“มองว่า ปี 2567 อาเซียนและประชาคมโลกโดดเดี่ยวประเทศไทย เพราะแหล่งผลิตฝิ่นรายใหญ่ที่สุดของโลกอยู่ที่สามเหลี่ยมทองคำ และยาเสพติดที่ถูกผลิตที่สามเหลี่ยมทองคำ”

ใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่าน

ข้อมูลความเป็นจริงของสถานการณ์ยาเสพติดที่ พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. วิเคราะห์ทิศทางการแก้ไขปัญหาการไหลทะลักเข้ามาของยาเสพติดจากแหล่งผลิตฝั่งชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน

โดยเฉพาะเฮโรอีน ยาไอซ์ ที่มีปลายทางไปยังออสเตรเลีย ฮ่องกง ไต้หวัน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ขณะที่ยาบ้าที่แพร่ระบาดในประเทศไทย สปป.ลาว และเมียนมา

พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ พบเลขาธิการอาเซียนและร้องขอว่า “อย่าโดดเดี่ยวประเทศไทย”

อาเซียนหันมาช่วยกัน

รัฐบาลไทยได้ช่วยเงินบางส่วนจากประเทศที่มีปัญหาเรื่องยาเสพติด แต่เงินก้อนนี้ยังไม่เพียงพอในการทำงาน ขอให้เลขาธิการอาเซียนพูดคุยกับประเทศที่ประเทศไทยช่วยสกัดเฮโรอีนเพื่อไม่ให้ไปสู่ประเทศที่สาม

ขอให้เลขาธิการอาเซียน ช่วยสนับสนุนเงินทุน และโดยเฉพาะสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ UNODC ควรจะเข้ามาช่วยเหลือไทย เพราะการปลูกฝิ่นมาอยู่ที่สามเหลี่ยมทองคำแล้ว อย่าโดดเดี่ยวประเทศไทย

เลขาธิการ ป.ป.ส. เน้นงานเชิงรุกในการเข้าปราบปรามมากขึ้น แหล่งผลิตยาเสพติดอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน พ่อค้ายาเสพติดทั้งคนไทยและต่างชาติหลบอยู่ในประเทศ สปป.ลาว และประเทศเมียนมา

ปลายเดือน พ.ย. สำนักงาน ป.ป.ส.จับกุมและแจ้งข้อหาพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ชาวเมียนมาและชาวไทย 13 ราย อยู่ใน 5 จังหวัดทางพื้นที่ภาคเหนือ เข้าตรวจยึดทรัพย์สินไม่น้อยกว่า 80 ล้านบาท

ตัดไฟแต่ต้นลม.

“เพลิงพยัคฆ์”
pluengpayak@thairath.co.th

คลิกอ่านคอลัมน์ “เลขที่1 วิภาวดีฯ” เพิ่มเติม