ผู้ต้องหายอมสารภาพ ฆ่าแม่ยายอัยการ นำทรัพย์สินไปขายใช้หนี้พนัน ยอมรับทำคนเดียว พร้อมเล่านาทีสังหารโหด สาเหตุตัดนิ้ว
วันที่ 18 พ.ย. 67 จากกรณี นางวรรณา เคอร์เนอร์ อายุ 67 ปี ถูกพบเป็นศพในสวนปาล์มใน อ.วังจันทร์ จ.ระยอง เมื่อวันที่ 16 พ.ย. 67 เพื่อชิงทรัพย์เป็นทอง น้ำหนัก 8 บาท แหวนเพชร 2 วง โทรศัพท์มือถือ กระเป๋าสะพายใส่เงินสด โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภาค 2 ชุดสืบสวน สภ.สัตหีบ สืบสวน ภจว.ระยอง สืบสวน สภ.วังจันทร์ ได้เร่งสืบสวนจนสามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยคือ นางกมลวรรณ โวลฟ์ อายุ 57 ปี เพื่อนของผู้ตาย
ล่าสุด พ.ต.อ.อภิชนัน วัฒนวรางกูร ผกก.สส.ภ.จว.ระยอง พ.ต.อ.พัฒนา รอบรู้ ผกก.สภ.วังจันทร์ จ.ระยอง ได้ร่วมกันสอบปากคำ เปิดเผยว่า จากการสอบสวน นางกมลวรรณ รับสารภาพแล้ว โดยให้การอ้างว่า พาผู้ตายขณะยังมีชีวิตอยู่ มาบริเวณจุดเกิดเหตุ แล้วลงมือทำร้ายผู้ตายจนเสียชีวิตเพียงคนเดียว สำหรับการที่ผู้ต้องหายอมรับสารภาพ เพราะจนมุมด้วยหลักฐานเส้นผมของผู้ต้องหา เข้าไปติดอยู่ในเล็บของผู้ตาย ซึ่งคาดว่าอาจจะเป็นช่วงระหว่างต่อสู้กัน ก่อนเสียชีวิต
นางกมลวรรณ โวลฟ์ เล่าว่าในวันที่ 15 พ.ย. 67 ได้โทรศัพท์ไปหาผู้ตายหลังจากกลับมาวัดที่ไปทอดกฐิน ชวนไปหาพี่ชายที่ อ.วังจันทร์ จ.ระยอง ขับรถไปรับที่บ้านผู้ตาย จนถึงที่เกิดเหตุช่วงบ่าย 4 โมงเศษ บริเวณสวนปาล์ม นางกมลวรรณ ลงจากรถมาก่อน แล้วเรียกผู้ตายลงมาจากรถคุยกัน แต่ผู้ตายไม่ยอมลง บอกว่าจะมืดแล้วต้องกลับบ้านแล้ว จึงได้ฉุดกระชากลงมา แล้วใช้เหล็กแป๊ปที่เตรียมมาตีที่หน้าผากจนผู้ตายล้มลง ใช้แป๊ปตีนับไม่ถ้วนจนแน่นิ่งไป ใช้เวลาประมาณ 10 นาทีจนแน่ใจว่าตายแล้ว จึงได้ปลดสร้อยทองคอ สร้อยมือ ต่างหู แหวนเอาไม่ออกจากนิ้ว ได้ใช้เหล็กแป๊ปทุบนิ้วจนขาดถอดแหวนออก โยนนิ้วทิ้งไปทั้งสองข้าง
จากนั้นได้ขับรถออกไป นำเหล็กแป๊ปไปทิ้งในถังขยะซอย 3 ใกล้ๆ ที่เกิดเหตุ นำโทรศัพท์ที่ทุบจนแตกพังใส่ถุงไปทิ้งในคลอง แล้วขับรถนำทองแหวนต่างหูไปขายที่ร้านทองในตลาดบ้านบึง อ.บ้านบึง จ.ระยอง ได้เงินมา 8 หมื่น นำเงินไปใช้หนี้พนันจนหมด จากนั้นขับรถกลับไปบ้าน รุ่งเช้านำรถไปล้าง จนบ่ายๆ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาที่บ้านนำไปสอบสวน เบื้องต้นเองปฏิเสธ จนมายอมรับเพราะหลักฐานของเจ้าหน้าที่ ที่ทำไปเพราะติดหนี้พนัน บาคาร่า
ขณะที่ ผกก.ได้พาตัวนางกมลวรรณ โวลฟ์ ไปหาหลักฐานคือเหล็กแป๊ป ในถังขยะใกล้ที่เกิดเหตุ หาโทรศัพท์ ที่ทิ้งไว้ ไปร้านทองที่ตลาดบ้านบึง เพื่อตามทองที่ขายไป.
แหล่งข่าว: ไทยรัฐ