กองปราบฯบุกรวบ “ดาว” พี่เมียทนายตั้มคาสยามสแควร์ หลังศาลออกหมายจับคดีร่วมกันโกง “เจ๊อ้อย” ในส่วนของคดี 39 ล้านบาท เผยเบื้องหลังจับกุมเพราะให้การขัดแย้งในหลายประเด็น รวมทั้งพบหลักฐานอยู่ด้วยกันกับนุและสารินี คนสนิททนายตั้มขณะไปเบิกเงินเจ๊อ้อยออกจากธนาคาร และนำไปเก็บไว้ที่บ้านย่านพุทธมณฑล
ภายหลัง “ทนายสายหยุด เพ็งบุญชู” ประกาศขอยุติบทบาทเป็นทนายความให้นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ “ทนายตั้ม” เพราะรู้สึกตัวว่าเหมือนถูกหลอกให้รับทำคดีทนายตั้ม ซึ่งถูกกล่าวหาโกง น.ส.จตุพร หรือเจ๊อ้อย อุบลเลิศ “เศรษฐินีพันล้าน” ให้ลงทุนแพลตฟอร์มหวยออนไลน์จำนวน 71 ล้านบาท โดยนายษิทราถูกจับกุมพร้อมนางปทิตตา หรือเดือน เบี้ยบังเกิด ภรรยา ขณะนี้ทั้งคู่อยู่ในการควบคุมของกรมราชทัณฑ์ระหว่างการฝากขัง ส่วนพนักงานสอบสวน อยู่ระหว่างการดำเนินคดีในส่วนที่เจ๊อ้อยถูกฉ้อโกงเงินในส่วนที่เหลือ โดยเฉพาะคดีโกงเงิน 39 ล้านบาท พบการปั้นพยานหลักฐานเท็จแจ้งความเกี่ยวกับเรื่องถูกดูดเงินจากบัญชีบิทคอยน์ที่ สน.บางซื่อ เพื่อใช้เป็นหลักฐานหลอกเจ๊อ้อย จนนำมาสู่การจับกุมนายนุวัฒน์ หรือ “นุ” ยงยุทธ คนสนิททนายตั้ม และ น.ส.สารินี นุชนารถ แฟนสาวนายนุ หลังมีหลักฐานว่าทั้งคู่ไปถอนเงินสด 39 ล้านบาท ที่เจ๊อ้อยโอนมาจากธนาคารในห้างดังแห่งหนึ่ง ตามที่เสนอข่าวไปนั้น
ล่าสุดตำรวจออกหมายจับพี่เมียทนายตั้มร่วมกัน โกงเงิน 39 ล้านบาทแล้ว เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 26 พ.ย. พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. พ.ต.อ.สุริยศักดิ์ จิราวัสน์ ผกก.3 บก.ป.และพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ป. ไปยื่นคำร้องต่อศาลอาญา เพื่อขออนุมัติออกหมายจับ น.ส.ปิณฑิรา หรือดาว การิวัลย์ พี่สาวภรรยา นายษิทรา หรือทนายตั้ม ในความผิดฐาน “ร่วมกันฟอกเงิน และสมคบตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อฟอกเงิน” หลังพบหลักฐานว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีฉ้อโกงเงิน 39 ล้านบาท ของ น.ส.จตุพร หรือเจ๊อ้อย อุบลเลิศ ก่อนที่ศาลอาญาจะพิจารณาพยานหลักฐานต่างๆที่พนักงานสอบสวนนำมามอบให้แล้วเห็นควรให้อนุมัติการออกหมายจับในเวลาต่อมา
ทันทีที่ศาลอาญาอนุมัติหมายจับ พ.ต.อ.สุริยศักดิ์ จิราวัสน์ ผกก.3 บก.ป. นำกำลังจับกุม น.ส.ปิณฑิรา ได้ที่บริเวณย่านสยามสแควร์ เขตปทุมวัน พร้อมแจ้งข้อหาตามหมายจับก่อนนำตัวมาสอบสวนดำเนินคดีที่กองบังคับการปราบปราม โดย น.ส.ปิณฑิราสวมหมวกสีขาว เสื้อยืดแขนสั้นสีเทา กางเกงยีนส์ ถูกตำรวจพาตัวลงจากรถฝ่าสื่อมวลชนที่เฝ้ารอบันทึกภาพทำข่าวจำนวนมาก ที่หน้าประตูทางเข้าอาคารกองบังคับการปราบปราม โดยเจ้าตัวก้มหน้าไม่ยอมปริปากพูดกับสื่อมวลชนและถูกเจ้าหน้าที่พาตัวเข้าไปสอบสวนที่ กก.3 บก.ป.ทันที
สำหรับ น.ส.ปิณฑิราถูกตำรวจกองปราบฯจับได้ที่ชั้นล่างของอาคารสยามสเคป ภายในสยามสแควร์ ขณะนั่งรอรับลูกทนายตั้ม ที่มาเรียนพิเศษที่ย่านนี้ หลังจับกุมเจ้าหน้าที่ได้ประสานญาติมารับลูกทนายตั้มกลับบ้านไป
ทั้งนี้ สำหรับคดีหลอกลวงเงิน น.ส.จตุพร ขณะนี้มีด้วยกัน 4 ส่วน แบ่งเป็น คดีฉ้อโกงหลอกลงทุนแพลตฟอร์มหวยออนไลน์ 71 ล้านบาท คดีฉ้อโกงส่วนต่างซื้อรถเบนซ์ 13 ล้านบาท คดีฉ้อโกงค่าเขียนแบบก่อสร้างโรงแรม 9 ล้านบาท ในส่วนทั้ง 3 คดีแรก มีการดำเนินคดีกับนายษิทรา และ น.ส.ปทิตตา เบี้ยบังเกิด ภรรยานายษิทรา ไปก่อนหน้านี้แล้ว
ส่วนคดีสุดท้ายเป็นคดีฉ้อโกงเงิน 39 ล้านบาท มีการจับกุมนายนุวัฒน์ ยงยุทธ หรือนุ อายุ 34 ปี คนสนิททนายตั้ม และ น.ส.สารินี นุชนารถ อายุ 32 ปี แฟนสาวของนุ ไปก่อนหน้า ก่อนในวันนี้จะมีการออกหมายจับ น.ส.ปิณฑิรา หรือดาว พี่สาวภรรยานายษิทรา เพิ่มเติมอีก 1 ราย
สำหรับการออกหมายจับ น.ส.ปิณฑิรา สืบเนื่องจากคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนกองปราบฯ ได้สอบปากคำรวมทั้งรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ จนพบว่า น.ส.ปิณฑิราให้การขัดแย้งหลายประเด็น รวมทั้งตรวจสอบพบว่า นายนุและ น.ส.สารินีไปเบิกเงิน 39 ล้านบาท ที่ธนาคารในห้างสรรพสินค้าย่านลาดพร้าว น.ส.ปิณฑิราอยู่ด้วย รวมทั้งเป็นผู้นำเงินไปเก็บไว้ที่บ้านย่านพุทธมณฑล นอกจากนี้ ยังเป็นผู้รู้เรื่องการขนย้ายเงินต่างๆอีกด้วย
แหล่งข่าว: ไทยรัฐ