ทนายของ “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” เข้าเยี่ยมลูกความที่เรือนจำแล้ว เผยลูกความต้องนั่งวีลแชร์ และกินน้ำหวานตลอดเพราะน้ำตาลตก แต่ยังยืนยันจะอดอาหารต่อไปตาม อุดมการณ์ อ้างไม่ได้ต่อสู้เพื่อตัวเอง แต่เพื่อผู้ต้องหาทุกคน หลังจากนั้นเดินทางไปยื่นอุทธรณ์คำสั่งไม่ปล่อย ชั่วคราว ศาลอาญาส่งเรื่องให้ศาลอุทธรณ์เป็นผู้พิจารณา คาดใช้เวลา 2-3 วัน จะมีคำสั่งลงมา ส่วนคดี “ทนายตั้ม” ทนายความของภรรยายื่นศาลขอปล่อยชั่วคราวด้วยหลักทรัพย์ 5 แสนบาท หลังพิจารณาศาลสั่งยกคำร้อง ต้องกลับเข้าคุก ให้เหตุผลการสืบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ส่วนกระแสข่าวจองกฐินทำร้ายทนายตั้มในคุก รมว.ยุติธรรม เผยแยกโซนคุมขังทนายตั้มไม่ให้อยู่โซนเดียวกับคู่ขัดแย้งแล้ว แต่ต้องระวังเพราะมีผู้ต้องขัง ป่วยจิตเวชรวมอยู่ด้วย ด้านความคืบหน้าคดีหมอบุญ “บิ๊กต่าย” สั่งตั้งคณะทำงาน รวมคดีจากทั้ง บช.น. และ บช.ก. ให้ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร.เป็นหัวหน้าคณะ ยันประสานตำรวจสากลตามล่าตัว หมอบุญอยู่ รวยแค่ไหนจะตามจับให้ได้
การสืบสวนคลี่คลายบริษัทดิ ไอคอน กรุ๊ป จำกัด ศาลอาญาออกหมายจับผู้ต้องหาลอตแรกรวม 18 คน ตั้งแต่นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือบอสพอล นายยุรนันท์ หรือบอสแซม ภมรมนตรี น.ส.พีชญา หรือบอสมิน วัฒนามนตรี และนายกันต์ หรือบอสกันต์ กันตถาวร รวมถึงแม่ข่ายผู้เกี่ยวข้อง คุมตัวฝากขังเข้าเรือนจำไปแล้ว ต่อมาโอนสำนวนให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พิจารณาแจ้งข้อหากู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน หรือแชร์ลูกโซ่ และ พ.ร.บ.ขายตรงฯเพิ่มเติมกับ 18 บอสในเรือนจำไปแล้ว ขยายผลพบเส้นเงินโอนให้นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช และ นางวิลาวัลย์ พุทธสัมฤทธิ์ มารดา จับกุมทั้ง 2 คนแล้ว ส่งนายสามารถเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ส่วนแม่ได้รับการประกันตัว
ความคืบหน้าจากทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 29 พ.ย. ร.อ.ธีรศานต์ แก้วสง ทนายความนายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช เข้าเยี่ยมลูกความใช้เวลาประมาณ 1 ชม. หลังจากนั้นออกมาเปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ต้องให้นายสามารถนั่งวีลแชร์มาพบ อาการยังคงเหมือนกับวันที่ 28 พ.ย. แต่วันนี้มีภาวะน้ำตาลตก แพทย์ต้องให้จิบน้ำหวานตลอด ส่วนอาหารและน้ำอื่นๆยังคงอดตามเจตนารมณ์ ครอบครัวพยายามขอให้กินอาหารเหมือนเดิม เพราะยิ่งสุขภาพถดถอยยิ่งทำให้การสู้คดียากขึ้น และถ้าวิกฤติถึงเสียชีวิตไม่เป็นผลดี มองว่าการเรียกร้องความยุติธรรมควรต้องมีชีวิตอยู่ แต่นายสามารถยังยึดมั่นในอุดมการณ์ตัวเอง ยืนยันยอมตายในคุก และย้ำว่าสิ่งที่ทำไม่ได้เรียกร้องเพื่อตัวเอง แต่รวมถึงผู้ต้องหาคนอื่นด้วย ตนอยากให้นายสามารถออกไปรักษาตัวยังโรงพยาบาลตามสิทธิ์ แต่ รพ.ราชทัณฑ์มีความเห็นว่า นายสามารถควรกลับไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯเพราะกลัวกระแสสื่อกดดัน
ร.อ.ธีรศานต์กล่าวว่า แนวทางการต่อสู้คดีฟอกเงินต้องดูความผิดมูลฐาน หากชัดสามารถดำเนินคดีได้ แต่ในคดีดิ ไอคอนฯความผิดยังไม่ตัดสิน ฉะนั้นจะแจ้งข้อหาการฟอกเงินไม่ได้ ส่วนที่ดีเอสไออ้างว่าเป็นความผิดแชร์ลูกโซ่เป็นเพียงคำให้การหรือคำยืนยันจากเจ้าหน้าที่รัฐเท่านั้น อีกทั้งค้านการประกันตัวเพราะเกรงว่านายสามารถจะยุ่งเหยิงพยาน ประเด็นนี้ยืนยันว่าไม่ได้ยุ่งเหยิงเพราะอายัดบัญชีไว้หมดแล้ว ส่วนเรื่องการหลบหนีตามบันทึกการจับกุมที่ สภ.แม่ยาว เป็นการมอบตัว แต่ดีเอสไอกลับไปยื่นคำร้องฝากขังว่ามีพฤติกรรมหลบหนี ซึ่งการไป จ.เชียงราย มีพยานอดีตข้าราชการ อดีตรอง ผบ.ตร. อดีต สส.ร่วมด้วยพร้อมจะเป็นพยาน และวัดห้วยปลากั้งอยู่ไม่ไกลจากสนามบิน หากจะหลบหนีตนมองว่า จ.เชียงรายไม่เหมาะ เพราะมีการเฝ้าระวังตามแนวชายแดนอย่างแน่นหนา
“ส่วนประเด็นเรื่องเอกสารการกู้ยืมเงินและการทำบุญระหว่างนายสามารถกับบอสพอลที่เจ้าหน้าที่ดีเอสไอตรวจพบในบ้าน ระบุวันที่ 12 พ.ย. นายสามารถและบอสพอลมีการคืนเงินที่ยืมกันหมดแล้ว ประเด็นนี้ผมมองว่าบอสพอลให้เซ็นเพื่อไม่ให้ฟ้องร้องทางแพ่งต่อกัน ส่วนประเด็นดังกล่าวดีเอสไอจะนำไปเป็นหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงินได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับพนักงานสอบสวน อีกทั้งช่วงปี 2564 นายสามารถไม่มีตำแหน่งทางการเมือง เพราะมีราชกิจจานุเบกษาให้ออกจากตำแหน่งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมเมื่อวันที่ 1 พ.ค.64 ส่วนที่อยู่ในสังกัดพรรคไม่ใช่ข้าราชการทางการเมืองเป็นเพียงสมาชิกพรรค วันนี้จะมีทีมทนายไปศาลอาญาเพื่อยื่นคำร้องอุทธรณ์ขอปล่อยตัวชั่วคราว นายสามารถ ใช้หลักทรัพย์โฉนดที่ดินมูลค่า 1.2 ล้านบาท พร้อมขอศาลติดกำไลอีเอ็ม” ร.อ.ธีรศานต์กล่าว
ที่ศาลอาญา เวลา 11.00 น. ทนายความของนายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ผู้ต้องหาคดีร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน กรณีเรียกรับเงิน 2.5 ล้านบาท จากนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือบอสพอล ประธานบริษัทดิ ไอคอน กรุ๊ป จำกัด ยื่นอุทธรณ์คำร้องขอปล่อยชั่วคราว ศาลอาญารับคำร้องอุทธรณ์ไว้ เห็นควรส่งคำร้องให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาเพื่อมีคำสั่งต่อไป ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คาดว่าศาลอุทธรณ์น่าจะใช้เวลาพิจารณา 2-3 วัน จึงจะมีคำสั่งส่งมาให้ศาลอาญา สำหรับนางวิลาวัลย์ พุทธสัมฤทธิ์ แม่นายสามารถ ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาร่วมนั้น ศาลอาญามีคำสั่งอนุญาตให้ประกันตัวไประหว่างสอบสวน ตีราคาประกัน 5 แสนบาท
ส่วนคดีนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม และนางปทิตตา เบี้ยบังเกิด ภรรยา ถูกจับกุมคุมขังอยู่ในเรือนจำคดีฉ้อโกง น.ส.จตุพร หรือเจ๊อ้อย อุบลเลิศ และฟอกเงิน ความคืบหน้าจากห้องพิจารณาคดี 809 ศาลอาญา เวลา 10.00 น. ศาลนัดไต่สวนคำร้องขอปล่อยชั่วคราว ที่นายอาคม คงสวัสดิ์ ทนายความของนางปทิตตา เบี้ยบังเกิด อายุ 42 ปี ผู้ต้องหาคดีร่วมกันฉ้อโกงและฟอกเงิน ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ 500,000 บาท ขอปล่อยชั่วคราวนางปทิตตาไปเมื่อวันที่ 25 พ.ย. ศาลเบิกตัวนางปทิตตาจากทัณฑสถานหญิงกลางมาเบิกความเป็นพยาน 1 ปาก ขณะที่พนักงานสอบสวน กก.3 บก.ป. ผู้คัดค้านเข้าเบิกความ 1 ปาก ต่อมาศาลมีคำสั่งยกคำร้องขอปล่อยชั่วคราวของนางปทิตตา เนื่องจากการไต่สวนยังไม่เสร็จสิ้น
ด้านนายอาคม คงสวัสดิ์ ทนายความของนางปทิตตากล่าวว่า ประเด็นการยกคำร้องขอปล่อยชั่วคราว ศาลมองว่าการสืบสวนยังไม่เสร็จสิ้น จึงยกคำร้องขอปล่อยชั่วคราว ซึ่งศาลไม่ได้ระบุประเด็นที่ยกคำร้องขอปล่อยชั่วคราว แต่ต้องสืบสวนขยายผลเรื่องเงิน 39 ล้านบาท ที่นำไปใช้เกี่ยวกับบ้าน ศาลจึงมองว่าควรจะสอบสวนในส่วนนี้ให้เสร็จสิ้นเสียก่อน ถามว่าการฝากขังนางปทิตตาจะสามารถฝากขังได้กี่ผัด นายอาคมกล่าวว่า ในส่วนความผิดของนางปทิตตาสามารถฝากขังได้เต็มที่ 7 ผัด 84 วัน ตนอาจจะยังไม่ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวในการฝากขังครั้งที่ 3 เนื่องจากไม่ได้ระบุว่าการยื่นขอปล่อยชั่วคราวต้องยื่นตอนไหน สามารถยื่นได้ทุกวัน แต่ตนเห็นคำสั่งศาลออกมาในรูปแบบนี้ จึงอยากให้การสืบสวนพยานหลักฐานคืบหน้าไปมากกว่าเดิมก่อน แต่จะทำหน้าที่ทนายความให้แค่ชั้นสอบสวนเท่านั้น
ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ให้สัมภาษณ์กรณีกระแสข่าวนักโทษในเรือนจำจองกฐินนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้มว่า ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครรายงานว่า หลังเกิดข่าวได้ไปดูภายในเรือนจำแล้ว ได้พบพูดคุยซึ่งนายษิทราสบายใจ เพราะแยกนายษิทราออกไปอยู่ในห้องที่ประเมินแล้วว่าไม่มีคู่ขัดแย้งของทนายตั้ม เจ้าตัวขอบคุณ ผบ.เรือนจำแล้ว ผู้สื่อข่าวถามว่า แยกนายษิทราไปอยู่ในโซนที่ไม่มีคู่อริหรือไม่ พ.ต.อ.ทวีกล่าวว่า เราไม่สามารถให้เขาอยู่คนเดียว จึงแยกให้ไปอยู่ในพื้นที่ที่ไม่มีคู่ขัดแย้ง เช่น ไม่รู้จักกันเลย แต่ทุกอย่างต้องเป็นไปตามมาตรฐานเรือนจำ ที่ผ่านมาผู้ต้องราชทัณฑ์จะกลัวผู้คุม เขาจะกวดขันและดูแล เราให้ความสำคัญ ถามย้ำว่าแสดงว่ากระแสข่าวเรื่องจองกฐินเป็นเรื่องจริง พ.ต.อ.ทวีกล่าวว่า เมื่อเป็นข่าวเราต้องเข้าไปดูแล การข่าวอาจคาดการณ์กัน และในเรือนจำเราต้องยอมรับว่า มีผู้ป่วยจิตเวชด้วย มันต้องระมัดระวัง
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. กล่าวถึงความคืบหน้าการติดตามตัว นพ.บุญ วนาสิน หรือหมอบุญ ผู้ต้องหาคดีร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการหลอกลวงประชาชน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐระบุว่า ที่ผ่านมาการดำเนินคดีของหมอบุญเป็นความรับผิดชอบของกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) และกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) เจ้าหน้าที่รวบรวมหลักฐานและเส้นทางการเงินไปได้พอสมควรแล้ว ตนมีคำสั่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติขึ้น โดยมี พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. เป็นหัวหน้าชุด ให้รวบรวมคดีมาที่ศูนย์กลาง เนื่องจากคดีที่เกิดขึ้นมีผู้เสียหายมากกว่า 300 ราย ความเสียหายมากกว่า 10,000 ล้านบาท ฉะนั้นหากให้แต่ละหน่วยแยกกันทำคดีอาจไม่สะดวก และไม่ชัดเจนเท่าการมีคณะทำงานเพียงคณะเดียว แต่พนักงานสอบสวนในคณะคือ ตำรวจจากทั้ง บช.น.และ บช.ก.
“ส่วนกรณีหมอบุญหลบหนีไปต่างประเทศตั้งแต่ปลายเดือนกันยายน ยืนยันว่าตำรวจประเทศไทยประสานงานกับตำรวจสากล (อินเตอร์โพล) มาตลอด กรณีผู้ต้องหาอยู่ในประเทศที่มีสนธิสัญญาจะถือว่าเป็นประโยชน์ แต่หากหลบหนีไปประเทศที่ไม่ได้มีสนธิสัญญา จะต้องแลกเปลี่ยนตัวผู้ต้องหากับเงื่อนไขของประเทศต้นทาง ไม่ว่าตัวผู้ต้องหาจะร่ำรวยเพียงใด หลบหนีอยู่ที่ไหน หากกระทำผิดจะนำตัวกลับมาให้ได้ และในเรื่องดังกล่าวหากขยายผลไปถึงบุคคลใด หรือหน่วยงานใด จะสืบสวนโดยละเอียดและไม่มีการละเว้น” ผบ.ตร.กล่าว
เมื่อเวลา 15.00 น.ที่กองบังคับการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก.เผยความคืบหน้า 2 คดีสำคัญว่า เมื่อวานนี้ (28 พ.ย.) มีผู้ประกอบการรายหนึ่งเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ พงส.กก.2 บก.ป. กรณีถูกนายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช รีดทรัพย์ เหตุเกิดช่วงปี 63-64 พฤติการณ์อ้างถึงเทวดาที่จะมาดูแลคุ้มครองธุรกิจของผู้เสียหาย กล่าวอ้างว่าผู้เสียหายมีความผิด แต่ตัวผู้เสียหายมีหลักฐานยืนยันว่าไม่ได้กระทำผิด แต่กลัวว่าจะเกิดความเสียหายต่อธุรกิจจึงต้องยินยอมจ่ายให้เดือนละ 30,000 บาท รวม 500,000 บาท ส่วนเหตุการณ์ที่นายสามารถกระทำผิดยังดำรงตำแหน่งเจ้าหน้าที่รัฐหรือไม่ บก.ปปป.กำลังนำรายละเอียดไทม์ไลน์มาตรวจสอบ หากพบว่าเข้าข่ายทุจริตต่อหน้าที่จะมีโทษหนักขึ้นอีก บช.ก.จะรับผิดชอบคดีนี้เอง
รอง ผบช.ก.กล่าวต่อว่า ตำรวจประสานกับกรมสอบสวนคดีพิเศษเรียบร้อยแล้ว ผู้เสียหายจะเดินทางไปพบดีเอสไอด้วย เพื่อให้ข้อมูลและพยานหลักฐานต่างๆเพื่อเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ในส่วนของเรื่องฟอกเงิน เส้นเงินนี้โอนไปยังบัญชีคนใกล้ชิดที่มาพบตำรวจแล้วเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ให้การเป็นประโยชน์ และบัญชีคนใกล้ชิดดังกล่าวยังโยงไปถึงบริษัทหนึ่งที่กำลังมีปัญหาอยู่ คาดว่าจะใช้เวลาไม่นานเพราะสอบพยานอีกไม่กี่ปากน่าจะดำเนินการได้ ส่วนเรื่องการพนันได้รับการยืนยันจากผู้ใกล้ชิดว่านายสามารถชอบเล่นได้เสียหลายสิบล้านบาท ทั้งหมดอยู่ในเส้นเงิน 100 ล้านบาทที่ตรวจสอบแล้ว
ถามว่ากรณีนายสามารถอดอาหารและน้ำเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม และสิทธิการประกันตัวมีความเห็นอย่างไร พล.ต.ต.จรูญเกียรติตอบว่า เป็นเรื่องของผู้ต้องหา ส่วนตำรวจและดีเอสไอมีหน้าที่ทำตามข้อเท็จจริงและพยานหลักฐาน เพราะฉะนั้นต้องไปสู้กันในชั้นศาล ขอให้นายสามารถเข้าใจในเหตุและผล มองว่าการอดอาหารไม่ใช่ทางเลือก อย่าเลียนแบบพวกประท้วงอดข้าว อันนี้เป็นเรื่องของการกระทำความผิด ตนอยากให้ตั้งสติแล้วมาสู้กันด้วยพยานหลักฐานดีกว่า ถ้ามีพยานหลักฐานท่านก็สามารถรอดพ้นได้
“ส่วนการดำเนินคดีนายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือฟิล์ม ขณะนี้พนักงานสอบสวนกำลังเร่งทำสำนวนอย่างเต็มที่ คาดว่าจะชัดเจนเร็วๆนี้ เพราะสอบพยานไปได้เยอะแล้ว ขณะนี้ตำรวจทำคดีของนายรัฐภูมิอยู่ 3 คดี จะออกหมายเรียกหรือหมายจับให้เป็นเรื่องของพนักงานสอบสวน เนื่องจากให้อิสระพนักงานสอบสวนอย่างเต็มที่ ส่วนคดีนายรัฐภูมิกับดิ ไอคอนกรุ๊ปสอบสวนไปแล้ว คาดว่าไม่น่าจะเป็นพยายามฉ้อโกง แต่เข้าข่ายพยายามกรรโชกทรัพย์ มีอัตราโทษ 2 ใน 3 ไม่ได้ขึ้นอยู่กับศาลแขวงแล้ว แต่ไปขึ้นอยู่กับศาลอาญาแทน” รอง ผบช.ก.กล่าว
แหล่งข่าว: ไทยรัฐ