เจ้าอาวาสวัดหนองรี ตอกกลับ ยันไม่เคยรู้จักทนายตั้มมาก่อน และไม่เคยมีใครพบเห็นทนายตั้มเดินทางมาที่วัดหนองรีดังคำกล่าวอ้าง
จากกรณีตำรวจกองปราบฯ ประสานตำรวจทางหลวงเปิดปฏิบัติการสกัดจับกลางถนน “ทนายตั้ม” นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน และนางปทิตตา เบี้ยบังเกิด ภรรยา ในคดีหลอกลวงเงิน น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือเจ๊อ้อย เศรษฐินีชาวไทยอาศัยอยู่ประเทศฝรั่งเศส ให้ลงทุนซื้อแพลตฟอร์มหวยออนไลน์ 71 ล้านบาทเศษ และยังกล่าวหาว่าทนายตั้มหลอกลวงเงินอีกหลายครั้ง โดยตำรวจทั้ง 2 หน่วยจับกุมทั้งคู่ขณะอยู่ในรถปอร์เช่บริเวณใกล้แยกพนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อช่วงเที่ยงวันที่ 7 พ.ย. หรือในทันทีที่ศาลอาญาออกหมายจับทนายตั้ม ข้อหาฉ้อโกง ข้อหาฟอกเงิน ข้อหาร่วมกันฟอกเงินและสมคบฟอกเงิน ส่วนนางปทิตตาถูกศาลออกหมายจับข้อหาร่วมกันฟอกเงิน ก่อนคุมตัวทั้งคู่มาสอบปากคำที่กองปราบปรามทันที โดยตำรวจมีเหตุผลเชื่อว่าทั้งคู่เตรียมหลบหนีไปต่างประเทศ ขณะที่ทนายคนดังและภรรยาระหว่างถูกจับกุม ทั้งคู่อยู่ในชุดขาวอ้างว่ากำลังไปทำบุญสะเดาะเคราะห์ที่วัดแห่งหนึ่งใน จ.ฉะเชิงเทรา ตามที่เสนอข่าวไปนั้น
เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 9 พฤศจิกายน 2567 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังวัดหนองรี หมู่ 1 ตำบลพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา หลังมีการกล่าวอ้างจากทนายของทนายตั้มว่าก่อนถูกจับกุม ทนายตั้มได้เดินทางมาทำบุญที่วัดหนองรี ซึ่งเจ้าอาวาสวัดหนองรี พระครูสังวรธรรมรักษ์ และพระธนศักดิ์ สีลเตโช พระลูกวัด เผยกับผู้สื่อข่าวว่า ไม่รู้จักกับทนายตั้ม และไม่มีการติดต่อว่าจะเข้ามาทำบุญ และไปถามญาติโยมแล้ว ก็ไม่มีใครรู้จัก
“ทนายตั้มไม่เคยมานี่เลย ไม่เคยติดต่อเลย”
และตามที่กล่าวอ้างว่าจะมาทำบุญ พระอาจารย์คาดว่าทนายตั้มน่าจะพยายามจะไปชายแดน แต่โดนตำรวจจับกุมที่สี่แยกไฟแดงพนมสารคามเสียก่อน
โดยปกติที่วัดจะมีการปฏิบัติธรรมเฉพาะวันพระหรือวันสำคัญทางศาสนา ที่วัดจะมีสถานที่ให้ญาติโยมพักเวลามาปฏิบัติธรรม เจ้าอาวาสยังบอกอีกว่า ที่วัดนั้นไม่มีการอาบน้ำมนต์แต่อย่างใด
แหล่งข่าว: ไทยรัฐ