จ.กาญจนบุรี มีเหตุระทึก อาจารย์-กลุ่มนักศึกษา ม.มหิดล เดินเข้าป่าสำรวจด้านธรณีศาสตร์ แต่เกิดหลงติดต่อไม่ได้ ทีมกู้ภัยจึงระดมกำลังค้นหา
จากกรณีที่เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา โลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพขอความช่วยเหลือ กลุ่มนักศึกษาและอาจารย์ที่เดินหลงป่า หาทางออกมาไม่ได้ ใกล้เคียง ม.มหิดล กาญจนบุรี ทำให้หลายคนเป็นห่วงดังที่นำเสนอข่าวไปนั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีดังกล่าวว่าเป็นคณะอาจารย์และนักศึกษา สาขาวิชาธรณีศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตกาญจนบุรี ลงพื้นที่ปฏิบัติการศึกษาพื้นที่ด้านธรณีศาสตร์ ที่ป่าเขาช่องกระทิง ที่ครอบคลุมพื้นที่ อ.ไทรโยค และ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี
จนกระทั่งไปถึงพื้นที่บ้านท่ากะทิ หมู่ที่ 6 ต.ช่องสะเดา อ.เมืองกาญจนบุรี ที่เป็นเขาสูงชัน ซึ่งคณะได้จัดทำแผนที่พิกัดเอาไว้ก่อนแล้ว แต่ปรากฏว่าสัญญาณโทรศัพท์ไม่มี ทำให้คณะเดินหลงทาง เหตุเกิดเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา ก่อนคณะฯ จะประสานขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ ให้ช่วยมานำคณะออกจากพื้นที่ป่าก่อนท้องฟ้าจะมืดค่ำ เนื่องจากเกรงเรื่องของความปลอดภัย
ต่อมาเวลาประมาณ 20.45 น. วันเดียวกัน คณะดังกล่าว ซึ่งมีทั้งหมด 9 คน ประกอบด้วย อาจารย์ ดร.ปริญญา พุทธาภิบาล ที่ปรึกษารองอธิการบดีฝ่ายวิทยาเขตกาญจนบุรี มหาวิทยาลัยมหิดล และผู้เชี่ยวชาญด้านธรณีศาสตร์ พร้อมอาจารย์ ดร.สุทัศชา หงษ์ศรีสวัสดิ์ อาจารย์ประจำสาขาวิชาธรณีศาสตร์
รวมทั้งอาจารย์ด้านธรณีศาสตร์ จากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน และนักศึกษาด้านธรณีศาสตร์ ม.มหิดลวิทยาเขต กาญจนบุรี 5 คน และนักศึกษาด้านธรณีศาสตร์ จากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน 1 คน ได้เดินทางถึงโรงพยาบาลไทรโยค เพื่อแพทย์ทำการรักษาอาการบาดเจ็บ และตรวจร่างกายแล้ว โดยมีตำรวจท่องเที่ยวกาญจนบุรี ร่วมให้การช่วยเหลือในครั้งนี้ด้วย เนื่องจากมีอาจารย์และนักศึกษาที่เป็นชาวจีน เพื่ออำนวยความสะดวกในด้านต่างๆ
โดย อาจารย์ ดร.ปริญญา พุทธาภิบาล อาจารย์ประจำสาขาวิชาธรณีศาสตร์ ที่ปรึกษารองอธิการบดีฝ่ายวิทยาเขตกาญจนบุรี มหาวิทยาลัยมหิดล และผู้เชี่ยวชาญด้านธรณีศาสตร์ เปิดเผยว่า เนื่องจากในระหว่างที่มีการเดินสำรวจอยู่นั้น มีหนึ่งในนักศึกษาเกิดอุบัติเหตุลื่นไถลจนได้รับบาดเจ็บ แล้วก็มีหินตกลงมาใส่ ทำให้มีนักศึกษาอีก 2 คนได้รับบาดเจ็บ ตนพิจารณาแล้วว่าถ้าเกิดเดินทางย้อนกลับไปทางเดิม ที่จะไปตรงจุดที่มีการนัดหมายไว้อาจจะไม่ทันมืด จึงได้วางแผนใหม่ในการที่จะเดินลงมาจากเขา แต่ก็ด้วยว่าสภาพของเด็กนักเรียนมีอาการอิดโรย และได้รับบาดเจ็บจึงทำให้การเคลื่อนตัวช้าและต้องใช้เวลา
อีกส่วนหนึ่ง ก็คือนักศึกษาได้ข้อมูลมาจากมูลนิธิฯ และคนที่ให้ข้อมูลผ่านโซเชียล บอกว่าให้ระมัดระวังจันห้าว ซึ่งเป็นการดักยิงสัตว์ป่าซึ่งเป็นสิ่งที่อันตรายมาก จึงได้ตัดสินใจประสานขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ และเมื่อติดต่อทางมูลนิธิฯ ได้แล้ว คณะจึงทำการหยุดพักรอเพื่อให้เจ้าหน้าที่วางแผนช่วยเหลือ
โดยชุดแรกจะนำอาหาร และน้ำขึ้นไปให้ทานและประเมินสถานการณ์ และค่อยทำการลำเลียงลงมาอย่างปลอดภัยในที่สุด อย่างไรก็ตามต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ สำนักงานใหญ่และจุดไผ่ล้อม มูลนิธิกู้ภัยกาญจนบุรี รวมทั้ง นายอำเภอไทรโยค ผกก.สภ.ไทรโยค และสาธารณสุขอำเภอ ผอ.รพ.ไทรโยค และหน่วยงานต่างๆ ที่เข้าให้การช่วยเหลือคณะอาจารย์และนักศึกษาฯ ในครั้งนี้
ต่อมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวกาญจนบุรี ทราบข่าวได้เดินไปยังโรงพยาบาลไทรโยค เนื่องจากทราบว่ามีนักศึกษาเป็นชาวต่างชาติ ร่วมในการไปทัศนศึกษาภาควิชาธรณีศาสตร์ และได้รับบาดเจ็บด้วย ทางผู้บังคับบัญชาตำรวจท่องเที่ยว จึงได้สั่งการให้เข้าไปดูช่วยเหลืออำนวยความสะดวกในเรื่องภาษาอีกทางหนึ่ง
นายกฤษณ์ ขาวบาง ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายวิทยาเขตกาญจนบุรี เปิดเผยว่า ตอนนี้ก็ได้พบกับทีมนักศึกษากับอาจารย์ที่เข้าไปในป่า โดยกู้ภัยพิทักษ์กาญจน์เรียบร้อยแล้ว โดยนักศึกษาปลอดภัยทุกคนก็กำลังทยอยกลับมาที่มหาวิทยาลัยทุกคน
ก็ขอขอบคุณท่านนายอำเภอไทรโยค นายเนรมิต เหลืองอร่ามฟ้า และท่านสาธารณสุขอำเภอ ที่ได้เป็นห่วง ท่านผู้อำนวยการโรงพยาบาลไทรโยค ที่ได้เป็นห่วงทีมนักศึกษา และอาจารย์ของมหาวิทยาลัย ก็ตอนนี้ปลอดภัยดี พอกลับมาถึงมหาวิทยาลัยก็จะไปตรวจสภาพร่างกาย น้องๆ และอาจารย์วิทยาเขต ก็ฝากขอบคุณทุกท่านมา ในที่นี้ก็ขอขอบคุณมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ด้วยที่ได้เสียสละเวลาช่วยเหลือเหตุการณ์ในครั้งนี้
ด้าน อาจารย์ ดร.อภิวุฒิ วีรวินันทนกุล อาจารย์ประจำสาขาวิชาธรณีศาสตร์ เล่าว่า กิจกรรมนี้จะมีการแบ่งกลุ่มนักศึกษาออกเป็น 3 กลุ่ม แต่ละกลุ่มจะมอบหมายสำรวจดูหินในพื้นที่ของตัวเอง เรามีการกำหนดพื้นที่ให้ ซึ่งแต่ละกลุ่มก็จะมีการวางแผนในการออกสนามว่า วันนี้จะออกไปที่ไหนบ้าง เราก็จะให้เขาออกเดินทางไปกับรถที่เราจัดไว้เป็นรถตู้ เราก็ได้จัดการให้เขาได้เดินทางด้วยดี ทีนี้พอเขาไปถึงจุดพื้นที่ศึกษาแล้วก็จะทำการเดินสำรวจ ซึ่งเวลาเดินสำรวจหินเขาก็จะพยายามเข้าไปใกล้ๆ แถวภูเขา
โดยปกติแล้วพื้นที่ภูเขาจะเป็นป่า เผอิญว่าเขาได้เข้าไปตั้งแต่ตอนเช้า ประมาณ 9 โมง เขาก็ทำการสำรวจไปเรื่อยๆ พอถึงตอนประมาณบ่าย 3 เขาก็กำลังหาทางกลับ พอหันกลับเส้นทางที่จะไปต่อก็ไปไม่ได้ พอจะย้อนกลับมาเส้นทางมันก็ไม่เหมือนเดิม ป่ามันเปลี่ยนแปลงไปตามเวลา
เขาก็เลยพยายามหาหนทางลงอยู่ ซึ่งในพื้นที่ทำการศึกษาผมทราบมาจะอยู่ตรงบริเวณ ตรงช่องสะเดาซึ่งสามารถมองเห็นถนนข้างหน้าได้ตลอดเวลา เขาก็พยายามหาทางลงที่ปลอดภัยตั้งแต่บ่าย 3 คือเขาไม่สามารถหาทางที่ขึ้นมาได้เพราะต้นไม้มันไม่เหมือนเดิม ก็เลยลงมาได้ช้า บางที่ก็กลายเป็นว่าเปลี่ยนทิศทางเป็นที่ที่ชันมากขึ้น กลุ่มที่หายไปเป็นกลุ่มที่ 3 กลุ่มอื่นกลับมาโดยสวัสดิภาพ นักศึกษาทั้งหมดเป็นนักศึกษาทางด้านธรณีศาสตร์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะสำรวจมีจำนวน 3 กลุ่ม โดยแบ่งเป็นกลุ่มที่ 1 และกลุ่มที่ 2 สามารถกลับออกมาได้ ส่วนกลุ่มที่ 3 คือกลุ่มที่ประสบเหตุบาดเจ็บรอการช่วยเหลือ โดยจำนวนแต่ละกลุ่มจะเท่าๆ กัน มีอาจารย์ไทย 2-3 คน กับอาจารย์จีนกลุ่มละ 2-3 คน และนักศึกษาไทย 4-5 คน นักศึกษาจีน 1-2 คน ประมาณกลุ่มละ 9-10 คน
กลุ่มที่ 3 มีทั้งหมด 9 คน เป็นอาจารย์จีน 1 คน นักศึกษาจีน 1 คน ที่เหลือเป็นอาจารย์ไทย 2 คน และนักศึกษาไทย 5 คน กิจกรรมนี้จัดมาสามวันแล้ว สำรวจศึกษาธรณีวิทยา ทั้ง 3 กลุ่ม ออกเดินสำรวจตั้งแต่ 8.30 น. จนกระทั่งถึงเวลา 15.00 น. ไม่สามารถจะติดต่อกลุ่ม 3 ได้
ส่วนผู้บาดเจ็บมีทั้งหมด 4 ราย เป็นนักศึกษาไทย แบ่งเป็นชาย 2 หญิง 2 หญิงคนแรกได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยที่นิ้วมือขวา และแขนซ้าย หญิงคนที่ 2 ข้อเท้าซ้ายแพลง ผ้าก็อตพัน ส่วนผู้ชายมีแผลเล็กน้อยที่ใต้หัวเข่าทั้งสองข้าง และชายคนสุดท้าย ที่นิ้วมือทั้งสองข้าง ทั้งหมดปลอดภัย.
แหล่งข่าว: ไทยรัฐ