นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวถึงการออกข้อบัญญัติ กทม. เรื่อง ค่าธรรมเนียมการให้บริการในการจัดการสิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอยตามกฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุข พ.ศ. …ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างที่สภา กทม. ส่งเรื่องมาให้ตนลงนาม และประกาศในราชกิจจานุเบกษา 180 วัน ระหว่างนี้ กทม. จะเร่งประชาสัมพันธ์ให้ความรู้กับประชาชน ถึงการแยกขยะ การลงทะเบียน ผ่านแอปพลิเคชันของ BKK ของ กทม. หรือช่องทางอื่นๆที่สะดวก จัดเตรียมอุปกรณ์และรถสำหรับแยกขยะเปียก รวมถึงหาแนวทางจัดการขยะแต่ละชนิดว่าจะนำไปทำอะไรได้บ้าง

ผู้ว่าฯ กทม.กล่าวว่า เรื่องนี้มีความท้าทาย เพราะเสียงตอบรับที่ผ่านมา หลายคนเห็นด้วย แต่ยังไม่เชื่อว่าจะทำได้ในทางปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม กทม. จึงต้องทำการบ้านกันอย่างหนัก ในช่วง 7-8 เดือนหลังจากนี้ต้องมีการพัฒนาระบบจัดการขยะให้ดี มีการวางแผนเตรียมการล่วงหน้า ซึ่งตนจะสร้างความมั่นใจว่า สุดท้ายแล้วจะได้ประโยชน์จริงๆ เพราะทุกคนมีส่วนร่วมทำเมืองให้ดีขึ้น ทั้งนี้ ที่จริงแล้วเรามีฐานข้อมูลของประชาชนอยู่แล้วว่า แต่ละบ้านจ่ายเงินเท่าไหร่ มีการแยกขยะหรือไม่ ซึ่งหากมีการลงทะเบียนใหม่ ยิ่งทำให้ได้ฐานข้อมูลที่จัดเก็บง่ายขึ้น ได้รู้ว่ามีคนสนใจเข้าร่วมโครงการมากน้อยเพียงใด

นายชัชชาติกล่าวว่า ข้อบัญญัตินี้ ไม่ได้ใช้กับบ้านที่พักอาศัยเท่านั้น แต่ยังรวมถึงใช้จัดการกับผู้ประกอบการรายใหญ่ด้วย ซึ่งจะมีการเพิ่มค่าเก็บขยะตามปริมาณ เพื่อจะเป็นแรงจูงใจให้มีการลดขยะลง เพราะฉะนั้นหัวใจของเราไม่ใช่แค่แยกขยะอย่างเดียว แต่ผู้ประกอบการรายใหญ่ต้องคิดด้วยว่า จะจัดการขยะที่มีอย่างไรได้บ้าง เช่น การนำไปรีไซเคิล เพื่อนำขยะไปใช้ให้เป็นประโยชน์และลดค่าใช้จ่ายลงได้.