเข้าไปในวัด ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้มุดเข้าไปภายในบริเวณวัด ที่หน้าศาลาวัด พบชาวบ้านที่ทางวัดจ้างให้เข้ามาดูแลทำความสะอาด บอกว่าถ้าพระไม่อยู่ประตูนี้จะปิดไว้ เท่าที่ทราบพระท่านเป็นคนลาวไป ๆ มา ๆ และจะมีเพื่อนพระมาจากประเทศลาวเข้ามาเป็นประจำ มาเทศน์ หรือเป็นเณรมาอยู่ในวัดบ้างเป็นบางครั้ง

สอบถามชาวบ้านข้างวัด ก็ไม่ทราบว่าพระเป็นคนลาว แต่ถ้าท่านไม่อยู่ก็จะล็อกประตูวัดไว้ไม่ให้ใครเข้าไป อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะลงพื้นที่ใหม่เพื่อมาตรวจสอบทั้ง 2 วัดนี้อีกครั้ง ว่ายังมีพระจากประเทศลาวเข้ามาแบบไหนหรือลักลอบเข้ามาแล้วมารับเงินทำบุญแล้วกลับไป.