ตร.ไซเบอร์ รวบคู่รักวัยรุ่น เปิดเพจตุ๋นเหยื่อ รับบริจาคเพื่อบูรณะวิหารหลวงลายคำ จ.เชียงราย ที่ถูกไฟไหม้ พบทำแบบนี้มาแล้วหลายครั้ง เงินที่ได้นำไปใช้จ่าย
วันที่ 3 พ.ย. พล.ต.ต.จิระวัฒน์ พยุงธรรม รรท.ผบช.สอท. สั่งการให้ พล.ต.ต. วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.จิตติพนธ์ ผลพฤกษา ผบก.สอท.4 พ.ต.อ.คมสัน มีภักดี ผกก.4 บก.สอท.4 พ.ต.ท.ปุรเชษฐ์ รัตนวิจิตร รอง ผกก.4 บก.สอท.4 นำกำลังจับกุม น.ส.พัณณิตา เหรัญญิก อายุ 21 ปี ชาว จ.นครสวรรค์ และนายนันทภพ ทับทอง อายุ 25 ปี แฟนหนุ่ม ชาว จ.พิจิตร ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดเชียงราย ในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยการแสดงตนเป็นบุคคลอื่น และโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน
สืบเนื่องจากตำรวจชุดสืบสวน กก.4 บก.สอท.4 ได้รับแจ้งจากคณะกรรมการวัดแสงแก้วโพธิญาณ อ.แม่สรวย จ.เชียงราย ว่ามีมิจฉาชีพแอบอ้าง ชักชวนให้ร่วมบริจาคเพื่อซ่อมแซมบูรณะวิหารหลวงลายคำ วัดแสงแก้วโพธิญาณ จ.เชียงราย จากเหตุเพลิงไหม้ได้รับความเสียหายทั้งหลัง มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท เมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 22 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยมิจฉาชีพมีพฤติกรรมโพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊กปลอม ชื่อบัญชี “ครูบาอริยชาติ อริยจิตโต วัตถุมงคล วัดแสงแก้วโพธิญาณ อ.แม่สรวย จ.เชียงราย” ให้ร่วมบริจาคเงินสมทบทุนบูรณะซ่อมแซมวิหารหลวงลายคำ โดยใช้ชื่อบัญชีแอบอ้างว่าเป็นคณะกรรมการของทางวัดขอเปิดรับบริจาค จนมีผู้ที่มีจิตศรัทธาหลงเชื่อโอนเงินร่วมบริจาคเป็นจำนวนมาก
ต่อมา ชุดสืบสวนจึงได้ทำการสืบสวน จนทราบว่า บัญชีปลายทางระบุชื่อ น.ส.พัณณิตา ซึ่งไม่มีความเกี่ยวข้องกับทางวัดแต่อย่างใด โดยมียอดเงินเข้ามาในบัญชีกว่า 6 หมื่นบาท จึงทำการแกะรอย จนพบความเคลื่อนไหวว่า ผู้ก่อเหตุไปเดินทางกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มตามจุดต่างๆ ในพื้นที่ของจังหวัดพิจิตร และ จ.นครสวรรค์ จึงรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติศาลออกหมายจับ โดยติดตามจับกุมทั้งสองได้ที่บ้านพักในพื้นที่ อ.บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์
สอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้งสองให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกันก่อเหตุจริง โดยนำเงินที่ได้ไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน หากมีผู้เสียหายรายใดที่หลงเชื่อโอนเงินเข้ามาในบัญชีรู้ตัวว่าถูกหลอก ก็ปิดเพจหนี และจะเปิดเพจใหม่ ทำซ้ำๆ แบบนี้มาแล้วหลายครั้ง
นอกจากนี้ จากแนวทางสืบสวนยังพบว่า ผู้ต้องหายังเปิดบัญชี รับบริจาคในกลุ่มของชาวโคราช โพสต์ภาพรับบริจาคช่วยเหลือ ด.ช.วัย 3 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคมะเร็ง และขอรับบริจาคช่วยพระ ที่นอนอาพาธในโรงพยาบาล โดยใช้บัญชีธนาคารของ น.ส.พัณณิตา ในการรับบริจาคเช่นเดียวกัน โดยอาศัยช่วงจังหวะที่เกิดเหตุการณ์สำคัญตามสถานที่คนให้ความสนใจต้องการเข้าไปช่วยเหลือ ทั้งนี้ พบยอดเงินหมุนเวียนที่โอนเข้ามาในบัญชี จากการสร้างเพจปลอมแต่ละครั้ง ตั้งแต่หลักหมื่นจนไปถึงหลักแสนบาท
หลังตำรวจชุดจับกุมสอบปากคำเสร็จสิ้น ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งสองเดินทางไปยังวัดแสงแก้วโพธิญาณ จ.เชียงราย เพื่อขอขมากรรมกับครูบาอริยชาติ ก่อนจะนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป
แหล่งข่าว: ไทยรัฐ