ผู้เสียหายพุ่งกว่า 200 คัน เหตุผู้รับเหมาเทลาดยางมะตอยไม่ติดป้ายเตือน เทศบาลฯ ตื่น พร้อมประสานชดใช้ค่าเสียหายและเยียวยา ด้านคาร์แคร์รับลูกค้าทั้งวัน แนะรีบล้าง อย่าให้โดนแดด

วันที่ 13 ต.ค.67 จากกรณีผู้ใช้รถที่สัญจรผ่านถนนสายขนานทางรถไฟ (ใต้) หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า ถนนสายทางรถไฟวังตอ ซึ่งอยู่ในระหว่างที่เทศบาลนครตรัง ได้รับความเสียหายจากการที่ผู้รับเหมา มีการลาดยางมะตอยเต็มพื้นถนนตลอดสาย แต่ไม่มีการปิดกั้นทางสัญจร หรือตั้งป้ายเตือนห้ามใช้เส้นทาง ตลอดจนสัญญาณเตือนต่างๆ จนทำให้รถยนต์ รถจักรยานยนต์ที่ขับผ่านเส้นทางดังกล่าว ได้รับความเสียหายจากยางมะตอยกระเด็นขึ้นมาติดใต้ท้องรถ ใต้ซุ้มล้อ และพื้นผิวสีตัวรถ เบื้องต้นประมาณ 200 คัน

ต่อมาผู้เสียหายได้มีการโพสต์เตือน พร้อมทั้งหาความรับผิดชอบจากหน่วยงานที่รับผิดชอบ ขณะเดียวกันผู้เสียหายได้ทยอยเดินทางไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ที่ สภ.เมืองตรัง

ล่าสุด เพจเฟซบุ๊ก “PR Nakorntrang News” ซึ่งเป็นเพจเฟซบุ๊กเทศบาลนครตรัง ได้โพสต์ข้อความ ระบุว่า ดร.สัญญา ศรีวิเชียร นายกเทศมนตรีนครตรัง หลังทราบเรื่องไม่ได้นิ่งนอนใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้สั่งการให้แก้ไขทันทีและได้กำชับทุกฝ่ายที่รับผิดชอบให้ดำเนินการส่วนที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด โดยสั่งการให้ผู้รับจ้างจัดทำป้ายไวนิล “ทางปิด ห้ามเข้า” ตามมาตรฐานก่อสร้าง ไปติดตั้งที่ทางเข้าถนนรวม 3 จุด คือ ถนนกันตัง ถนนคลองน้ำเจ็ด และถนนวังตอ รวมทั้งให้นำแผงเหล็กหรือแบริเออร์กั้นปิดพื้นที่สร้างถนนแล้วตั้งแต่ช่วงค่ำของวานนี้ (12 ต.ค.67)

ในส่วนของผู้เสียหายหากมีการเรียกร้องค่าเสียหาย ทางเทศบาลยินดีประสานผู้รับจ้างเพื่อชดใช้ค่าเสียหายและเยียวยา ซึ่งสามารถประสานมายังสำนักช่างเทศบาลนครตรัง อย่างไรก็ตามได้กำชับผู้คุมงานและผู้รับจ้าง ดำเนินการติดตั้งป้ายเตือน สัญญาณไฟต่างๆอย่างชัดเจน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหานี้ซ้ำอีก

ด้านนายสุวิทย์ มักคุ้น ผอ.สำนักช่าง เทศบาลนครตรัง กล่าวว่า ทางสำนักช่างเทศบาลตรังรับทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว และได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบตั้งแต่วันที่ 12 ต.ค.67 โดยล่าสุดได้เรียกผู้รับจ้างเข้าประชุมเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว ในวันที่ 15 ต.ค.67 เพื่อหาแนวทางเยียวยาผู้เดือดร้อน และจะประสานขอข้อมูลจาก สภ.เมืองตรัง เพื่อทราบจำนวนผู้เดือดร้อน และเยียวยาตามลำดับต่อไป

ขณะที่บรรยากาศ ที่ สภ.เมืองตรัง ได้มีผู้เสียหายจากเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เมื่อวานนี้ที่ผ่านมา จนพื้นกระเบื้องบน สภ.เมืองตรัง เต็มไปด้วยคราบยางมะตอย ที่ติดมากับรองเท้าของผู้เสียหาย

นางดวงพร อ้นเพ็ง อายุ 58 ปี หนึ่งในผู้เสียหาย เปิดเผยว่า เลิกงานขับรถจักรยานยนต์จะกลับบ้าน มาถึงถนนดังกล่าว ไม่มีป้ายเตือนไดๆ ก็ขับเข้าไป รู้สึกว่ารถสัมผัสพื้นถนนนิ่มๆ จึงจอดรถลงมาดู ปรากฏว่ามียางมะตอยติดเต็มล้อรถ และติดรองเท้าคู่ละกว่า 1,000 บาท เต็มทั้งคู่จนต้องทิ้ง ส่วนรถนำไปเข้าคาร์แคร์ เสียค่าบริการกว่า 500 บาท แต่ก็ไม่สามารถขัดคราบออกได้ทั้งหมด จึงอยากให้ผู้รับผิดชอบ ออกมาชดใช้ค่าเสียหาย ค่าเสียเวลา ให้กับผู้เสียหาย ที่มีอยู่หลายรายด้วย

ส่วนทางด้านบรรยากาศที่ร้านคาร์แคร์ ในเขตเทศบาลนครตรัง คึกคัก ผู้เสียหายได้นำรถเข้ามาใช้บริการให้ทางร้านขจัดคราบยางมะตอยเป็นจำนวนมาก โดยค่าบริการ สำหรับรถจักรยานยนต์ เริ่มต้นที่ 500 บาท และรถยนต์เริ่มต้นที่ 1,000 – 3,000 บาท

นายอัรสิทธิ์ มีวัฒนะ อายุ 42 ปี เจ้าของคาร์แคร์ เผยว่า ตั้งแต่เกิดเหตุ มีลูกค้าเข้ามาสอบถามและนำรถเข้ามาไม่ต่ำกว่า 30 คัน แต่ทางร้านรับได้ไม่เยอะ เนื่องจากเมื่อขจัดคราบคันแรกๆไปแล้ว รู้เลยว่ามันขจัดยาก บางคันต้องใช้เวลาถึง 6 ชั่วโมง ถึงจะออกได้ทั้งหมด ยากง่ายขึ้นอยู่กับลักษณะของยาง ยิ่งยางใหญ่ดอกลึก ยิ่งยาก เพราะยางมะตอยติดมาเยอะ แล้วฝังเข้าไปอยู่ในดอกยาง และยิ่งปล่อยให้แห้งยางจะติดแน่นกว่าเดิม ส่วนใหญ่ก็จะติดที่ล้อยาง ซุ้มล้อ และช่วงล่าง ทั้งนี้ อยากแนะนำว่า อย่าให้รถโดนแดด เพราะยางมะตอยจะแห้ง และยิ่งกำจัดออกยาก ทางที่ดีพยายามไปล้างให้เร็วที่สุด

ขณะที่ทาง นายบัณฑิต คณะสุวรรณ์ ผอ.สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำ จ.ตรัง กล่าวว่า ก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุการณ์นี้ ทางสำนักงาน ป.ป.ช.ตรัง ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบโครงการของเทศบาลนครตรังไปจำนวน 24 โครงการ รวมทั้งโครงการถนนสายดังกล่าวนี้ด้วย ซึ่งใช้งบประมาณจำนวน 24 โครงการ ไปกว่า 130 ล้านบาท ในถนนหลายสายเขตเทศบาลนครตรัง และมีชาวบ้านร้องเรียนมาก่อนหน้านี้ว่าถนนบางสายไม่ได้มีความชำรุด แต่มีการขุดรื้อเพื่อทำถนนใหม่

หลังจากตรวจสอบในเบื้องต้น ในส่วนของการกระทำความผิดยังไม่ปรากฏ แต่พบเจอสิ่งที่น่าสังเกตในเรื่องของการเสนอราคาของผู้ประกอบการ แต่ละรายเสนอราคาใกล้เคียงกันมาก บางรายเสนอราคาต่ำกว่าราคากลางไม่มาก บางรายเสนอราคาสูงกว่าราคากลาง และในบางโครงการเสนอราคาห่างกันไม่มาก ประมาณ 400-500 บาท ซึ่งในส่วนนี้ทาง ป.ป.ช.ประจำ จ.ตรัง จะเฝ้าระวัง ติดตาม และขอข้อมูลอย่างต่อเนื่องในเรื่องนี้ เพื่อดูรายละเอียดว่ามีพิรุธตรงไหนอย่างไร และจะตรวจสอบโครงการอื่นๆอีก เพราะทราบว่ายังมีโครงการอื่นๆ อีก ที่จะดำเนินการประมูลงานก่อสร้าง.