ตำรวจจ่อขอหมายจับเพิ่มแก๊ง “หมอบุญ” ลอต 2 สมรู้ร่วมคิดโยกย้ายถ่ายเทเงินออกจากธนาคาร เพราะพบหลักฐานเบิกเงิน ทีละ 100 ล้านบาท ต้องมีคนช่วยขนย้าย ขณะเดียวกัน เหยื่อในคดียังทยอยแจ้งความเพิ่ม อาจส่งไม้ต่อให้ตำรวจสอบสวนกลางรับคดีหรือให้ ตร.ตั้งเป็นรูปคณะทำงาน “แทนคุณ” แฉ “หมอบุญ” จ่อเผ่นเข้ายุโรป ด้าน THG จ่อแจ้ง ก.ล.ต.-ดำเนินคดีหลังพบรายการอันควรสงสัยเพิ่มอีก 1 รายการ มูลค่า 63 ล้านบาท รวมทั้งเดินหน้าเอาผิดอดีตผู้บริหารและพนักงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
กรณีศาลออกหมายจับ นพ.บุญ วนาสิน หรือหมอบุญ อายุ 86 ปี “หมอบุญ” ผู้ก่อตั้ง รพ.ธนบุรี พร้อมพวกรวม 9 คน รวมไปถึงนางจารุวรรณ วนาสิน อายุ 79 ปี อดีตภรรยา และ น.ส.นลิน วนาสิน อายุ 51 ปี ลูกสาว ในข้อหาฉ้อโกง สมคบกันฟอกเงินและ พ.ร.บ.เช็ค หลังเปิด 5 โครงการใหญ่ทางการแพทย์ล่อลวงเหยื่อที่หลงเชื่อโปรไฟล์กว่า 247 คนร่วมลงทุนสูญเงินรวมกันกว่า 7.5 พันล้านบาท ตำรวจตามจับเลขาฯและโบรกเกอร์ร่วมก๊วนได้ 6 คน ส่วนอดีตเมียกับลูกสาวเข้ามอบตัวอ้างถูกปลอมลายมือชื่อเซ็นค้ำประกันเงินกู้ พนักงานสอบสวนนำตัวฝากขังศาลอาญา โดย 2 แม่ลูกยื่นหลักทรัพย์ประกันตัว ศาลนัดไต่สวน 28 พ.ย.เนื่องจากเอกสารในการพิจารณามีจำนวนมาก พร้อมออกหมายจับคุมตัวทั้งคู่เข้าทัณฑสถานหญิงกลาง ขณะที่ “หมอบุญ” รู้แกวบินหนีไปกบดานประเทศจีนตั้งแต่ปลายเดือน ก.ย.อยู่ระหว่างประสานตำรวจสากลตามล่า ตามที่เสนอข่าวไปนั้น
ความคืบหน้าในส่วนของการดำเนินคดี เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 26 พ.ย. พ.ต.อ.กระเษียร สุดตา รอง ผบก.น.1 ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีนายแพทย์บุญ วนาสิน หรือหมอบุญ อายุ 86 ปี ถูกออกหมายจับพร้อมพวก 9 ราย หลอกลงทุนโครงการทางการแพทย์ เสียหายร่วมหมื่นล้านว่า เบื้องต้นอยู่ระหว่างรอสอบปากคำจากผู้เสียหายเพิ่มเติม ส่วนการออกหมายจับแถว 2 หรือโบรกเกอร์ต้องไล่จากคดีเช็คเพื่อหาว่ามีผู้ใดที่แนะนำผู้เสียหายให้ร่วมลงทุนจนเกิดเป็นสัญญากู้จนกระทั่งเป็นเช็คบ้างอยู่ระหว่างการสอบสวน และยังมีผู้เสียหายในคดีนี้ทยอยมาแจ้งความเพิ่ม รวมถึงอาจจะมีการส่งสำนวนเข้าไปที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) เนื่องจากมีอำนาจสอบสวนทั่วประเทศ ต้องรอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติตั้งคณะทำงานเนื่องจากเป็นคดีค่อนข้างใหญ่ สำหรับผู้เสียหายรายใหม่ที่เข้ามาแจ้งความบางรายมีความเสียหายตั้งแต่ 10-30 ล้านบาท ส่วนการออกหมายจับโบรกเกอร์เพิ่มเติม ต้องรอผู้เสียหายมาให้ปากคำเพิ่ม ประกอบกับผู้เสียหายบางรายไม่ยอมเข้ามาให้ปากคำ เนื่องจากประสงค์จะฟ้องคดีทางแพ่งเอง ทำให้ต้องรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม
วันเดียวกัน ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) มีรายงานว่า ชุดสืบสวนสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานตรวจสอบเส้นทางการเงิน ล่าสุดพบผู้ที่เกี่ยวข้องร่วมกระทำผิดเตรียมรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆเพิ่มเติมเพื่อขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาลอตที่ 2 เพิ่มเติมอีกหลายคนที่เกี่ยวพันสมรู้ร่วมคิดในการโยกย้ายถ่ายเทเงินออกจากบัญชีธนาคาร
ชุดสืบสวนคลี่คลายคดีได้เบาะแสข้อมูลว่า หมอบุญเบิกเงินสดแต่ละครั้งจำนวน 100 ล้านบาท การเบิกเงินสดจำนวนมากและต้องขนย้ายเงินออกจากธนาคารชุดสืบสวนพบว่า ต้องมีผู้ร่วมมือวางแผนนำเงินที่ได้จากฉ้อโกงหลายพันล้านหลบหนีจึงรวบรวมพยานหลักฐานเตรียมออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มอีกลอตดังกล่าว
อีกด้านหนึ่ง ที่รัฐสภา นายแทนคุณ จิตต์อิสระ ประธานชมรมสันติประชาธรรม กล่าวถึงความคืบหน้าหลังพาผู้เสียหาย 2 ราย เข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ นพ.บุญ วนาสิน ผู้ก่อตั้งรพ.ธนบุรีว่า ยังมีผู้เสียหายติดต่อมาเรื่อยๆทุกวัน ส่วนใหญ่เป็นผู้ใหญ่มีชื่อเสียง ผู้สูงอายุมีหน้าตาในสังคม บางกรณีมีผู้เสียหายมูลค่านับพันล้านบาท หลังจากวันที่ 12 ธ.ค.จะมีอีกเยอะมาก อยากให้ผู้เสียหายเตรียมเอกสารหลักฐานการโอน และหลักฐานการทำสัญญาทุกอย่างเพื่อแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษที่กองปราบปราม คาดว่าจะมี 500-600 ราย ทั้งนี้กรณีหมอบุญต่างกับกรณีดิ ไอคอน เพราะมีผู้เสียหายน้อยกว่าแต่มูลค่าความเสียหายมากกว่า ผู้เสียหายเล่าให้ฟังว่ากรณีหมอบุญมีค่าเสียหายมูลค่าแตะถึง 2.5 หมื่นล้านบาท จะค่อยๆรวบรวมหลักฐานต่อไป ได้รับข้อมูลว่าขณะนี้หมอบุญ นอกจากอยู่ที่ประเทศจีนแล้ว เตรียมหนีไปบางประเทศโซนยุโรปที่มีคอนเนกชันกันอยู่ หวังว่าเจ้าหน้าที่จีนและตำรวจไทยจะประสานตำรวจสากลจับกุมมาดำเนินคดีได้ในเร็ววัน
วันเดียวกัน มีรายงานว่า บมจ.ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป หรือ THG แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯถึงความคืบหน้าการดําเนินการเกี่ยวกับรายการอันควรสงสัย การตั้งสำรอง และแผนการป้องกัน รวมถึงสภาพคล่องบริษัท อาทิ 1.ตามที่บริษัทฯได้แจ้งไว้ก่อนหน้านี้เกี่ยวกับการตรวจพบรายการอันควรสงสัยคิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 105 ล้านบาท (ไม่รวมดอกเบี้ย) บริษัทฯขอแจ้งให้ทราบว่า บริษัท ราชธานีพัฒนาการ (2014) จํากัด (RTD) (ซึ่งเป็นบริษัทที่มีกลุ่มครอบครัว
“วนาสิน” เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่) เป็นผู้รับประโยชน์จากรายการอันควรสงสัย ได้ทําหนังสือรับสภาพหนี้กับบริษัทฯ เป็นเงินทั้งสิ้น 112.80 ล้านบาท ปัจจุบัน บริษัทฯกำลังเตรียมฟ้องร้องดําเนินคดีกับ RTD ตามหนังสือรับสภาพหนี้ และกับอดีตผู้บริหารและพนักงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องสําคัญกับการทํารายการอันควรสงสัย ทั้งนี้ เพื่อปกป้องและรักษาผลประโยชน์ของบริษัทฯและผู้ถือหุ้น 2.จากการตรวจสอบเพิ่มเติมพบรายการอันควรสงสัยเพิ่มเติมของบริษัทฯและบริษัทย่อย รายการดังกล่าวเกิดขึ้นในปี 2566 ส่งผลให้เกิดความเสียหายทางการเงินแก่บริษัทฯและบริษัทย่อย รวมมูลค่าทั้งสิ้น 63 ล้านบาท แต่มูลค่าความเสียหาย ไม่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางการเงินหรือความสามารถในการดําเนินงานของกลุ่มบริษัทฯแต่อย่างใด และเพื่อปกป้องและรักษาผลประโยชน์ของบริษัทฯและผู้ถือหุ้น บริษัทฯจะแจ้งเรื่องต่อสํานักงานคณะกรรมการกํากับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และดําเนินการทางกฎหมายต่ออดีตผู้บริหารและพนักงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องสําคัญกับการกระทําที่เป็นเหตุให้เกิดรายการอันควรสงสัยดังกล่าว เพื่อปกป้องและรักษาผลประโยชน์ของบริษัทฯและผู้ถือหุ้น
นอกจากนี้ บริษัทฯได้ลงโทษทางวินัยขั้นสูงสุดต่ออดีตผู้บริหารและพนักงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับรายการดังกล่าว เพื่อแสดงถึงจุดยืนของบริษัทฯ ที่ไม่ยอมรับพฤติกรรมหรือการปฏิบัติใดๆที่ฝ่าฝืนกฎหมาย และ/หรือระเบียบภายในบริษัทฯ ซึ่งส่งผลให้เกิดความเสียหาย ทั้งนี้ บริษัทฯยังจะดําเนินการทางกฎหมายกับอดีตผู้บริหารและพนักงานด้วย ให้มีการชดใช้ความเสียหายที่เกิดขึ้น เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของบริษัทฯและผู้ถือหุ้น ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทฯยังคงดําเนินงานตามปกติ และไม่ได้ประสบภาวะขาดทุน จากการดําเนินงานตามปกติแต่อย่างใด แต่เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้มีส่วนได้เสีย และเพื่อแก้ไขข้อกังวลที่อาจเกิดขึ้นเกี่ยวกับสภาพคล่องของกลุ่มบริษัทฯ คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติให้ศึกษาแนวทางการปรับโครงสร้างทางการเงินเพิ่มเติมเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางการเงิน รวมถึงพิจารณาเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ เพื่อเสริมสร้างฐานะทางการเงินและรองรับการดําเนินงานในอนาคตและการพิจารณาจัดการหรือจําหน่ายสินทรัพย์บางประเภทที่ไม่ได้ใช้ในการประกอบธุรกิจหลัก เพื่อเพิ่มสภาพคล่องของกลุ่มบริษัทฯ โดยบริษัทฯจะแจ้งให้ผู้ถือหุ้นและผู้มีส่วนได้เสียทราบความคืบหน้าต่อไป
แหล่งข่าว: ไทยรัฐ