คดีฉาว “ตำรวจไซเบอร์ 1” ทนายความพานายไซ ชาวจีนสัญชาติ วานูอาตู ภรรยาชาวจีนและแม่บ้านแจ้งความพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง มีแก๊งตำรวจ “นักบิน” อุ้มข่มขู่เพื่อรีดเอาเงินไทย 300 ล้านบาท
อ้างหมายค้นปลอม
ผู้เสียหายบอกไม่มีเงิน ต่อรองกันไปลดลงมาเหลือ 5 ล้านบาท หลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. สั่ง พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. สืบสวนพบว่า มีตำรวจหลายหน่วยเข้าร่วมอยู่ในทีม “อุ้มรีดคนจีน”
แนวทางสืบสวนมีตำรวจ บก.สอท.1 เป็นผู้หางานมาวางแผนข่มขู่รีดไถเงินเหยื่อ โดยมีตำรวจหลายหน่วยเข้าร่วมทีม ที่น่าตกใจข่าวว่า ตำรวจที่ร่วมอยู่ในทีมผู้ก่อเหตุ ส่วนใหญ่เป็นตำรวจสังกัด บก.สอท.1
บางคนเพิ่งย้ายออกจาก “ตำรวจไซเบอร์ 1” ช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ก่อนเข้ามาร่วมทีมเฉพาะกิจ
ก่อเหตุเย้ยกฎหมาย
บุกเข้าบ้านผู้เสียหาย จ.สมุทรปราการ แจ้งว่าทำผิดกฎหมาย เรียกเอาเงิน 300 ล้านบาท ต่อรองเหลือ 5 ล้านบาท เหิมเกริมขนาดพาเหยื่อลงบันทึกตรวจสอบประวัติที่ บก.สอท.1 อ้างไม่พบความผิด ปล่อยตัวเหยื่อ
สืบนครบาลเล่นบท “ตำรวจจับตำรวจ” สืบหาหลักฐานครบโยงทีมตำรวจก่อเหตุที่พยายามทำลายร่องรอยหลักฐาน “กล้องวงจรปิด” ขอออกหมายจับและจับกุมทีมตำรวจร่วมก่อเหตุ ส่วน 2 ล่ามหลบหนี
ความเด็ดขาด ผบ.ตร.ให้สืบนครบาลทำคดีทางลับ “ตัดนิ้วร้าย” แต่ที่เป็นคำถามแรกว่า ตำรวจแก๊งนี้กล้าเรียกเงิน 300 ล้านบาท ก่อคดีครั้งแรกหรือทำกันเป็นทีมกันมานาน และมี “คนใหญ่” อยู่เบื้องหลังหรือไม่
น่าแปลก สืบนครบาล ทำงานเงียบๆมานานไม่ให้หน่วยเสียหาย แต่หลังจับผู้ต้องหาส่ง บก.สอท.1 กลับมีคนในจงใจปล่อยให้เป็นข่าว “สื่อออนไลน์” เป็นอีกประเด็นว่า คนที่ส่งข่าวหวังผลอะไรในหน่วยงาน
เป็นไปตามข่าวที่ว่า “เล่นกันเอง” หรือไม่.
“เพลิงพยัคฆ์”
pluengpayak@thairath.co.th
คลิกอ่านคอลัมน์ “เลขที่1 วิภาวดีฯ” เพิ่มเติม
แหล่งข่าว: ไทยรัฐ