ผู้ใหญ่บ้านมอบตัวแล้ว หลังใช้ปืนตบหัวพนักงานขนส่ง เผย ทนไม่ได้เพราะถูกหาเรื่องมาก่อนหลายครั้ง พร้อมยืนยันไม่ได้บังคับให้ก้มกราบเท้า

กรณีที่โลกออนไลน์ได้เผยแพร่ คลิปเหตุการณ์ขณะที่ ผู้ใหญ่บ้านแห่งหนึ่งใน อ.ท่าศาลา ได้ใช้อาวุธปืนตบเข้าบริเวณศีรษะหนุ่มพนักงานขนส่งแห่งหนึ่ง จนเกิดบาดแผลแตกเลือดไหล ก่อนจะใช้อาวุธปืนข่มขู่บังคับให้หนุ่มคนดังกล่าวก้มกราบเท้า จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมาก

โดยชายหนุ่มที่โดนตบ ได้ไปรักษาตัวที่ รพ.ท่าศาลา ก่อนเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าศาลา ในช่วงกลางดึกของวันเดียวกัน ซึ่งเหตุเกิดเมื่อเย็น 8 พ.ย. 2567 ริมถนนสายในหมู่บ้าน ม.3 ต.ท่าศาลา อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช

ต่อมา นายแสนภูมิ จินา ผู้เสียหาย ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว โดยมีผ้าก๊อตปิดแผลที่ศีรษะจำนวน 2 แผล เล่าว่า ตนมีอาชีพรับส่งพัสดุสินค้าให้กับบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.ท่าศาลา โดยสาเหตุที่ตนถูกผู้ใหญ่บ้านคนดังกล่าว ใช้ปืนตบหัวและบังคับกราบเท้าตามคลิปนั้น เนื่องจากผู้ใหญ่บ้านคนดังกล่าวไม่พอใจตน ที่ส่งพัสดุชิ้นหนึ่งให้กับภรรยาของผู้ใหญ่บ้านล่าช้ามาหลายครั้งแล้ว จนสร้างความไม่พอใจให้กับผู้ใหญ่บ้านมาโดยตลอด

ซึ่งตนพยายามอธิบายว่า ตนทำหน้าที่ส่งพัสดุในพื้นที่หลายราย อาจจะล่าช้าไปบ้าง แต่ผู้ใหญ่บ้านคนดังกล่าวก็ยังไม่พอใจตนมาโดยตลอด จนกระทั่งวันเกิดเหตุ ผู้ใหญ่บ้านคนดังกล่าวได้ขับรถมาเจอตนกลางถนนในหมู่บ้าน จึงขับรถปาดหน้าและต่อว่าตนก่อนใช้ปืนตบหัวตนจนแตกเลือดอาบ แล้วยังบังคับตนกราบเท้า ทำให้ตนเกิดความกลัวจึงยอมกราบเท้าแล้วแยกย้ายกันไป

จากนั้นตนจึงเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.ท่าศาลา เพื่อให้ดำเนินคดีกับผู้ใหญ่บ้านคนดังกล่าว ในข้อหาทำร้ายร่างกายต่อไป ซึ่งหากทางผู้ใหญ่บ้านมาพบพูดคุยขอโทษ ตนก็พร้อมเพราะไม่อยากมีเรื่องหมางใจกับผู้ใหญ่บ้านคนดังกล่าวอีกต่อไป แต่ตอนนี้ก็ขอให้ตำรวจดำเนินคดีกับผู้ใหญ่คนดังกล่าวไปก่อน

ล่าสุดวันที่ 11 พ.ย.67 ที่สภ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช นายสุรินทร์ สุกสาน อายุ 48 ปี ผู้ใหญ่บ้าน ม.3 ต.ท่าศาลา ได้เดินทางเข้ามอบตัวกับ พ.ต.ท.วัชรินทร์ คงเพ็ชร สว.(สอบสวน) สภ.ท่าศาลา เจ้าของคดี โดยเบื้องต้นได้ให้การรับสารภาพว่าก่อเหตุใช้ปืนตบหัวนายแสนภูมิจริง

โดยเล่าว่า เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 4 พ.ย.ที่ผ่านมา นายแสนภูมิ ซึ่งเป็นพนักงานส่งพัสดุของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งได้โทรศัพท์ส่งสินค้าให้กับภรรยาของตนที่บ้านพัก แต่ปรากฏว่าเมื่อภรรยากลับถึงบ้าน ก็ไม่ได้รับพัสดุ แม้จะโอนเงินค่าสินค้าไปแล้วก็ตามจึงโทรศัพท์ตามตัวนายแสนภูมิ จนสร้างความไม่พอใจให้กับนายแสนภูมิ

และคืนนั้นขณะที่ตนไปช่วยงานศพของพ่อตานายแสนภูมิ นายแสนภูมิเดินเข้ามาในงานศพ พูดตะโกนเสียงโหวกเหวกว่ากลัวไม่หรอก ถึงแม้จะเป็นเมียผู้ใหญ่บ้านก็ตาม ซึ่งเมื่อตนได้ยินดังนั้น ก็สอบถามมีเรื่องอะไรกันเหรอ แต่ปรากฏว่ากลับถูกนายแสนภูมิ ด่าบุพการีของตนลั่นงาน ตนจึงยืนลุกขึ้นจากโต๊ะ ทำให้คนในงานและญาติเดินเข้ามาห้ามตน ส่วนนายแสนภูมิก็วิ่งไปหยิบเก้าอี้ในงานศพจะมาฟาดตีตน และยังด่าบุพการีของตนดังลั่นงาน แต่ก็มีคนในงานและญาติมาแยกตนและนายแสนภูมิออกจากกัน ก่อนที่ตนจะเดินทางกลับบ้าน

รุ่งเช้าตนก็ไปช่วยงานศพพ่อตาของนายแสนภูมิอีกครั้ง ก็ยังถูกนายแสนภูมิส่งเสียงเอะอะโวยวาย และด่าบุพการีตนอีก แต่ไม่มีเหตุการณ์อะไรรุนแรง เสร็จงานตนก็เดินทางกลับบ้านพักตามปกติ และเดินทางไปร้องเรียนพฤติกรรมของนายแสนภูมิ กับผู้จัดการบริษัทส่งพัสดุบริษัทดังกล่าว ซึ่งอาจจะสร้างความไม่พอใจ ที่ตนไปร้องเรียนบริษัทส่งพัสดุที่นายแสนภูมิทำงานอยู่

จนกระทั่งใกล้ค่ำวันที่ 8 พ.ย.ขณะตนกำลังขับรถยนต์ในหมู่บ้าน ได้พบกับนายแสนภูมิขี่รถ จยย.อยู่ด้านหน้าตนมีลักษณะขับรถส่ายไปมาในลักษณะก่อกวน ตนเกรงว่าจะเกิดความไม่ปลอดภัยกับตนได้ เพราะที่ผ่านมานายแสนภูมิเคยถูกร้องเรียนยิงปืนในหมู่บ้านเป็นประจำ จึงขับรถปาดหน้า รถ จยย.ของนายแสนภูมิ และสอบถามมีปัญหาอะไรไหม แต่กลับถูกนายแสนภูมิด่าบุพการีตนอีก ทำให้ตนฟิวส์ขาดสุดทนที่ถูกด่าบุพการีมาหลายครั้ง จึงกระชากคอเสื้อนายแสนภูมิ และชกต่อยนายแสนภูมิไป 2-3 ครั้ง และนายแสนภูมิก็ชกสวนตนมาด้วย

จากนั้นตนได้เปิดประตูลงจากรถดึงอาวุธปืน .38 ที่พกที่เอวด้านหน้า โดยดึงมาพร้อมซองพกปืนสีดำ ไม่ได้ดึงปืนออกจากซองก่อนใช้ปืนที่อยู่ในซองพกสีดำฟาดตีศีรษะนายแสนภูมิไปจำนวน 2-3 ครั้ง จนได้รับบาดเจ็บเลือดอาบ

จากนั้นนายแสนภูมิได้ยกมือไหว้ขอโทษตน และก้มลงกราบเท้าตนเองโดยไม่ได้มีการบังคับให้กราบตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด แต่นายแสนภูมิก้มลงกราบเอง ซึ่งตนก็นึกไม่ถึงว่านายแสนภูมิจะก้มกราบตน ทำให้ตนตกใจและรีบใช้มือตบไหล่ให้ลุกขึ้น เมื่อขอโทษกันก็เลิกแยกย้ายกันไปไม่มีอะไร

จนกระทั่งทราบว่านายแสนภูมิได้เข้าแจ้งความกับตำรวจพร้อมคลิปเหตุการณ์ก้มกราบดังกล่าว ส่วนอาวุธปืนที่ก่อเหตุเป็นอาวุธปืน .38 ของพรรคพวกคนหนึ่ง ที่ตนซื้อมาแต่ยังไม่ได้มีการโอน อยู่ระหว่างการดำเนินการโอนมาเป็นของตน

ผู้สื่อข่าวรายงาน ขณะที่นายสุรินทร์เดินทางมามอบตัวกับตำรวจ ได้มีญาติพี่น้องและนางจำเนียร ดิษฐรักษ์ อายุ 65 ปี แม่ยายของนายแสนภูมิ ผู้บาดเจ็บ เดินทางมาให้กำลังใจนายสุรินทร์ ผู้ใหญ่บ้านในครั้งนี้ด้วย โดยนางจำเนียรได้เล่าเหตุการณ์คืนเกิดเหตุในงานศพของพ่อตาของนายแสนภูมิ พบว่านายแสนภูมิลูกเขยไปด่าบุพการีนายสุรินทร์ผู้ใหญ่บ้านก่อน จนเกือบจะปะทะกัน และลูกเขยจะคว้าอีกไปฟาดผู้ใหญ่บ้านสุรินทร์ในงานศพ แต่มีคนห้ามไว้ทัน จนกระทั่งมาเกิดเหตุตามคลิปในภายหลังดังกล่าว

ด้านคดีของตำรวจ ทาง พ.ต.อ.อภิชาติ จันทร์สำเร็จ ผกก.สภ.ท่าศาลา เผยว่า ทางตำรวจได้แจ้งข้อหานายสุรินทร์ในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส, ข้อหาบังคับข่มขืนจิตใจผู้อื่นฯ และข้อหา พ.ร.บ.อาวุธปืน ซึ่งเบื้องต้นนายสุรินทร์ให้การรับสารภาพเพียงข้อหาทำร้ายร่างกาย และข้อหา พ.ร.บ.อาวุธฯ ส่วนข้อหาบังคับข่มขืนจิตใจผู้อื่นให้การปฏิเสธ ซึ่งได้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.