นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.)เปิดเผยว่า จากสถานการณ์สุขภาพจิตของผู้เรียนในปัจจุบัน พบว่าปัญหาสุขภาวะทางจิตไม่เพียงแต่เกิดจากสภาพแวดล้อมในบ้านหรือสังคม แต่ยังเกี่ยวข้องกับความเครียดจากการเรียน การแข่งขันในระบบการศึกษา และความคาดหวังจากครอบครัวและคนรอบข้าง ส่งผลให้เด็กและเยาวชนหลายคนไม่สามารถจัดการกับอารมณ์และความเครียดได้ ซึ่งปัญหานี้ต้องได้รับการดูแลและแก้ไขอย่างจริงจัง โดยการสร้างระบบการสนับสนุนด้านสุขภาพจิตในสถานศึกษา เพื่อให้ผู้เรียนเข้าถึงการช่วยเหลือได้อย่างง่ายและรวดเร็วโดยไม่ต้องรอถึง ขั้นวิกฤติ ซึ่งที่ผ่านมา ศธ.ได้ร่วมมือกับกรมสุขภาพจิต สถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เขต 13 และแอปพลิเคชัน ooca ทำโครงการ “ที่พักใจให้เยาวชน Wall of Sharing” นำร่องในพื้นที่กรุงเทพฯ เพื่อสร้างพื้นที่ปลอดภัย ดูแลสุขภาพจิตให้นักเรียน ส่งเสริมความรู้แบบมีส่วนร่วมในการรับมือกับปัญหาสุขภาพจิตในสถานศึกษา และยังมีการจัดตั้งศูนย์ให้คำปรึกษาด้านจิตวิทยาในโรงเรียน ฝึกอบรมครูและบุคลากรในสถานศึกษาให้สามารถสังเกตและดูแลนักเรียนที่อาจจะมีปัญหาสุขภาวะทางจิต พัฒนาระบบเทคโนโลยีใช้เป็นเครื่องมือนวัตกรรมสุขภาพจิต ทั้งมีแผนงานที่เน้นการพัฒนาคุณภาพชีวิตด้านร่างกายและจิตใจของนักเรียนผ่านกิจกรรมเรียนรู้ที่ช่วยลดความเครียดและเสริมสร้างสุขภาวะทางจิต
โฆษก ศธ.กล่าวอีกว่า สำหรับแนวทางในอนาคตที่วางไว้จะมีการส่งเสริมให้ทุกโรงเรียนในประเทศไทยตั้งกลุ่มสนับสนุนสุขภาวะทางจิตและจิตวิทยา ซึ่งจะช่วยให้เด็กและเยาวชนมีพื้นที่ในการแสดงความคิดเห็นและปรึกษาปัญหาได้อย่างเปิดเผย สร้างระบบที่สามารถช่วยเหลือนักเรียนได้ตั้งแต่แรกเริ่ม เพื่อลดปัญหาความเครียดในทุกระดับการศึกษาของประเทศไทย ดูแลสุขภาวะทางจิต ภาพรวมของผู้เรียนเพื่อจัดการกับปัญหานี้ได้อย่างยั่งยืน อยากเน้นย้ำไปถึงครูและเพื่อนสนิทที่ใกล้ชิดให้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับโรคซึมเศร้าว่าไม่ใช่เรื่องที่คิดไปเองแต่เป็นเรื่องที่เซนซิทีฟ อย่าตีตัวออกห่างเพียงเพราะกลัวว่าบางคำพูดหรือการกระทำจะไปทำร้ายความรู้สึกเพื่อนแบบไม่ได้ตั้งใจแล้วทำให้รู้สึกไม่ดี แต่ให้คอยสังเกตถามไถ่ด้วยความรู้สึกเห็นอกเห็นใจเพื่อลดกำแพงความกังวล หากครูพบเด็กที่น่าเป็นห่วงจริงๆ ควรส่งต่อให้นักจิตวิทยาเด็กเข้ามาพูดคุยดูแลใกล้ชิด
“ศธ.ไม่เพียงแต่ให้ความสำคัญกับด้านการเรียนเท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญกับสุขภาวะทางจิตที่ดีของผู้เรียนผ่านโครงการ “Wall of Sharing” จะช่วยเสริมสร้างความมั่นคงในชีวิตของเด็กและเยาวชน เกิดความสมดุลทั้งด้านวิชาการและการดูแลสุขภาพจิตควบคู่กัน” โฆษก ศธ.กล่าว.
แหล่งข่าว: ไทยรัฐ