ตามรวบน้องเขยฆ่า “ปลัดนก” หลัง พฐ.แจงผลตรวจพบหลักฐานเด็ดส่งไปถึงโรงพักเป็นมีดพับพกติดตัวผู้ต้องหาตรวจดีเอ็นเอเจอคราบเลือดของเหยื่อ มัดตัวยืนยันเป็นคนฆ่าพี่เมีย ส่วนน้องสาวปลัดนกยังรอหลักฐานเกี่ยวข้องร่วมฆ่าพี่ด้วยหรือไม่ ขณะที่ลูกชายผู้ตายเตรียมเผาแม่วันที่ 14 พ.ย.นี้ และยังคาใจคนใกล้ตัว

ตำรวจเร่งคลี่คลายคดีฆ่าโหดนางวรกนก หรือปลัดนก เทพพิมล อายุ 57 ปี ตำแหน่งปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลคลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ภายในบ้านพักบ้านเลขที่ 26/20 หมู่ 8 ซอยคลองสาม 8/4 ถนนเลียบคลองสาม ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี สภาพนอนหงายนุ่งผ้าถุงกระโจมอก มือถูกมัดไพล่หลังด้วยเสื้อยืดสีขาว ใบหน้าเขียวช้ำ ถูกแทงที่ลำคอและข้อมือทั้ง 2 ข้างรวม 11 แผล ที่โต๊ะอาหารพบมีดปอกผลไม้เปื้อนเลือด 1 เล่ม และพบสร้อยคอทองคำ 1 เส้นวางไว้บนอ่างล้างหน้า ต่อมาตำรวจนำหลักฐานเสื้อยืดเปื้อนเลือดที่ใช้มัดมือผู้ตายมาตรวจ พบเส้นผมยาว 10-15 ซม.จำนวน 1 เส้น คุมตัวนางบงกช แก้วกรม อายุ 51 ปี น้องสาวและสามีมาสอบสวนหลังให้การขัดแย้ง ขณะที่ พฐ.ตรวจรถกระบะและรถ จยย.ของผู้ต้องสงสัยทั้ง 2 คน พบมีดสั้น 5 เล่ม นำหลักฐานทั้งหมดส่งให้ พฐ.ตรวจหาดีเอ็นเอและรอยนิ้วมือแฝง

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 11 พ.ย. ที่ สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี พล.ต.ต.ยุทธนา จอนขุน ผบก.ภ.จ.ปทุมธานี พ.ต.อ.พีรพล โชติกเสถียร รอง ผบก.ภ.จ.ปทุมธานี พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ มิตรปราสาท ผกก.สภ.คลองหลวง พ.ต.ท.สิรภพ บัวหลวง สว.สส.สภ.คลองหลวง พ.ต.ท.วีระ สุขชนะ สว.สส.สภ.คลองหลวง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.คลองหลวง และตำรวจสืบสวน ภ.จ.ปทุมธานี ประชุมติดตามความคืบหน้าคดีใช้เวลาประชุมกว่า 1 ชม.

พล.ต.ต.ยุทธนา จอนขุน ผบก.ภ.จ.ปทุมธานี กล่าวว่า สั่งการให้ตำรวจสืบสวน สภ.คลองหลวงและสืบสวน ภ.จ.ปทุมธานี ตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพื่อหาเบาะแสและหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ พฐ.เข้ามาตรวจที่เกิดเหตุอีกครั้งเพราะหลักฐานยังไม่ครอบคลุม ในส่วนของการสอบพยานเรียกน้องสาวผู้เสียชีวิตและสามีที่อยู่ใกล้ชิดกับปลัดนกมาสอบสวน ทั้ง 2 คนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ขณะที่พยานหลักฐานทางวิทยาศาสตร์เป็น เล็บ เส้นผม และสร้อยคอทองคำ ส่งไปให้พฐ.ตรวจสอบแล้ว เพื่อให้รู้ว่ามีดีเอ็นเอของผู้ใดแปลกปลอมอยู่หรือไม่ พยานหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ค่อนข้างสำคัญมาก ตำรวจไม่ได้เน้นไปที่คนใกล้ชิดเพียงอย่างเดียว ยังไปตรวจสอบเพื่อนบ้านใกล้เคียงหน้าซอย และท้ายซอยเพื่อให้ข้อมูลมากที่สุด

ต่อมานายภูชิต เทพพิมล ลูกชายปลัดนก เดินทางมาที่ สภ.คลองหลวง เปิดเผยว่า วันนี้มาให้ปากคำเพิ่มเติมต่อพนักงานสอบสวนประเด็นที่ อยากรู้ว่า ตนเข้าไปบ้านแม่ตอนกี่โมง แล้วออกกี่โมง ส่วนผ้าที่พันแขนของแม่ ตนไม่เคยเห็นผ้าผืนนี้ ไม่ใช่ของแม่แน่นอนและยังคาใจคนใกล้ชิดแม่ แต่ขอให้เป็นเรื่องของตำรวจดำเนินการ ส่วนศพแม่ตั้งสวดอยู่ที่วัดเกิดคลองสาม ศาลา 2 ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี กำหนดฌาปนกิจในวันที่ 14 พ.ย. เวลา 16.00 น.

ขณะที่ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ (ผบช.สพฐ.ตร.) เดินทางไปที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 1 เพื่อประชุมติดตามและเร่งรัดการตรวจพิสูจน์วัตถุพยานหลักฐานต่างๆในคดีฆ่าปลัดนก ภายหลังการประชุม พล.ต.ท.ไตรรงค์กล่าวว่า หลังเกิดเหตุสั่งการให้เจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 1 ปทุมธานี เข้าร่วมตรวจสถานที่เกิดเหตุ และตรวจเก็บวัตถุพยานหลักฐานต่างๆ รับรายงานว่า ตรวจเก็บวัตถุพยานที่เกี่ยวข้องเกือบ 50 รายการ นอกจากนี้ยังรับมอบวัตถุพยานเพิ่มเติมจากพนักงานสอบสวน เป็นวัตถุพยานสำคัญที่สามารถเชื่อมโยงและระบุผู้กระทำผิด ขณะนี้รายงานผลการตรวจพิสูจน์เสร็จสิ้นแล้ว และมอบให้ตำรวจ สภ.คลองหลวง เพื่อนำไปขอศาลออกหมายจับต่อไป และในส่วนวัตถุพยานอื่นๆที่ตรวจเก็บในสถานที่เกิดเหตุนั้น อยู่ระหว่างการตรวจพิสูจน์จะเร่งรัดติดตามการตรวจพิสูจน์ และส่งมอบรายงานผลการตรวจพิสูจน์ทั้งหมดให้กับพนักงานสอบสวนต่อไป

ต่อมาเวลา 16.30 น. พนักงานสอบสวนสภ.คลองหลวง ขออนุมัติหมายจับจากศาลธัญบุรี จับกุมนายประทิน หรือหนุ่ม เกตุลาพร อายุ 43 ปี บ้านเลขที่ 16/2 หมู่ 9 ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี สามีของนางบงกช แก้วกรม อายุ 51 ปี ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และพกพาอาวุธมีดไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ ตรวจรถกระบะของนางบงกช และรถ จยย.ของนายประทินพบมีดพับ 4 เล่ม ตรวจค้นตัวนายประทินพบมีดพับอีก 1 เล่ม รวม 5 เล่ม อ้างว่าชอบสะสมซื้อมาจากประเทศญี่ปุ่น จากนั้นส่งให้ พฐ.ตรวจหาดีเอ็นเอพบว่า มีดพับที่ตรวจพบภายในตัวนายประทินพบดีเอ็นเอคราบเลือดของปลัดนก คาดหลังก่อเหตุฆ่านายประทินนำมีดไปล้างคราบเลือดแล้วพกติดตัวตลอด ก่อนหน้านี้ตำรวจเรียกนางบงกชและนายประทินมาสอบสวนหลายครั้ง แต่ทั้งคู่ให้การปฏิเสธมาโดยตลอด แต่พยานและหลักฐานที่อ้างอิงไม่สมเหตุสมผล กระทั่งมีหลักฐานจาก พฐ.ยืนยันนายประทินเป็นคนก่อเหตุฆ่าปลัดนก ส่วนนางบงกชจะเกี่ยวข้องหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐาน

แนวทางการสืบสวนทราบว่า นายประทินทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ป้องกันสาธารณภัย อบต.คลองสาม ตั้งแต่ปี 2549 เป็นสายงานโดยตรงของปลัดนก ก่อนหน้านี้นายประทินมีนิสัยเป็นนักเลงหัวไม้มีประวัติติดคุกมาเมื่อ 3 ปีก่อน ภายหลังมาคบหากับนางบงกชน้องสาวปลัดนกมาประมาณ 3 ปี เมื่อเดือน มี.ค.67 ทั้งคู่ย้ายมาอยู่ด้วยกัน ทำให้ปลัดนกไม่พอใจและไม่ชอบนายประทินบอกกับน้องสาวว่า ให้เลิกกับนายประทินแล้วจะยกที่ดินให้ 1 แปลง คาดว่านายประทินรู้เรื่องดังกล่าวเกิดความแค้นก่อเหตุฆ่าพี่เมีย