ผลพวงของ พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติฉบับแก้ไขใหม่ทำให้การแต่งตั้งโยกย้าย “เจ้าสำนัก” สะดุดล่าช้ากว่ากองทัพอื่นที่เสร็จสิ้นลงตัวเริ่มต้นปฏิบัติหน้าที่กันเรียบร้อยหมดแล้ว

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธาน ก.ตร.จะได้สิทธิขาดหยิบตัวผู้เล่นลงกระดาน ตัดอำนาจ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ที่เกษียณอายุราชการออกจากเกมคัดตัว ผบ.ตร.คนใหม่ ไปเสนอที่ประชุม ก.ตร.ลงมติเห็นชอบเพื่อนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ

ระหว่างสุญญากาศ “ไร้เงา” ผู้นำตัวจริง พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผบช.สกพ.มีหนังสือบันทึกข้อความตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 335/2567 ลงวันที่ 26 ก.ย.2567 ให้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. เป็นผู้รักษาราชการแทนในตำแหน่ง ผบ.ตร. มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2567 เป็นการชั่วคราวอีกครั้ง

“ขัดตาทัพ” รอบนี้ต้องลุ้นกันอีกทีว่าจะได้นั่งตัวจริงหรือไม่

หลังจาก พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล เจอมรสุม “พ้นชายคา” ส่งให้บัญชี “แคนดิเดต” อยู่ในมือของ “นายกฯอิ๊งค์” เหลือเพียง 3 คน คือ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. เกษียณอายุราชการปี 2569 พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง จเรตำรวจแห่งชาติ เกษียณอายุราชการปี 2568 และ พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร.เกษียณอายุราชการปี 2569

อาวุโส ความรู้ ความสามารถ เป็นคุณสมบัติตาม “กฎเหล็ก” ของ พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติฉบับใหม่ระบุไว้เป็นหลักเกณฑ์การพิจารณา

ทุกคนย่อมมีสิทธิเข้า “ชิงเก้าอี้สูงสุด” ขององค์กร

ถือเป็น “การบ้านชิ้นแรก” ของนายกรัฐมนตรีหญิง

พิสูจน์บทบาท “ตัวแสดงจริง” ในการคุมทัพตำรวจ.

“สหบาท”

คลิกอ่านคอลัมน์ “ส่องตำรวจ” เพิ่มเติม