ศาลเกาะสองตัดสินจำคุก 4 ตังเกไทยหัวโต ยัด 2 ข้อหาหนัก ทำประมงรุกล้ำน่านน้ำและลอบเข้าเมือง ไต๋เรือโดน 5 ปี ปรับ 2 แสนจ๊าด ไม่จ่ายเจอคุกเพิ่ม 1 ปี ส่วนลูกเรือคนละ 3 ปี ปรับ 2 หมื่นจ๊าด ยังไม่คืนเรือ ส.เจริญชัย 8 อยู่ระหว่างพิจารณาจะยึดหรือไม่ ครอบครัวเหยื่อช็อก ร่ำไห้หวั่นกระทบสุขภาพ เพราะแต่ละคนอายุเยอะแล้ว “นายกฯอิ๊งค์” บอกแค่กระบวนการพิจารณาคดีปกติ ยันมีข่าวดีหลังปีใหม่ ด้าน “มาริษ” อ้อมแอ้มตอบเป็นไปตามกฎหมายเมียนมา แต่ได้อาศัยความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างประเทศพูดคุยให้อภัยโทษแล้ว หลานชายโกสาบอกเชื่อมั่นในคำพูดนายกฯ มั่นใจคนไทยจะได้รับอิสรภาพแน่นอน
กรณีทหารเรือเมียนมายิงใส่เรือประมงไทย ขณะทำประมงอวนล้อมอยู่ในทะเลอันดามัน ห่างเกาะพยาม จ.ระนอง 12 ไมล์ทะเล ทำให้ลูกเรือตกน้ำเสียชีวิต 1 ศพ บาดเจ็บ 2 ราย ยึดเรือ ส.เจริญชัย 8 พร้อมจับลูกเรือไทย 4 คน ทราบชื่อนายสุนันท์ มงกุฎทอง อายุ 68 ปี นายสมปอง วิวัฒน์ อายุ 61 ปี ช่างเครื่อง นายถาวร พรหมนิมิต อายุ 64 ปี ช่างเครื่อง และนายวิโรจน์ สพานทอง ณ นคร อายุ 69 ปี หรือโกสา เจ้าของเรือ/ไต้ก๋งเรือ พร้อมลูกเรือเมียนมา 27 คน ไปขังคุกบนเกาะสอง ฝั่งเมียนมา เหตุเกิดกลางดึกคืนวันที่ 30 พ.ย. ต่อมารัฐบาลออกมาประกาศว่าได้ส่งทูตไปเจรจา ทางการเมียนมายอมปล่อยตัวลูกเรือแล้ว แต่ผ่านมากว่าครึ่งเดือน ยังไม่มีวี่แววว่าลูกเรือจะได้รับอิสรภาพ ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ว่าหลังปีใหม่จะมีข่าวดีเรื่อง 4 ลูกเรือไทย ทำให้ครอบครัวมีความหวัง จะได้ฉลองปีใหม่พร้อมหน้าพ่อแม่ลูก แต่แล้วความฝันต้องพังทลายเมื่อศาลเมียนมาตัดสินจำคุกลูกเรือทั้งหมด
ความคืบหน้าเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แหล่งข่าวจาก จ.เกาะสอง ประเทศเมียนมา ได้แจ้งข้อมูลการตัดสินคดีความของลูกเรือไทย 4 คน ที่ถูกเรือรบทหารเมียนมาจับกุมตัวพร้อมลูกเรือชาวเมียนมาอีก 27 คน และยึดเรือประมง ส.เจริญชัย 8 ไว้ที่เกาะย่านเชือก จังหวัดเกาะสอง เมื่อวันที่ 30 พ.ย. ขณะทำประมงในพื้นที่ทับซ้อนบริเวณใกล้เกาะพยาม จ.ระนอง ว่า ศาลจังหวัดเกาะสอง ได้ตัดสินจำคุกไต้ก๋งเรือเป็นเวลา 5 ปี ในข้อหาลักลอบทำประมงในน่านน้ำประเทศเมียนมาโดยไม่ได้รับอนุญาต และตัดสินจำคุก 1 ปี ในข้อหาลักลอบเข้าประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาต รวมจำคุก 6 ปี และปรับเงิน 200,000 จ๊าด หรือประมาณ 3,240 บาท
ส่วนลูกเรือไทยอีก 3 คน จำคุกคนละ 3 ปี ในข้อหาทำประมงในน่านน้ำประเทศเมียนมาโดยไม่ได้รับอนุญาต และตัดสินจำคุก 1 ปีในข้อหาลักลอบเข้าประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาต รวมจำคุกคนละ 4 ปี และปรับคนละ 20,000 จ๊าด ราว 324 บาท ขณะที่ลูกเรือเมียนมาอีก 27 คน จำคุกคนละ 3 ปีเช่นกัน ส่วนเรือประมง ส.เจริญชัย 8 อยู่ระหว่างพิจารณายึดเรือหรือไม่ และได้สั่งให้นำเรือจากเกาะย่านเชือกมาเทียบที่ท่าเกาะสองไว้แล้ว คณะกรรมการประสานงานชายแดนส่วนท้องถิ่นไทย-เมียนมา หรือ TBC จ.ระนอง ได้ประสานกับ TBC จ.เกาะสอง ให้รายงานผลการดำเนินคดีเป็นเอกสารให้ทราบต่อไป
เวลา 16.45 น. ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯให้สัมภาษณ์กรณีศาลเกาะสองสั่งจำคุก 4 ลูกเรือไทยว่า ได้รับรายงานข้อมูลจาก รมว.ต่างประเทศ ว่ากระบวนการนี้เป็นกระบวนการปกติ ที่จะต้องให้มีคำพิพากษาคดีแบบนี้ แล้วจะมีการอภัยโทษต่อเนื่องมา เราได้พูดคุยเรื่องนี้ประสานเรียบร้อยแล้วว่าจะต้องให้มีอภัยโทษเกิดขึ้น เมื่อถามว่าที่นายกฯเคยระบุว่าจะมีข่าวดีเรื่อง 4 ลูกเรือไทยหลังปีใหม่ยังอยู่ในกรอบเดิมใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ตอนนี้ยังเป็นไปตามกรอบเดิม เมื่อถามต่อว่า ยืนยันว่า 4 คนไทยจะได้รับการปล่อยตัวหลังปีใหม่ใช่หรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ที่คุยไว้ตอนนี้เป็นอย่างนี้
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ ว่า 4 ลูกเรือไทยต้องติดคุกก่อนใช่หรือไม่ นายมาริษตอบว่า ไม่ใช่ติดคุก เพียงแต่เป็นกระบวนการภายในของเมียนมาเหมือนปกติทั่วไป เพราะเขามีข้อหาว่าไปละเมิดน่านน้ำ ต้องเป็นไปตามขั้นตอนที่ต้องดำเนินการตามกฎหมาย หากไม่ทำอะไรก็เป็นความผิดรัฐบาลเขา แต่เราได้ประสานความร่วมมือ ขอเออรี่ รีลิตส์ หรือขอปล่อยตัวก่อนกำหนดมาตั้งแต่ต้นแล้ว ต้องให้กระบวนการภายในของเขาเรียบร้อยก่อน เหมือนกับกระบวนการภายในของเราที่ต้องดำเนินคดี ต้องพิจารณาตามกระบวนการยุติธรรม
เมื่อถามว่ากระบวนการดังกล่าวจะไม่ยืดเยื้อใช่หรือไม่ นายมาริษกล่าวว่า ณ ขณะนี้ไม่มี เมื่อถามต่อว่าคำพิพากษาที่ออกมาอาจต้องติดคุก 4-6 ปี นายมาริษกล่าวว่า นั่นคือกระบวนการพิจารณาของเขา แต่ในความร่วมมือ ในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่ดีระหว่างประเทศ สามารถที่จะคุยกันเพื่อให้อภัยโทษได้ เมื่อถามอีกว่าล่าสุดน่านน้ำระนองจับกุมชาวเมียนมา ตรงนี้จะมีการเจรจาแลกเปลี่ยนกันหรือไม่ นายมาริษกล่าวว่า คงไม่เกี่ยวกัน เมื่อถามต่อว่า ยืนยันว่า 4 คนไทยจะได้รับการปล่อยตัวหลังปีใหม่ใช่หรือไม่ นายมาริษกล่าวว่า “ณ ขณะนั้น เป็นอย่างนั้น”
ต่อมาช่วงค่ำวันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์สัมภาษณ์นายสุดเขต หรือไก่ สำราญรัตน์ หลานชายของโกสา เจ้าของเรือ ส.เจริญชัย 8 ให้ข้อมูลว่า เมื่อช่วงเช้าได้พานางปริญกมร ธัญชร อายุ 63 ปี หรือ ป้าบ๊วย ภรรยาโกสา พร้อมบุตรชาย และญาติๆ เดินทางข้ามไปยัง จ.เกาะสอง ฝั่งเมียนมา ผ่านทางด่าน ตม.จ.ระนอง เพื่อเยี่ยมโกสาพร้อมลูกเรือ และร่วมฟังคำพิพากษาของศาลเมียนมา ต่อมาช่วงบ่าย เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้เบิกตัวโกสา และลูกเรือทั้งคนไทยและชาวเมียนมา รวม 31 คน เดินทางมายังศาล สภาพคนไทยทั้ง 4 คนอยู่ในอาการอิดโรย สีหน้าแววตาเคร่งเครียด วิตกกังวล มือทั้งสองข้างถูกพันธนาการด้วยโซ่ตรวนร้อยเรียงกัน ระยะห่างประมาณ 1.5 เมตรต่อคน ตนและญาติๆไม่ได้เข้าไปทักทายหรือพูดคุยไต่ถามสารทุกข์สุกดิบ เพราะถูกกันตัวไว้ภายนอกห้องพิจารณาคดี
นายสุดเขตเล่าบรรยากาศต่อไปว่า ศาลจังหวัดเกาะสองได้พิพากษาตัดสินจำคุกโกสา ที่รับสารภาพเป็นเจ้าของและไต้ก๋งเรือ 5 ปี ในข้อหาทำประมงรุกล้ำน่านน้ำ และตัดสินปรับเงิน 2 แสนจ๊าด ในข้อหาลักลอบเข้าเมือง หากไม่จ่ายค่าปรับให้จำคุกเป็นเวลา 1 ปี ส่วนลูกเรือชาวไทยทั้ง 3 คน ถูกจำคุกคนละ 3 ปี ในข้อหารุกล้ำน่านน้ำ และปรับคนละ 2 หมื่นจ๊าด ข้อหาลักลอบเข้าเมือง หากไม่จ่ายค่าปรับให้จำคุก 1 ปี ขณะที่ลูกเรือชาวเมียนมาถูกจำคุกคนละ 3 ปี ในข้อหาทำประมงรุกล้ำน่านน้ำ และรอพิจารณาคดีในข้อหาอื่นๆอีกครั้ง
“หลังศาลพิพากษา ป้าบ๊วยถึงกับตกใจหน้าถอดสี มีอาการช็อก ส่วนลูกชายได้ปล่อยโฮออกมาเพราะสงสารพ่อ เนื่องจากเป็นห่วงสุขภาพ กลัวจะทรุดลงเพราะอายุมากแล้ว ตนได้แต่ปลอบใจให้ตั้งสติและใจเย็น จากนั้นได้ไปจ่ายค่าปรับให้กับคนไทยทั้ง 4 คน เพื่อระงับโทษจำคุก 1 ปีข้อหาลักลอบเข้าเมืองก่อน ส่วนข้อหารุกล้ำน่านน้ำที่มีโทษหนัก ส่วนตัวยังเชื่อใจและเชื่อมั่นในคำพูดของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่บอกว่าจะมีข่าวดีหลังปีใหม่ และยืนยันว่าคนไทยทั้งหมดจะได้รับอิสรภาพไม่ต้องติดคุกพม่าหัวโตแน่นอน” นายสุดเขตกล่าวด้วยน้ำเสียงมั่นใจ
แหล่งข่าว: ไทยรัฐ