พบพฤติกรรม นายก อบต. ที่จังหวัดเชียงราย เมาโวยวายหน้าสถานบันเทิง แถมพบประวัติเคยถูกเรียกตรวจแอลกอฮอล์แต่ไม่ยอมเป่า มีเช็กรุ่น สารวัตร สภ.เมืองเชียงราย อ้างอยู่ นรต.51 ลาออกมาเล่นการเมือง ล่าสุดนายอำเภอเวียงชัย สั่งตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว

เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีเมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 20 พ.ย. 67 พ.ต.ท.สถาพร มังคลาด สวป.สภ.เมืองเชียงราย ได้รับแจ้งเหตุมีผู้ก่อเหตุวุ่นวายในสถานบันเทิงแห่งหนึ่งย่านถนนราษฎร์บูรณะ ต.รอบเวียง อ.เมืองเชียงราย เมื่อไปถึงพบนายวิทยา ทราบภายหลังว่าเป็น นายก อบต.แห่งหนึ่งพื้นที่ใน จ.เชียงราย กำลังมีปากเสียงกับพนักงานภายในร้านดังกล่าวอยู่ที่บริเวณลานจอดรถ ก่อนที่นายวิทยาจะหันไปถาม พ.ต.ท.สถาพร ว่าตนเองผิดอะไร พ.ต.ท.สถาพร จึงนำตัวนายวิทยาไปสงบสติแล้วปล่อยตัวไป

มีรายงานว่า ผู้ก่อเหตุรายดังกล่าว เมื่อวันที่ 7 พ.ย. ที่ผ่านมา เวลา 04.00 น. บุคคลดังกล่าวเคยก่อคดีเมาแล้วขับไปเฉี่ยวชนรถของผู้อื่นในพื้นที่ อ.เมืองเชียงราย ครั้งนั้นผู้ก่อเหตุได้ถาม พ.ต.ต.ศิริพงษ์ ทองใบ สารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองเชียงราย ว่าจบนักเรียนนายร้อยตำรวจ (นรต.) รุ่นไหน แล้วบอกว่าตนเองอยู่รุ่น 51 และได้ลาออกมาเล่นการเมือง เมื่อเจ้าหน้าที่ให้ทั้งคู่กรณีทั้งสองคนใช้เครื่องเป่าวัดระดับแอลกอฮอล์ นายวิทยาแจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่าตนไม่ยินยอมเป่า จากนั้นได้เดินออกจาก สภ.เมืองเชียงราย ไปทันที ส่วนคู่กรณีเป่าแล้วค่าแอลกอฮอล์ออกมาเป็น 0 (ศูนย์)

ความคืบหน้าล่าสุด เกี่ยวกับคดีเมาแล้วขับไปเฉี่ยวชนผู้อื่นนั้น ตรวจสอบจาก พ.ต.ต.ศิริพงษ์ ทองใบ สารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองเชียงราย พบว่า ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐานพยานต่างๆ และการสอบสวนพยาน จากนั้นจะได้มีการออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหา เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย โดยจะได้มีหนังสือตรวจสอบไปทางจังหวัดเชียงรายด้วยว่า ผู้ก่อเหตุได้เป็นนายก อบต.แห่งหนึ่งจริงหรือไม่ เนื่องจากนายวิทยาได้แสดงบัตรว่าเป็นนายก อบต.ในวันที่เกิดเหตุ

อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบอัตราโทษตามกฎหมาย ที่คนเมาแล้วขับจะได้รับนั้น หากถูกตรวจพบว่ามีแอลกอฮอล์ในเลือด 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ มีอัตราโทษคือ จำคุกไม่เกิน 1 ปี ค่าปรับเมาแล้วขับ 5,000-20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และถูกพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ไม่น้อยกว่า 6 เดือน แต่ถ้าไม่ยอมเป่าแอลกอฮอล์ จะถือว่าเป็นการเมาแล้วขับทันที โทษจะเหมือนกันกับการเมาแล้วขับคือ จำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับ 5,000-20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และถูกพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ไม่น้อยกว่า 6 เดือน

ผู้สื่อข่าวไปสอบถามนายบดินทร์ เทียมภักดี นายอำเภอเวียงชัย จ.เชียงราย เกี่ยวกับกรณีดังกล่าว โดยนายอำเภอเวียงชัย เผยว่า ตนเพิ่งทราบเรื่องเมื่อประมาณ 2 วันที่ผ่านมา ตอนนี้ก็ได้ตั้งกรรมการเพื่อมาสอบสวนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งเท่าที่ได้รับทราบเป็นเรื่องที่นายกคนดังกล่าวมีพฤติกรรมดื่มสุรา และประพฤติตัวไม่เหมาะสม เรากำลังอยู่ในขั้นตอนรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อหาข้อเท็จจริง ถ้าผลตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่ามีการกระทำเป็นไปตามที่ถูกร้องเรียนจริง มีความผิดตามข้อกฎหมาย หรือผิดระเบียบของ อปท. ตนก็สามารถสั่งให้หยุดการปฏิบัติหน้าที่ได้ เราพยายามจะสอบถามทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ในเรื่องที่เป็นความผิดที่ชัดเจนตามข้อกฎหมาย เราก็ต้องดำเนินการให้เป็นไปตามนั้น

“ส่วนกรณีที่นายกคนดังกล่าวมีการร้องเรียนเก่าๆ เช่น เรื่องการใช้รถหลวง ทราบว่าตอนนี้ยังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบของ ป.ป.ช.เชียงราย” นอภ.เวียงชัย กล่าว

ด้านนายภคิน พูนเกตุ ปลัดอำเภอฝ่ายงานปกครอง อ.เวียงชัย กล่าวว่า ในขั้นตอนของทางอำเภอ เมื่อได้รับข้อมูลการร้องเรียนเข้ามา เราก็ต้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อให้ความเป็นธรรมกับผู้ร้องและผู้ถูกร้อง ซึ่งหากผลสอบออกมาแล้วว่าผู้ถูกร้องมีความผิดจริงตามกฎหมายหรือกฎระเบียบของ อปท. ทางนายอำเภอซึ่งมีอำนาจในฐานะผู้กำกับควบคุมการทำงานของนายก อปท.ในพื้นที่ สามารถสั่งให้ผู้ถูกร้องเรียนหยุดการปฏิบัติหน้าที่ไปก่อน เพื่อให้กระบวนการยุติธรรมเดินหน้าไปได้