เจ้าหน้าที่ชุดพิสูจน์หลักฐาน 10 พบอาวุธปืนที่คนร้ายบุกยิงนายวิเชษฐ์ ไทยทองนุ่ม นายกเทศมนตรีตำบลรือเสาะ (ทต.รือเสาะ) หรือนายกอาร์ม ใช้ก่อเหตุมาแล้ว 24 คดี เชื่อมีคนในโรงงานรู้เห็น ขณะที่ภรรยาเผย ผู้ว่าฯ ให้ความมั่นใจ รับปากจะจับคนร้ายมาลงโทษให้ได้
เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2567 ความคืบหน้ากรณีที่คนร้ายใช้อาวุธปืนเข้าไปบุกยิงนายวิเชษฐ์ ไทยทองนุ่ม อายุ 55 ปี นายกเทศมนตรีตำบลรือเสาะ (ทต.รือเสาะ) หรือนายกอาร์ม เสียชีวิตในห้องประชุมของ หจก.แฮนด์ อิน แฮนด์ นั้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เก็บรวบรวมพยานหลักฐานเป็นปลอกกระสุนปืน เอ็ม.16 จำนวน 19 ปลอก ในการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ชุดพิสูจน์หลักฐาน 10 พบว่า ปลอกกระสุนปืนดังกล่าวเป็นปลอกกระสุนปืน เอ็ม.16 ที่ยิงมาจากอาวุธปืน AK 102 ซึ่งสามารถใช้กระสุนปืนแบบเดียวกันได้ ที่คนร้ายใช้ก่อเหตุคดีความมั่นคงในพื้นที่ อ.ตากใบ และในพื้นที่ อ.รือเสาะ มาทั้งสิ้น 23 คดี ซึ่งคดีบุกยิงนายวิเชษฐ์ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลรือเสาะเป็นคดีที่ 24
โดยคนร้ายก่อนที่จะใช้ก่อเหตุบุกยิงนายวิเชษฐ์ นายกเทศมนตรีตำบลรือเสาะ คนร้ายได้ใช้อาวุธปืนกระบอกดังกล่าวก่อเหตุตามประกบยิง สมาชิกเอกอมร บุตรทองบุญ และสมาชิกเอกสนธยา ชัยสิทธิ์ ซึ่งเป็นชุดรักษาความปลอดภัยครูโรงเรียนสิทธิสารประดิษฐ์ ต.พร่อน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส เสียชีวิต เมื่อวันที่ 19 ก.พ.67 ที่ผ่านมา ที่สำคัญในคดีนี้ เชื่อว่ามีคนภายในโรงงานรู้เห็นหรือแจ้งเบาะแส มิเช่นนั้นกลุ่มคนร้ายจะเจาะจงบุกเข้าไปยิงนายวิเชษฐ์ในห้องประชุมได้อย่างไร โดยที่ไม่ต้องมีการค้นหาเป้าหมาย ที่เชื่อว่ากลุ่มคนร้ายได้ล็อกไว้โดยที่ไม่ได้ทำร้ายบุคคลอีก 3 คน ที่ได้มีการพูดคุยอยู่กับนายวิเชษฐ์
แหล่งข่าวจากเจ้าหน้าที่หน่วยความมั่นคง ซึ่งเป็นชุดคลี่คลายคดีความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ แจ้งว่า จากการจับกุมสมาชิกกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงรายหนึ่งในพื้นที่ อ.ตากใบ คือนายซูกิฟรี มือราเฮง ในช่วงก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ได้ทำการสอบสวนปากคำถึงการเคลื่อนไหวของสมาชิกในกลุ่ม จะมีความเชื่อมโยงกันระหว่างสมาชิกกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ อ.ตากใบ กับ อ.รือเสาะ โดยจะมีอาวุธปืนเป็นของส่วนรวม หรืออาวุธปืนเป็นของกองกลางใช้ก่อเหตุร่วมกัน ซึ่งจะรู้ในสมาชิกกลุ่มว่าปืนของกลางหรือของส่วนรวมจะแอบซุกซ่อนไว้ที่ใด ที่สมาชิกในกลุ่มจะสามารถนำเอาออกมาใช้ก่อเหตุได้ทันที และเมื่อก่อเหตุแล้วเสร็จจะต้องนำกลับไปไว้ที่เดิม ซึ่งจะมีการเคลื่อนย้ายที่เก็บของกลางอยู่อย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันความผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้นและป้องกันการตรวจยึดของเจ้าหน้าที่
นางรัชดา ไทยทองนุ่ม ภรรยานายวิเชษฐ์ หรือนายกอาร์ม กล่าวว่า มันเป็นเหตุการณ์ที่กะทันหัน ถ้าแกไม่สบายป่วย พี่ก็จะได้ดูแลพูดคุยสอบถามและรักษา แกไปแบบปัจจุบันทันด่วน ไม่ได้มีการร่ำลา ไม่ได้กล่าวอำลาเลย เช้าวันเกิดเหตุแกมาส่งพี่ที่โรงเรียนอนุบาลรือเสาะ แล้วแกก็ขับรถไปทำงาน แล้วประมาณ 11 โมงเศษๆ ก็มีน้องๆ แจ้งข่าวว่าแกถูกยิง ขอให้พ่ออาร์มให้เดินทางไปสู่ภพภูมิที่ดี ไม่ต้องกังวล
ในช่วงที่ผ่านมามีความภูมิใจในตัวสามี แกเป็นคนท้องถิ่น แกทำงานเพื่อคนในท้องถิ่น ตอนนี้ไม่ใช่เฉพาะท้องถิ่น แกทำงานสร้างคุณงามความดีสร้างคุณประโยชน์ให้กับจังหวัดด้วย เพราะว่าตำแหน่งหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายมันเยอะจนพี่จำไม่ได้ นอกจากนายกเทศมนตรีตำบลรือเสาะ ก็จะเป็นนายกสมาคมกีฬาเยอะแยะมากมาย ที่สะเทือนใจก็คือว่าโรงงานอุตสาหกรรมที่แกก่อตั้งมาด้วยมือ ตั้งแต่แกเขียนโครงการไปอุตสาหกรรมจังหวัด ไปอุตสาหกรรมภาค ไปกรุงเทพ แกทำด้วยมือของแกเอง จนก่อร่างสร้างตัวเป็นโรงงานมุ่งมั่นตั้งใจทุ่มเททุกอย่าง เพื่อให้สร้างเงิน สร้างงาน สร้างอาชีพคนในชุมชนชาวบ้านได้มีงานทำ แต่สุดท้ายตรงนั้นเป็นหัวใจของแก และไปเสียตรงนั้นมันสะเทือนใจ
“อีกไม่นานท่านนายกก็จะหมดวาระ ก็ไม่น่าจะเป็นประเด็นตรงนั้น แต่ในเรื่องอื่นๆ พี่ไม่ทราบจริงๆ เพราะว่าท่านนายกอาร์ม เป็นคนที่ไม่เอาปัญหาเข้าบ้านเลย กลับเข้าบ้านจะยิ้มแย้มแจ่มใสจะพูดคุยกับลูกภรรยาหลาน จะไม่รับภาระปัญหาที่สร้างความไม่สบายใจ จะไม่พูดให้ครอบครัวได้รับทราบเลย พี่เลยไม่ทราบว่าจะมีปัญหาขัดแย้งกับใครหรือเปล่า” นางรัชดา กล่าว
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงกรณีความคิดเห็นส่วนตัวที่คนร้ายบุกยิงสามีเสียชีวิตในครั้งนี้ คิดว่าน่าจะมาจากประเด็นใด นางรัชดา กล่าวว่า ไม่ทราบเลยค่ะ อันนี้ต้องรอการยืนยันจากเจ้าหน้าที่ ท่านผู้ว่าฯ ก็ให้ความมั่นใจว่าจะจับตัวคนร้ายมาให้ได้
แหล่งข่าว: ไทยรัฐ