ผู้ว่าฯ ปทุมธานี เข้าเยี่ยมและให้กำลังใจ 2 นักเรียนเหตุไฟไหม้รถบัส ที่ รพ.มธ. ขณะที่แพทย์อัปเดตอาการล่าสุด ยันรักษาเต็มที่ แผลในดวงตาเริ่มดีขึ้น
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 2 ต.ค. 67 นายภาสกร บุญญลักษณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ได้เดินทางมาที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ ตึกกิตติวัฒนา หอผู้ป่วยเมฆสวรรค์และหอผู้ป่วย PICU ชั้น 3 อาคารกิตติวัฒนา ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี โดยมี รศ.นพ.ดิลก ภิยโยทัย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ให้การต้อนรับพร้อมด้วยแพทย์ที่ทำการรักษาน้อง 2 คนที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุไฟไหม้รถบัสที่นำนักเรียนไปทัศนศึกษาเหตุเกิดเมื่อวันที่ 1 ต.ค. ที่ผ่านมา รวมทั้ง พม.จังหวัดปทุมธานี เพื่อเข้าเยี่ยม ด.ญ.อารดา จิรายุ อายุ 7 ปี นักเรียนชั้น ป.2 (ใส่ท่อช่วยหายใจ) และ ด.ญ.พิมพ์ธาดา พิมพ์ไพฑูรย์ อายุ 9 ปี นักเรียนชั้น ป.3 มีแผลไฟไหม้ตามร่างกาย 10% พร้อมกันนี้ยังได้พูดคุยกับครอบครัวเด็กทั้งสองคนและมอบกระเช้าพร้อมทั้งเงินจำนวนหนึ่งเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ
ด้านนายภาสกร บุญญลักษณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี กล่าวว่า ด้วยความห่วงใยของนายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ท่านมีความห่วงใยครอบครัวของน้องที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ตนเองพร้อมด้วยนายกเหล่ากาชาดจังหวัดปทุมธานีได้เดินทางที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ มาให้กำลังใจกับผู้ปกครองของเด็กนักเรียนทั้งสองคนที่รักษาตัวอยู่ ซึ่งโรงพยาบาลธรรมศาสตร์แห่งนี้มีเครื่องมือแพทย์ที่ทันสมัยพร้อมทั้งบุคลากรทางการแพทย์ที่เชี่ยวชาญมาก เมื่อคืนเด็กทั้งสองคนอาการไม่ดีเท่าไหร่ ซึ่งคนโตอายุ 9 ขวบ คนเล็กอายุ 7 ขวบ โดยเช้าวันนี้เด็กนักเรียนทั้งสองคนมีอาการที่ดีขึ้น
ส่วนของตัวคนขับรถนั้นทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ไปจับกุมตัวได้แล้วคือ นายสมาน และการตรวจดีเอ็นเอผู้สูญหายนั้นเราได้เคลื่อนย้ายไปที่นิติเวชโรงพยาบาลตำรวจตั้งแต่เมื่อวานเพื่อพิสูจน์อัตลักษณ์ครบถ้วนแล้ว และคาดว่าในเร็ว ๆ นี้ก็จะสามารถเคลื่อนย้ายศพออกไปได้
ส่วน รศ.นพ.ดิลก ภิยโยทัย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ กล่าวว่า น้องคนแรกอายุ 9 ขวบถูกไฟไหม้ประมาณ 30% ถือว่ารุนแรง ทางแพทย์ได้ช่วยชีวิตเรื่องการหายใจและทางเดินหายใจ จากการส่องกล้องดูแล้วพบว่ามีรอยที่หัวใจส่วนบน และตามีอาการบาดเจ็บที่กระจกตา ทางเราก็ให้การรักษาอย่างเต็มที่มีการให้ยาปฏิชีวนะและการให้ความชุ่มชื้นที่ตาและได้มีการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการนำเกล็ดเลือดเข้ามาหยอดให้การซ่อมแซมดีขึ้นรวมทั้งอุปกรณ์การป้องกัน และมีสัญญาณชีพเป็นปกติแล้ว แผลในดวงตาเริ่มดีขึ้นและต้องเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด
ส่วนเด็กอายุ 7 ขวบมีแผลถูกไฟไหม้ประมาณ 20% ที่บริเวณคอและเกี่ยวกับทางเดินหายใจมีเขม่าเข้าไป ด้านร่างกายต้องใส่เครื่องช่วยหายใจอยู่ ส่วนที่ดวงตามีบาดเจ็บที่ลึกลงไปและให้การรักษาด้วยเทคโนโลยี และจะต้องติดตามความคืบหน้าทุกวัน เราพยายามรักษาชีวิตและอวัยวะส่วนต่าง ๆ ที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งทั้งสองคนมีภาวะที่ดีขึ้น.
แหล่งข่าว: ไทยรัฐ