ช่างเครื่องหนุ่มดวงดับ ขี่รถ จยย. ไปส่งแฟนสาว แล้วกำลังกลับคอนโดฯย่านพระราม 2 ระหว่างทางขี่รถปาดหน้ากับรถ จยย.คู่กรณีไปมาจนถึงที่พัก คิดว่าไม่มีอะไรแล้ว แต่ถูกตามมาเอาเรื่องเกิดชกต่อย ถูกคู่กรณีชักมีดแทงเข้าอกซ้ายอย่างจัง 1 แผล ทั้งๆที่หญิงสาวที่ซ้อนท้ายมากับมือมีดร้องห้าม พลเมืองดีเห็นเหตุการณ์อุ้มขึ้นรถ จยย.จะพาไปส่งโรงพยาบาล แต่ไปได้ไม่กี่เมตรขาดใจตาย มือมีดสำนึกผิดเข้ามอบตัวแล้ว อ้างขี่รถ จยย.ปาดกันตามมาถึงคอนโดฯผู้ตาย อ้างถูกผู้ตายชกต่อยก่อนจนเกิดตะลุมบอน ชักมีดที่พกมาแทงใส่ครั้งเดียวเสียชีวิต อยากขอโทษครอบครัวผู้ตาย ถูกแจ้งข้อหาหนักฆ่าคนตายโดยเจตนา

ช่างเครื่องหนุ่มขี่รถ จยย.ปาดกับคู่กรณีเกิดทะเลาะวิวาทแทงกันดับรายนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 16 ธ.ค. ร.ต.ท.ไพศาล เงินทอง รอง สว.(สอบสวน) สน.ท่าข้าม รับแจ้งเหตุชายถูกอาวุธมีดแทงเสียชีวิตบริเวณแยกม่วงสกุล ใกล้อีส พระราม 2 คอนโดมิเนียม ถนนเอกชัย ซอยเอกชัย 83/1 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ รายงานผู้บังคับบัญชาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบที่เกิดเหตุ ประกอบด้วย ชุดสืบสวน สน.ท่าข้าม เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) แพทย์นิติเวช โรงพยาบาลศิริราช และอาสาฯมูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุริมถนนเอกชัยพบศพนายอภิวิชญ์ เชิงเพาะพานิช อายุ 23 ปี ชาว จ.ลำปาง นอนหงายจมกองเลือดในชุดเสื้อวอร์มแขนยาวสีดำ กางเกงยีนส์ ตรวจสอบตามร่างกายพบบาดแผลฉกรรจ์จากการถูกแทงใต้ราวนมซ้าย 1 แผล บริเวณหน้าคอนโดฯพบกองเลือด หมวกกันน็อก โทรศัพท์มือถือ ผ้าพันคอ รองเท้าฟองน้ำของผู้ตาย และมีดปลายแหลมยาว 10 นิ้ว เปื้อนเลือดของคนร้ายตกอยู่ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

สอบสวนทราบว่า นายอภิวิชญ์เป็นช่างเครื่องทำงานอู่ซ่อมรถย่านท่าข้าม ก่อนเกิดเหตุขี่รถจยย.ออกไปส่งแฟนสาวย่านสุขุมวิท กำลังขี่รถกลับคอนโด อีส พระราม 2 เมื่อขี่รถ จยย.มาถึงซอยบางบอน 1 ขี่รถปาดกับรถ จยย.ฮอนด้า พีซีเอ็กซ์ สีแดง ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน มีชายสวมหมวกกันน็อกลักษณะคล้ายเด็กช่างกล และหญิงสาวซ้อนท้ายมาด้วย ขี่รถ จยย.ปาดหน้ากันไปมาหลายครั้งจนกระทั่งถึงคอนโดฯที่พัก

หลังจากนั้นนายอภิวิชญ์คิดว่าไม่มีอะไรแล้ว หลังจอดรถ จยย.กำลังจะเดินขึ้นห้องพัก ปรากฏว่าคู่กรณียังขี่รถ จยย.ตามเข้ามาชกต่อย แล้วชักอาวุธมีดออกมาแทงนายอภิวิชญ์จนเสียชีวิต ทั้งๆที่หญิงสาวที่ซ้อนมากับคนร้ายพยายามตะโกนห้ามว่า “อย่าแทง” หลังเหยื่อฟุบไปคนร้ายรีบขี่รถ จยย.หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว พลเมืองดีที่เห็นเหตุการณ์พยายามเข้าช่วยเหลือนำตัวนายอภิวิชญ์ซ้อนท้ายรถ จยย.จะไปส่งโรงพยาบาลนครธน แต่ไปได้ไม่กี่ 10 เมตรนายอภิวิชญ์ก็สิ้นใจตาย

เบื้องต้นชุดสืบสวน สน.ท่าข้าม เร่งตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดทั้งก่อนและหลังเกิดเหตุ หาพาหนะและเส้นทางหลบหนีของคนร้าย เพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป

ต่อมาเวลา 10.00 น.ที่ สน.ท่าข้าม นายเจนณรงค์ หรือบาส โชติช่วง อายุ 24 ปี อาชีพพนักงานส่งของบริษัทแห่งหนึ่งย่านสำเพ็ง 2 เข้ามอบตัวกับ พ.ต.อ.เลิศศักดิ์ เขียมทรัพย์ ผกก.สน.ท่าข้าม พ.ต.ท.ไกรฤกษ์ สิทธิโชติ สว.สส.สน.ท่าข้าม และ พ.ต.ต.บัญชา ปิยะศักดิ์สกุล สว.สส.สน.ท่าข้าม เพื่อรับทราบข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และข้อหามีและพกพาอาวุธมีดเข้าไปในเมืองโดยผิดกฎหมาย

นายเจนณรงค์ หรือบาส ให้การว่า เป็นเพราะอารมณ์ฉุนเฉียวและขาดสติ เมื่อคืนถูกผู้ตายชกต่อยก่อน หลังถูกผู้ตายขับขี่รถ จยย.ปาดหน้าแถวปากซอยเอกชัย 50 ก่อนขี่รถ จยย.หนี ตนขี่รถ จยย.ไล่ตามผู้ตายถึงคอนโดฯที่เกิดเหตุ พกมีดลงไปด้วยเพื่อป้องกันตัว ตอนแรกหวังจะพูดคุย แต่ถูกผู้ตายชกต่อยทำร้ายร่างกายก่อนจึงเกิดชกต่อยกัน จังหวะที่ผู้ตายล้มลงตนใช้อาวุธมีดแทงเข้าที่หน้าอกผู้ตายหวังเพียงป้องกันตัว หลังเกิดเหตุตนและแฟนสาวขี่รถกลับมาที่ห้องเช่าในซอยพระราม 2 แยก 20 ก่อนเข้ามามอบตัวช่วงสายวันนี้

“ผมยืนยันว่าสำนึกผิดในสิ่งที่ทำลงไป และไม่ตั้งใจให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ส่วนอาวุธมีดเป็นมีดทำครัวยาว 9 ซม. ผมพกไว้เพื่อใช้ป้องกันตัวเอง เพราะขี่รถ จยย.ตอนกลางคืนบ่อยครั้ง เนื่องจากทำอาชีพเสริมไรเดอร์ด้วย อยากขอโทษและแสดงความเสียใจไปยังครอบครัวผู้ตาย ผมไม่ตั้งใจเจตนาให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น” นายเจนณรงค์กล่าว