ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมสภากรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 9 ต.ค.67 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. ได้เสนอที่ประชุมสภา กทม. ขอรับความเห็นในการดำเนินการโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายที่ 2 ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ และหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต สืบเนื่องจากรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายที่ 2 เป็นเพียงบันทึกมอบหมายให้ระหว่าง กทม. กับบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด (เคที) จัดหาระบบการเดินรถ (ไฟฟ้าและเครื่องกล) และบริหารจัดการเดินรถ โดยมีเงื่อนไขให้เคทีนำรายได้จากค่าโดยสาร มาชำระค่าใช้จ่ายตามที่เกิดขึ้นจริง ทั้งนี้ หากไม่ชำระเงินส่วนต่อขยายที่ 2 ในอนาคตถูกฟ้องคดีได้ ซึ่งมีแนวทางตามคำพิพากษา ให้ กทม.และเคทีชำระค่าเดินรถพร้อมดอกเบี้ย

นายชัชชาติกล่าวว่า สำหรับแนวทางการชำระเงินส่วนต่อขยายที่ 2 ในอนาคต ดังนี้ 1.ให้ตั้งโครงการและเสนอเป็นข้อบัญญัติงบ ประมาณในลักษณะการก่อหนี้ผูกพัน เพื่อให้สภา พิจารณาให้ความเห็นชอบก่อน ลักษณะเดียวกับ ส่วนต่อขยายที่ 1 และ 2.ให้ตั้งงบประมาณราย จ่ายประจำปี เพื่ออุดหนุนส่วนต่างค่าใช้จ่ายของโครงการในส่วนที่ยังขาดอยู่ในแต่ละปี สำหรับปัญหารถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายที่ 2 เป็นปัญหาที่ซับซ้อนและมีความเกี่ยวข้องกับหลายฝ่าย อีกทั้งยังเป็นโครงการที่จะส่งผลกระทบต่อการบริหารจัดการงบประมาณของ กทม.ในอนาคต จึงขอให้สภา กทม.พิจารณานําเข้าคณะกรรมการการจราจรและการขนส่ง หรือคณะกรรมการวิสามัญเพื่อศึกษาปัญหา รวมทั้งตั้งคณะกรรมการวิสามัญเพื่อพิจารณาเฉพาะ ในกรณีส่วนต่อขยายที่ 2 เพื่อให้ได้ข้อยุติ ในแนวทางการดำเนินการโดยเร็วต่อไป

นายนภาพล จีระกุล ส.ก.เขตบางกอกน้อย กล่าวว่า จากที่ กทม.มีความประสงค์จะชําระหนี้ตามคําพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดเป็นค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุงโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว โดยจ่ายขาดจากเงินสะสมของ กทม. จำนวนเงิน 14,549,503,800 บาท ต่อมาคณะ กรรมการวิสามัญฯ ได้ทราบถึงข้อมูลว่า ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการจ้างเดินรถและซ่อมบำรุงโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยาย ดังนั้น คณะกรรมการวิสามัญฯ จึงมีมติให้ สจส.ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขอเอกสารเพิ่มเติมเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว แต่คณะกรรมการวิสามัญฯยังมิได้รับเอกสารตามที่ร้องขอแต่อย่างใด จึงเห็นควรให้ผู้ว่าฯ กทม.ทบทวนเรื่องนี้ และหาก กทม.มีความชัดเจนในเรื่องการชําระหนี้โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวแล้ว สามารถนําเสนอเข้าสู่การพิจารณาของสภา กทม.ต่อไป

ด้านผู้ว่าฯ กทม.ชี้แจงว่า เรื่องนี้ กทม.ได้ทำหนังสือเพื่อสอบถามถึงประเด็นดังกล่าว กับคณะกรรมการ ป.ป.ช. และสำนักงานอัยการสูงสุดถึงความชัดเจนแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการรอคำตอบกลับมา ดังนั้น จึงขอถอนเรื่อง ดังกล่าวก่อน.

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” เพิ่มเติม