“ครูหนุ่มวัย 29” เตรียมซื้อของจัดงานวันลอยกระทง แต่เกิดหลับในพุ่งชนเสาไฟฟ้าเสียชีวิต ขณะที่ “พ่อ” เผยทั้งน้ำตา เพิ่งบรรจุครูผู้ช่วยได้ประมาณหนึ่งปียังมีอนาคตไกล
เมื่อเวลา 04.30 น. วันที่ 9 พฤศจิกายน 2567 ร.ต.อ.นวพล กาญจนสาธิต รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถเก๋งชนเสาไฟฟ้ามีผู้เสียชีวิตติดภายในที่ริมถนนสาย 323 โค้งสามแยกบ้านเก่าสายนอก ขาเข้าเมืองกาญจนบุรี หมู่ 5 ต.หนองบัว อ.เมือง จ.กาญจนบุรี จึงประสานมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ สำนักงานใหญ่ นำรถอุปกรณ์ตัดถ่าง อาสาจุดทุ่งสะพานหิน นำรถอุปกรณ์ส่องสว่าง สนับสนุนการช่วยเหลือและอำนวยการจราจร และแพทย์เวร รพ.พหลพลพยุหเสนา ร่วมชันสูตรพลิกศพ
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้าวีออส สีดำ ทะเบียน 7กฮ 8196 กทม. สภาพฝั่งคนขับชนอัดกับเสาไฟฟ้าขนาดใหญ่ริมถนนจนรถพังยับเยิน ภายในห้องโดยสารฝั่งคนขับพบร่าง นายปฏิภาณ ภิรมย์จันทร์ อายุ 29 ปี บ้านอยู่ ต.พังตรุ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ถูกคอนโซลหน้ารถกดทับอยู่ไม่สามารถนำศพออกมาได้ ทางมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์จึงได้ใช้เครื่องมือตัดถ่างใช้เวลากว่า 30 นาที จึงสามารถนำศพออกมาได้สำเร็จ
เมื่อตรวจสอบภายในรถ ยังพบเอกสารเขียนรายการเตรียมซื้อของเกี่ยวกับการจัดงานวันลอยกระทงที่จะมีขึ้นที่โรงเรียนทองผาภูมิวิทยา อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี รวมถึงเงินจำนวนหนึ่งที่ถูกบรรจุอยู่ภายในซองพลาสติก มีชื่อเด็กนักเรียนคล้ายเงินออมหรือเงินค่าเล่าเรียน และหนังสือเกี่ยวกับการเรียนการสอนจำนวนหนึ่ง
จากการสอบถามชาวบ้านที่อาศัยอยู่ใกล้กับจุดเกิดเหตุ เผยว่า ช่วงเวลาเกือบ 04.30 น. ได้ยินเสียงดังโครมเลยรีบลุกออกมาดูมองหาว่าต้นตอของเสียงมาจากไหน เมื่อกวาดสายตาไปก็เห็นมีรถเก๋งสีดำชนกับเสาไฟฟ้าหน้าบ้านสภาพพังยับเยิน แล้วมีคนเจ็บติดอยู่ด้านในที่นั่งรถ จึงได้รีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ ชาวบ้านในพื้นที่ยังบอกด้วยว่าถนนเส้นนี้มักจะเกิดอุบัติเหตุขึ้นบ่อยครั้ง
ทางด้าน นายดิเรก ภิรมย์จันทร์ อายุ 53 ปี พ่อผู้เสียชีวิต เผยว่า ลูกชายเป็นครูอัตราจ้างอยู่ 3 ปี เพิ่งมาสอบบรรจุครูผู้ช่วยได้เมื่อปีกว่าๆ นี้เอง เป็นครูสังคมศึกษาเคยสอนอยู่ที่โรงเรียนท่ามะกาวิทยาคม จ.กาญจนบุรี แล้วไปสอบติดเป็นครูผู้ช่วยวิชาสังคมศึกษาที่โรงเรียนทองผาภูมิวิทยา ลูกชายคนนี้เป็นเด็กดีไม่ดื่มเหล้าไม่สูบบุหรี่ ยังมีอนาคตอีกไกล
ครั้งสุดท้ายที่คุยกับลูก ซึ่งตนเองได้โทรศัพท์ไปถามลูกชายว่าจะกลับบ้านเมื่อไหร่ ซึ่งลูกชายก็ตอบตนว่าไม่กลับบ้านช่วงเย็นวันศุกร์ก็เป็นวันเสาร์ ซึ่งตอนนี้รู้สึกเสียใจมากที่ลูกชายจากเร็วเกินไป เพราะลูกชายคนนี้เป็นความหวังของครอบครัว อีกทั้งยังเป็นที่รักใคร่ของเหล่าเด็กๆ และเพื่อนๆ ภายในโรงเรียนอีกด้วย
ทั้งนี้ จากการสอบสวนเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า อาจจะเกิดการหลับใน เพราะไม่มีรอยเบรกเลย และแพทย์เวรลงความเห็นให้ส่งร่างไปชันสูตรพลิกศพที่ศูนย์นิติเวช จ.ราชบุรี เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัด จากนั้นจะได้นำร่างกลับมาประกอบพิธีทางศาสนาที่บ้านเกิดต่อไป.
แหล่งข่าว: ไทยรัฐ