กรุงไทยสู่ธนาคารดิจิทัล เปิดตัว Virtual Bank ใหม่

วันเสาร์สบายๆวันนี้ไปคุยกับซีอีโอแบงก์กันสักวันนะครับ คุณผยง ศรีวณิช  กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย ประธานสมาคม ธนาคารไทย  เล่าถึงพัฒนาการของธนาคารกรุงไทย ธนาคารพาณิชย์ของรัฐที่เคยวิ่งไม่ทันยุคดิจิทัล มีลูกค้าอินเตอร์เน็ตแบงก์กิ้งเพียง 3.5 ล้านคน กลายเป็นธนาคารดิจิทัลที่ทันสมัย มีลูกค้าเติบโตแบบก้าวกระโดดขึ้นมาเป็น 40 ล้านคนในปัจจุบัน จากการพัฒนาด้วยยุทธศาสตร์คู่ขนาน โมบายแบงก์กิ้ง (Krungthai NEXT) กับ ระบบ Open  Finance (เป๋าตัง)  สามารถวิ่งทันคู่เทียบและตอบโจทย์ลูกค้าในช่วงเปลี่ยนผ่านได้อย่างเต็มศักยภาพ

ทำให้วันนี้ ธนาคารกรุงไทย  เป็นแบงก์ที่มีแพลตฟอร์มดิจิทัลแข็งแกร่งที่คนไทยรู้จักดี ทั้ง กรุงไทยเน็กซ์ เป๋าตัง ถุงเงิน และกรุงไทยบิสซิเนส

คุณผยง  เล่าว่า ตั้งแต่ปี 2557 ธนาคารกรุงไทยได้ปฏิรูปองค์กรมาแล้ว 3 เฟส คือ เฟส 1 ซ่อมสร้างองค์กรให้มีสุขภาพแข็งแกร่ง เฟส 2 ปรับเปลี่ยนองค์กรให้ก้าวทันยุคดิจิทัลด้วย  Open Finance ที่กำลังเป็นเทรนด์ใหม่ของโลก ทำให้มีลูกค้าเพิ่มขึ้นเป็น 40 ล้านคน เฟส 3 เตรียมความพร้อมสร้างการเติบโต ด้วยการจัดตั้ง บริษัท Infinitas by Krungthai  แยกออกจากธนาคาร เพื่อสร้างนวัตกรรมการทำงานแบบใหม่ที่มีความยืดหยุ่น เอื้อต่อการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมการเงินใหม่ๆ และร่วมกับ Accenture

บริษัทที่ปรึกษาเทคโนโลยียักษ์ใหญ่โลกจัดตั้ง บริษัท Arise by Infinitas ร่วมกับ IBM  จัดตั้ง บริษัท IBMDT  เพื่อพัฒนา Digital Talent สร้างนวัตกรหรือบุคลากรยุคใหม่ที่เป็น Global Citizen  สามารถทำงานที่ไหนก็ได้

แม้จะก้าวไปข้างหน้า แต่ก็ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง คุณผยง  เล่าว่า ลูกค้ากว่า 40 ล้านคน ยังมีลูกค้าที่ใช้สาขาอย่างเดียวถึง 7 ล้านคน ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุซึ่งเป็นกลุ่ม Underserve ที่เข้ามาใช้สวัสดิการของรัฐ วันนี้ธนาคารกรุงไทยจึงยังเป็นธนาคารที่มีสาขามากที่สุดกว่า 960 สาขา

ธนาคารกรุงไทย  เป็น 1 ใน 5 กลุ่มธุรกิจการเงินที่ยื่นขอใบอนุญาต Virtual Bank หรือ ธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา จากธนาคารแห่งประเทศไทย โดยจับมือร่วมกับ กลุ่ม AIS บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส  เจ้าของเครือข่ายโทรศัพท์มือถือเอไอเอส บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี  ที่มีเครือข่ายพลังงานการเงินและเทคโนโลยีที่หลากหลาย ทั้งไบแนนซ์และเอ็นวิเดีย และ OR บมจ.ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก ใน เครือ ปตท. คุณผยง  ให้เหตุผลในการร่วมทุนครั้งนี้ว่า อยากเข้าถึงคนในชุมชนใหม่ๆ โดยเลือกเข้าไปใน ชุมชนของ AIS และ OR เพื่อทำตัวเป็นแบงก์ในชุมชน เหล่านั้นด้วยต้นทุนที่ต่ำ  การทำ Virtual Bank ต้องมีทั้งเทคโนโลยีและ Data แต่จุดชี้ขาดคือดาต้า  และความสามารถในการวิเคราะห์ดาต้า

ปัจจุบัน ธนาคารกรุงไทย ได้ปล่อย Digital  Lending  มาได้ 2-3 ปีแล้ว โดยใช้ AI เข้ามาช่วย ปีที่ผ่านมามียอดสินเชื่อประมาณ 7,000 ล้านบาท แต่ปีนี้น่าจะโตได้ถึง 14,000 ล้านบาท โดยคิดดอกเบี้ยประมาณ 20% ขณะที่ดอกเบี้ยในอุตสาหกรรมอยู่ที่ 25-33%

เมื่อเร็วๆนี้ คุณผยง  และผู้บริหารธนาคารกรุงไทยได้นำสื่อ ไปดูงานที่ Minna Bank ธนาคารดิจิทัลแห่งแรกของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นธนาคารลูกหรือบริษัทในเครือ Fukuoka Financial Group กลุ่มการเงินระดับภูมิภาคที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น เพื่อใช้ Minna Bank ในการให้บริการทางการเงินได้ทั่วประเทศ โดยเน้นกลุ่มเป้าหมายใหม่ที่เป็น Digital Natives คือ คนเจนวายและมิลเลนเนียล ที่ถนัดการใช้มือถือ

จุดเด่นของ Minna Bank ก็คือ การพัฒนาระบบ Core Banking ใหม่ ร่วมกับ Accenture โดยใช้ เทคโนโลยี  Multi-cloud บริการหลักคือ บัญชีเงินฝาก บัตรเดบิตเสมือน สินเชื่อดิจิทัล และระบบชำระเงินผ่านร้านค้า อีคอมเมิร์ซ ชำระเงินแบบรายเดือน เติมเงินในอีวอลเล็ต ฯลฯ

วันนี้ ธนาคารกรุงไทย ได้ลงทุนล่วงหน้าไปมาก เตรียมพร้อมที่จะมี Virtual Bank ได้ทันที ทั้งระบบ Core Bankingและ Data เพื่อเข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่ที่เป็น Digital Natives.

“ลม เปลี่ยนทิศ”

คลิกอ่านคอลัมน์ “หมายเหตุประเทศไทย” เพิ่มเติม