น้ำท่วมสงขลา 110 ตำบล 705 หมู่บ้าน ประชาชนเดือดร้อนกว่า 117,000 ราย และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 2 ศพ คาดหากไม่มีปริมาณฝนตกลงมาเพิ่มสถานการณ์จะเบาบางลง
วันที่ 29 พ.ย. 67 เวลา 10.30 น. สถานการณ์อุทกภัยจากฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ต่อเนื่องมาตั้งแต่วันที่ 25 – 28 พฤศจิกายน 2567 ส่งผลให้จังหวัดสงขลา นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ต้องประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติทั้ง 16 อำเภอ ซึ่งได้รับผลกระทบแล้ว 110 ตำบล 705 หมู่บ้าน 39 ชุมชน ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 48,947 ครัวเรือน รวม 117,009 ราย ในจำนวนนี้มีผู้อพยพ จำนวน 537 ครัวเรือน 2,034 ราย เสียชีวิต 2 ราย และได้รับบาดเจ็บ 3 ราย
ขณะที่หลายพื้นที่ของจังหวัดยังคงมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับน้ำทะเลหนุน ทำให้ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ พื้นที่ริมลำคลอง และพื้นที่ที่อยู่ติดริมทะเลสาบ
สถานการณ์อุทกภัยในครั้งนี้ ยังได้ส่งผลกระทบต่อทรัพย์สินและสาธารณูปโภคของพี่น้องประชาชน โดยสร้างความเสียหายให้กับบ้านเรือน จำนวน 109 หลัง พื้นที่เกษตรกรรมกว่า 10,522 ไร่ ถนน 22 สาย สะพาน 3 แห่ง คอสะพาน 1 แห่ง และโรงเรียน 2 แห่ง ขณะที่หน่วยงานท้องถิ่นกำลังเร่งสำรวจความเสียหายเพิ่มเติมเพื่อให้การช่วยเหลือ
สำหรับการให้ความช่วยเหลือนั้น จังหวัดสงขลาได้สั่งการให้อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และส่วนราชการให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ โดยได้แจกจ่ายอาหารจำนวน 24,102 กล่อง น้ำดื่ม 36,428 ขวด ถุงยังชีพ 4,671 ถุง ตั้งโรงครัว 37 แห่ง แจกจ่ายยาและเวชภัณฑ์ 4,994 ชุด และให้การช่วยเหลือด้านอุปกรณ์ เครื่องมือ เรือ 93 ลำ เครื่องสูบน้ำ 65 เครื่อง เครื่องผลักดันน้ำ 6 เครื่อง รถ 6 ล้อยกสูง 9 คัน กระสอบทราย 50,125 กระสอบ รวมถึงโครงการชลประทานสงขลา, ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 12 สงขลา, สำนักงานทรัพยากรน้ำที่ 8 และองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพื่อระบายน้ำในพื้นที่น้ำท่วม รวมถึงหน่วยงานทหาร, ตำรวจ, มูลนิธิฯ, อาสาสมัคร, สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสงขลาเข้าเผชิญเหตุในพื้นที่ที่เกิดอุทกภัย อำเภอ, องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ประสบอุทกภัย ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายเพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชน
ด้านนายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้เน้นย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนระดมกำลังและตรึงพื้นที่อย่างเต็มที่ในช่วงเวลานี้ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น และรักษาความปลอดภัยในพื้นที่อย่างเข้มงวด พร้อมกำชับให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานด้วยความรอบคอบและระมัดระวังสูงสุด เพื่อป้องกันเหตุไม่คาดฝันและสร้างความมั่นใจแก่ประชาชนในจังหวัด
ขณะที่แนวโน้มสถานการณ์จากการติดตามและประเมินสถานการณ์ ยังคงมีฝนตกตลอดทั้งวัน ทุกพื้นที่ ส่งผลให้แหล่งเก็บน้ำ ลำคลองต่าง ๆ มีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น ส่งผลให้พื้นที่ที่มีน้ำท่วมขังอยู่แล้วมีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นอีก คาดว่าจะมีสถานการณ์ไปอีก 1-2 วัน หากไม่มีปริมาณฝนตกลงมาเพิ่มสถานการณ์ก็จะเบาบางลง.
แหล่งข่าว: ไทยรัฐ